1. Selfie (เซลฟี่) เป็นการถ่ายภาพตัวเองด้วยกล้องดิจิทัลเพื่อโพสต์บนโซเชียลเน็ตเวิร์คโดยเฉพาะ คำว่า ‘Selfie’ ถูกเริ่มต้นใช้ครั้งแรกในปี 2002 ในห้องสนทนาออนไลน์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งผู้ใช้อธิบายภาพถ่ายของตนและบอกว่าเป็นภาพที่ถ่ายตัวเองด้วยกล้องมือถือ (It was a selfie) แต่มาฮิตแบบระเบิดเถิดเทิงก็ตอนงานออสก้าที่ Ellen Degeneres ใช้มือถือของตัวเองถ่าย ‘เซลฟี่’ กับดารานักแสดงนำกลางงานออสก้านั่นเอง
2. Hashtag (แฮชแท็ก) มีลักษณะเป็นสัญลักษณ์ "#" จุดประสงค์ในการใช้คือรวมเนื้อหาหรือเรื่องราวโพสต์ที่มีความใกล้เคียงกันมารวมเข้าไว้เป็นหมวดเดียวกันเพื่อประโยชน์ในการค้นหาข้อมูล มีการใช้งานอย่างแพร่หลายและเป็นที่นิยมมากบนโซเชียลมีเดียหลายประเภท เช่น Twitter, Tumblr, Pinterest และ Instagram แต่กลับเพิ่งเริ่มมีการใช้งานในวงกว้างบน Facebook เมื่อไม่นานมานี้
3. Tweet (ทวีต) อีกหนึ่งคำฮิต ที่หมายถึงข้อความสั้นๆ ที่ส่งเป็น sms เพื่อบอกเล่าสถานะให้เพื่อนฝูงได้รับรู้ว่าอยู่ที่ไหน ทำอะไรกับใครอยู่ แต่เดิม Tweet หมายถึงข้อความสั้นๆ ซึ่งบอกเล่าสถานะของผู้ใช้ผ่านเวปไซด์ที่มีชื่อว่า Tweeter
4. Legsie (เลคซี่) คือพวกที่ชอบถ่ายรูปขาตัวเอง จะพบบ่อยบนอินสตาแกรม พวกสาวๆ จะชอบถ่ายขาอ่อนตัวเองตอนนอนอาบแดดแล้วโพสในอินสตาแกรม ส่วนสาวไทยก็ถ่ายกันได้แบบว่าไม่ต้องอาบแดด สามารถโชว์เรียวขาผ่านอินสตาแกรมกันได้ทุกที่ทุกเวลาไม่เชื่อลอง "#legsie" กันดูแล้วคุณจะรู้ว่ามันฮิตแค่ไหน
5. Facestalking (เฟส สตอล์ค คิ่ง) เรียกง่ายๆ ว่า “นักสืบเฟสบุค” เป็นการใช้เฟสบุคเพื่อสืบค้นประวัติของคนๆ หนึ่งที่เราสนใจ ยกตัวอย่างเช่น สาวๆ ที่มาไลค์รูปแฟนเราบ่อยๆ ก็มักจะตามไปสืบค้นประวัติตั้งแต่อนุบาลยันจบปริญญาตรี บ้านอยู่ไหน เรียนอะไร ทำงานที่ไหน แอบดูอยู่ตลอดเวลาผ่านเฟสบุค
6. Staycation (สเตเคชั่น) มาจากคำว่า stay+vacation หมายถึงการพักผ่อนอยู่บ้าน เป็นคำที่ฮอตฮิตมากในอเมริกาช่วงที่เกิดวิกฤติน้ำมันแพง เลยไม่อยากไปไหนจึงเลือกที่จะพักร้อนทำบาร์บีคิวปิ้งย่างอยู่ที่บ้านจะดีกว่า เลยเป็นที่มาของคำว่า “Staycation” นอนพักอยู่ที่บ้านกันดีกว่า
7. Amazeballs (อเมซบอลซ์) คล้ายๆ คำว่า Amazing ที่แปลว่า น่าทึ่ง น่าตื่นตาตื่นใจ แต่ Amazeballs เป็นขั้นสุดยอดของคำว่าอะเมซิ่ง ที่แปลว่า "เจ๋งสุดๆ โดนมากๆ" เริ่มเผยแพร่มาจากบล็อกเกอร์ซุบซิบดารา Perez Hilton จนกระจายไปทั่วเว็บและแทรกซึมเข้าไปในภาษาวัยรุ่นที่เบื่อการใช้คำว่า amazing ในการกล่าวชื่นชมอะไรก็ตามที่ตัวเองชอบ
8. Catfish (แคทฟิช) กล่าวถึงบุคคลที่ชอบทำโปรไฟล์ปลอม เอารูปของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง มโนว่าเป็นคนๆ นั้นบนโลกแห่งโซเชียลเน็ตเวิร์ค เพื่อจุดประสงค์ไม่ดี
9. Chillaxing (ชิลแลกซ์ซิ่ง) เกิดจากการการผสมคำ Chilling กับ Relaxing แปลว่าการผักผ่อนแบบชิลๆ ความรู้สึกสบาย ผ่อนคลายอย่างเดียวไม่พอมันต้องชิลด้วย เลยกลายมาเป็น Chillaxing อะไรจะสบายขนาดนั้นว่ามั๊ย!!!
10. Photobomb (โฟโต้บอม) เรียกง่ายๆ ว่าการขโมยซีนชาวบ้านเขาอย่างเจ็บแสบ ขณะที่คุณกับเพื่อนกำลังโพสท่าสวยๆ ให้ตากล้องแชะภาพอยู่แล้วจู่ๆ ก็มีจอมขโมยซีนกระโดดมาด้านหลังเพื่อขอมีเอี่ยวด้วย โดยที่คุณไม่รู้ตัวและเจ็บจี๊ดยิ่งขึ้น เมื่อรู้ว่าภาพที่ออกมาคนข้างหลังโพสท่าได้เจ๋งกว่าเราซะงั้น!!!
11. Flash mob (แฟลชม็อบ) กลุ่มคน (mob) ที่มารวมตัวกันแป๊ปนึง (Flash) ในที่สาธารณะ เพื่อทำอะไรบางอย่าง อย่างเช่น การเต้น, เล่นดนตรี หรือ ร้องเพลง หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้วก็จะสลายตัวไป ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ความสนุกสนานเพื่อสร้างความแปลกใจกับคนอื่น คล้ายๆ ปรากฎการณ์ฮาเร็มเชคนั่นเอง
12. Frenemy (เฟรเนมี่) เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด คำศัพท์ยอดฮิตของเด็กไฮสคูล ใช้พูดถึงคนที่แกล้งเป็นเพื่อนมาทำดีด้วย แต่จริงๆ แล้วแอบหวังร้ายกับเรานั่นเอง
13. Adorkable (อะดอร์คเรเบิ้ล) หมายถึง ‘แปลกแต่น่ารัก’ หรือ ‘น่ารักแบบพิลึกๆ’ เป็นการผสมกันของคำว่า adorable = น่ารักน่าเอ็นดู กับ dork = คนที่มีพฤติกรรมแปลกๆ (คล้ายๆ nerd หรือ geek) แต่มีอารมณ์ขันและเข้าสังคมได้ดีเลยเป็นที่มาของคำว่า แปลกแต่น่ารักนะเออ!!!
14. Phubbing (ฟับบิ้ง) ‘โอมจงเงย’ เป็นอาการของคนที่ตัดขาดจากโลกภายนอก นั่งเล่นแต่โทรศัพท์ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุค ไลน์ หรือทวิตเตอร์ โดยไม่สนใจเพื่อนหรือคนรอบตัวเลย
15. Attention seeker (แอทแทนชั่น ซีคเคอร์) คือพวกที่เรียกร้องความสนใจตลอดเวลา ต้องโพสข้อความ อัพรูปบ่อยๆ เขียนเรื่องเว่อร์ๆ เช็คเรตติ้งเป็นระยะเก็บสะสมยอดไลค์