10 สุดยอด Unseen ช่วงหน้าหนาวต้องไปเยือน
ใกล้หมดฤดูฝนเราก็มาหาที่เที่ยวหน้าหนาวไว้รอ เผื่อไว้เป็นตัวเลือกจะได้วางแผนเดินทางหาที่พักได้แบบชิลล์ๆตรงตามที่ต้องการ เพราะหากจองใกล้ๆอาจเกิดเหตุที่พักที่อยากไปซุกนอนรับอากาศเย็นดันเต็ม ต้องวิ่งหาที่ใหม่กันนะจ๊ะ เดี๋ยวเสียเวลากับการหาที่พักหมดเวลาเที่ยวจะไม่สนุกน๊าา ว่าแต่เพื่อนๆ วางแผนหรือมีสถานที่เที่ยวหน้าหนาวไว้ในใจกันหรือยัง ถ้ายัง EDTguide มี 15 สุดยอด Unseen ช่วงหน้าหนาวต้องไปเยือนมาแนะนำกันอีกแล้วค๊าาาา
ภูทอก เป็นภูเขาสูง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง บนยอดภูเป็นที่ตั้งของสถานีโทรคมนาคมเชียงคาน และเป็นจุดชมวิวทิวทิวทัศน์ที่สวยงามของอำเภอเชียงคาน มีถนนขึ้นวนรอบบนภูเป็นลานดิน จึงเป็นจุดชมทิวทัศน์เมืองเชียงคาน แม่น้ำโขงและฝั่งลาวได้รอบทิศทาง โดยเฉพาะตอนพระอาทิตยืขึ้น หรือ ตกดิน ซึ่งเป็นช่วงที่งดงามมาก และในยามเช้าในวันที่อากาศเป็นใจหรือช่วงฤดูหนาวสามารถชมทะเลหมอกที่สวยงามได้ไม่แพ้ที่ไหนๆ
การเดินทาง
จากตลาดเชียงคานใช้ทางหลวงหมายเลข 211 ไปทาง อ.ปากชม เมื่อผ่านทางแยกเข้าแก่งคุดคู้ไปไม่ไกล จะพบทางแยกขวามือ ปากทางมีป้ายสถานีโทรคมนาคมเชียงคาน ให้เลี้ยวเข้าไปตามถนนอีก 5 กม. จะถึงยอดภูทอก
จากตลาดเชียงคานใช้ทางหลวงหมายเลข 211 ไปทาง อ.ปากชม เมื่อผ่านทางแยกเข้าแก่งคุดคู้ไปไม่ไกล จะพบทางแยกขวามือ ปากทางมีป้ายสถานีโทรคมนาคมเชียงคาน ให้เลี้ยวเข้าไปตามถนนอีก 5 กม. จะถึงยอดภูทอก
ขุนช่างเคี่ยน หรือ สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน เป็นสถานีวิจัยเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์กาแฟ ไม้ผลเมืองหนาว อยู่ในเส้นทางเดียวกับพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ และบ้านม้งดอยปุย จุดเด่นที่น่าสนใจของขุนช่างเคี่ยนคือมีต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือที่เรียกกันว่า ซากุระเมืองไทยบานสะพรั่งอยู่ทั่วทั้งพื้นที่จนกลายเป็นดอยสีชมพู เพราะดอกของต้นนางพญาเสือโคร่งเมื่อบานแล้วจะมีสีชมพูสวย และจะบานในช่วงฤดูหนาว ระหว่างปลายเดือนธันวาคม – ต้นเดือนกุมภาพันธ์ แนะนำให้สอบถามเจ้าหน้าที่ก่อนขึ้นไปเที่ยวชม เนื่องจากอากาศในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลง การบานของดอกนางพญาเสือโคร่งจึงมีความคลาดเคลื่อนไปในแต่ละปี
การเดินทาง
ขุนช่างเคี่ยน อยู่ทางทิศเหนือของยอดดอยปุย ห่างจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ประมาณ 8 กิโลเมตร ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 32 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายเชียงใหม่-พระธาตุดอยสุเทพ ลักษณะถนนจากเมืองเชียงใหม่ ถึงพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ลาดยางเป็นระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร จากนั้นเป็นถนนโรยกรวดขนาดเล็ก จากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ไปถึงยอดดอยปุยอีกประมาณ 4 กิโลเมตร และเป็นถนนดินที่มีผิวทางค่อนข้างชำรุด จากยอดดอยปุยไปทางหมู่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยนอีกประมาณ 4 กิโลเมตร
ขุนช่างเคี่ยน อยู่ทางทิศเหนือของยอดดอยปุย ห่างจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ประมาณ 8 กิโลเมตร ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 32 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายเชียงใหม่-พระธาตุดอยสุเทพ ลักษณะถนนจากเมืองเชียงใหม่ ถึงพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ลาดยางเป็นระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร จากนั้นเป็นถนนโรยกรวดขนาดเล็ก จากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ไปถึงยอดดอยปุยอีกประมาณ 4 กิโลเมตร และเป็นถนนดินที่มีผิวทางค่อนข้างชำรุด จากยอดดอยปุยไปทางหมู่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยนอีกประมาณ 4 กิโลเมตร
3. ยอดเขาโมโกจู
ที่อยู่ : อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์-กำแพงเพชรยอดเขาโมโกจู ยอดเขาที่สูงที่สุดของผืนป่าตะวันตก และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ฝั่งจังหวัดกำแพงเพชร (พื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัดคือนครสวรรค์และกำแพงเพชร) ความสูง 1,964 เมตร จึงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดใน อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 27 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าไปกลับ 5 วัน แม้ระยะทางจะไกลและยากแก่การเข้าไปถึง แต่ โมโกจู ก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางหลายๆ คน ที่จะเก็บเป็นความประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิต
บนยอดเขามักถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอก และมีอากาศหนาวเย็นตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว อากาศเย็นยะเยือกและมองจากยอดเขาลงไป จะเห็นทะเลหมอกห่มคลุมผืนป่าจดโค้งขอบฟ้า เหนือป่าตะวันตกอันกว้างไกลสุดสายตา สำหรับการเดินเท้าขึ้น โมโกจู จะต้องติดต่อจองช่วงเวลากับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์โดยตรง และจะต้องดำเนินการตามระเบียบและขั้นตอนของทางอุทยานฯ อย่างเคร่งครัด รวมถึงควรเตรียมร่างกายให้แข็งแรง เพราะทางเดินขึ้นเขามีความลาดชันไม่ต่ำกว่า 60 องศา ใช้เวลาในการเดินทางไป-กลับ 5 วัน และต้องพักแรมในป่าตามจุดที่กำหนด นอกจากนั้น ควรศึกษาสภาพเส้นทางและสภาพอากาศ
การเดินป่า ในเส้นทางพิชิตยอดเขาโมโกจูจะเปิดให้เดินทางได้เฉพาะเดือน พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ และติดต่อเพื่อขอเจ้าหน้าที่นำทางจากอุทยานฯ ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ โดยทางอุทยานจะเป็นผู้กำหนดช่วงวันในการเดินป่าและกิจกรรมเดินป่า โดยกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มละไม่เกิน 15 คน และไม่ต่ำกว่า 5 คน มีค่าใช้จ่ายค่าเดินทางต่อทริปด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานนำทาง และมีอัตราค่าลูกหาบราคา 400 บาท/คน/วัน (ลูกหาบแบกสัมภาระไม่เกิน 20 กิโลกรัม/คน) และต้องเตรียมเสบียงอาหารเผื่อลูกหาบและเจ้าหน้าที่นำทางด้วย ซึ่งผู้ที่ขึ้นไปพิชิตยอดเขาโมโกจูจะได้รับประกาศนียบัตรจากทางอุทยานฯ ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ โทร. 0-5576-6024 หรือดูที่ www.dnp.go.th
4. เนินช้างศึก
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อ.ผาภูมิ จ.กาญจนบุรีเนินช้างศึก เป็นฐานปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 (ฐานช้างศึก) บางคนก็เรียก ยอดดอยปิล๊อก หรือ ต่องปะแล เป็นฐาน ตชด ที่.ตั้งอยู่ในเส้นพรมแดนไทย-พม่า อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,053 เมตร เป็นจุดชมวิวบนยอดเขา ในเขตพรมแดนไทย-พม่า นักท่องเที่ยวที่มาเหมืองปิล๊อก นิยมมาแวะชมวิวที่เห็นทิวทัศน์ได้รอบตัวแบบ 360 องศา
โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ช่วงพฤศจิกายน – มกราคม มีหมอกปกคลุมตามยอดและอากาศหนาวเย็น ชมวิวพระอาทิตย์ตก ยามค่ำคืนจะเห็นความสวยงามของหมู่ดาวบนท้องฟ้า และกลุ่มแสงไฟจากสถานีส่งก๊าซในหุบเขาฝั่งพม่า ได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางหุบเขา และในวันที่ท้องฟ้าเปิดสามารถมองเห็นวิวทางฝั่งพม่าได้ไกลถึงทะเลอันดามัน
5. ไร่ชาบ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน
บ้านรักไทย ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานอดีต ทหารจีนคณะชาติ (กองพล 93) “ก๊กมินตั๊ง” บ้านรักไทยอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล กว่า 1,776 เมตร ทำให้พื้นที่ เหมาะสมอย่างยิ่งกับการปลูกชาพันธุ์ดี และพืชเมืองหนาว ทิวทัศน์ของ หมู่บ้านโอบล้อมไปด้วยทิวเขา แมกไม้ที่ อุดมสมบูรณ์ บ้านรักไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเรื่องของชาและขาหมู่หมั่นโถว คล้ายกับดอยแม่สลอง (กองพลเดียวกัน) นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวที่แห่งนี้เพื่อดื่มด่ำกับการชิมชา และ ทานขาหมูหมั่นโถว บ้างก็หลีกหนี ความวุ่นวายมาหาความเงียบสบาย ของบ้านรักไทยแห่งนี้ บ้านรักไทยยังมีกิจกรรมหลายอย่างไว้ให้นักท่องเที่ยว ได้สนุกสนาน เช่น การเดินป่าศึกษาเส้นทางโดยมัคคุเทศน์น้อย พาเข้าไปชม “คุกดิน” และการขี่ม้าพาข้ามแดนไป ฝั่งพม่า ที่บ้านรักไทยยังมีเกสถ์เฮาส์ริมน้ำ (บ้านดิน) ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องกับสัมผัสกับ ธรรมชาติแบบใกล้ ชิดอีกด้วย
การเดินทาง จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ใช้เส้นทาง จากเมืองแม่ฮ่องสอน มุ่งสู่บ้านรักไทย โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 เส้นทางสายเหนือ(ไปปาย) แยกเข้าซ้ายประมาณ กิโลเมตรที่ 8 แยกเข้า หมู่บ้านกุงไม้สัก ใช้เส้นทางเดียวกับทางไป ภูโคลนคันทรี่คลับ น้ำตกผาเสื่อ และหมู่บ้านปางอุ๋ง เส้นทางเป็นเขาสูงชัน ต้องใช้ความชำนาญในการขับ รถต้องเติมน้ำมันให้เรียบร้อย ไม่มีปั๊มบนดอย ระยะทางจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ไปบ้านรักไทย 44 ก.ม.
6. นาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง
นาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง เป็นหมู่บ้านที่รายล้อมไปด้วยนาขั้นบันได ต้นข้าวโพด และมีวิถีชีวิตที่ งดงามของชาวเขาปกากะญอ เป็นสถานที่เที่ยว ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและบรรดาช่างภาพที่ชอบเก็บภาพความ อุดมสมบูรณ์ของภูเขาและป่าไม้ หากมาในยามเช้าจะได้พบกับทะเลหมอกและแสงอุ่นยามเช้าแต่ถ้าหากมาช่วงเย็น สามารถ ชมพระอาทิตย์และ แสงยามเย็นสวยๆ ที่ลอดผ่านก้อนเมฆมากระทบกับหุบเขาที่เรียงรายการสลับซับซ้อนเป็นภาพที่งด งามยิ่งนัก
7. ไร่สตรอเบอรี่ ดอยอ่างขาง
ผลไม้สามเหลี่ยมสีแดงลูกโตหวานฉ่ำ น่าหม่ำสุดๆ ช่วงฤดูหนาวอย่างสตรอเบอรี่ หากใครอยากลิ้มรสแบบสดใหม่ในเมืองไทย รีบแอ่วเหนือขึ้นไปดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ ในโครงการหลวง นอกจากได้ประทับใจกับผลไม้น่ากิน ยังต้องฟินกับทัศนียภาพสุด Unseen เพราะไร่สตรอเบอรี่ของดอยอ่างขาง จะปลูกลดหลั่นเป็นขั้นบันไดตามไหล่เขา กว้างสุดสายตา 360 องศา มีดรายไอซ์ธรรมชาตินามไอหมอกเย็นๆ คอยคลอเคลียเพิ่มเสน่ห์ให้ไร่สตรอเบอรี่แห่งนี้ มีเสน่ห์โรแมนติกไม่เหมือนที่ไหน พร้อมชมวิถีชีวิตชาวเขาครูใหญ่ประจำถิ่น หากใครอยากสวมบทชาวไร่ใส่งอบมาเก็บสตรอเบอรี่เอง งานนี้คงต้องเสียใจ เพราะมีแพคใส่กล่องพร้อมทานไว้ขายเท่านั้น
8. ภูลังกา จ.พะเยา
เหวี่ยงซ้ายขวาตามเส้นทางคดเคี้ยวแห่งขุนเขา เพื่อเดินทางไปยลโฉมความงดงามของภูลังกา ในวนอุทยานภูลังกา อำเภอปง จังหวัดพะเยา และอย่ามัวมุ่งหน้าสู่ปลายทางอย่างเดียว ลองแวะชมธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ของสองฝั่งทาง โดยเฉพาะขุนเขาเขียวๆ สูงสลับซับซ้อน พร้อมดอกหญ้าพลิ้วไหวคอยทักทายผู้มาเยือนเป็นระยะ จนกลายเป็นถนนสวยอีกเส้นหนึ่งที่น่าแชะภาพเก็บในความทรงจำ เมื่อถึงจุดหมายแนะนำให้เฝ้ารอช่วงไพร์มไทม์คือเวลารุ่งสาง แล้วชวนเท้าก้าวไปยังจุดชมวิวต่างๆ โดยเฉพาะภูเทวดาที่อยู่สูงลิบลิ่ว สามารถชมไอหมอกฤดูหนาวลอยละล่องล้อมรอบเขาหินปูน ประกอบฉากพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งส่องสะท้อนลงมายังทะเลหมอกในแอ่งกระทะ ให้บรรยากาศงดงามราวภาพวาดในฝัน
9. ภูลมโล จ.เลย
หากเคยคิดว่าแหล่งดูดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทยเจ๋งที่สุด ต้องไปชมที่จังหวัดเชียงใหม่ อาจคิดผิด! เพราะตอนนี้ภูลมโล ที่เที่ยวน้องใหม่มาแรง ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดเลย ปาดหน้าคว้าตำแหน่งแชมป์ แหล่งปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยไปครอง! ด้วยจำนวนหลายหมื่นต้น เหมือนสวรรค์ของคนรักดอกไม้ โดยทุกปีในช่วงกลางฤดูหนาว (ประมาณกลางเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์) ต้นนางพญาเสือโคร่งที่ภูลมโลจะพร้อมใจกันผลิดอกเบ่งบาน ท่ามกลางกลางอากาศหนาวเย็นสุดโรแมนติก ส่วนบริเวณที่ต้นพญาเสือโคร่งออกดอกชมพูสะพรั่งมากที่สุดคือภูขี้เถ้า มีให้ยลโฉมมากถึง 3-4 แปลง สำหรับใครที่อยากจะเดินทางมาชม ก็ต้องเช็ควัน-เวลากับเจ้าหน้าที่ให้ดี เพราะดอกพญาเสือโคร่งจะบานสวยเต็มที่เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น
10. ดอยม่อนแจ่ม
ม่อนแจ่ม คือ ส่วนหนึ่งของโครงการหลวงหนองหอย ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โครงการหลวงหนองหอยนั้นเป็นโครงการปลูกพืชเมืองหนาว ม่อนแจ่ม คือ ส่วนหนึ่งของโครงการหลวงหนองหอย ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โครงการหลวงหนองหอยนั้นเป็นโครงการปลูกพืชเมืองหนาว บนดอย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผักสดๆ กรอบๆ และ สตรอเบอรี่ทั้งพันธ์หวาน(พันธ์หวาน 80) พันธ์กรอบ(เปรี้ยวเล็กน้อย) ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียง 50 กิโลเมตรเท่านั้น ดอยแห่งนี้ห้อมล้อมไปด้วยความงดงามของสายหมอก ทิวเขา และหมู่เมฆ แต่ถ้าชอบทะเลหมอกในจุดสูงที่สุด ก็จะมี อีกที่เป็นที่ใหม่ ชื่อว่า จุดชมวิวบ้านหนองหอยใหม่ซึ่งทางขึ้นถือว่าโหดแท้ ต้องใช้รถโฟร์วีลเท่านั้นจึงจะขึ้นได้ (โดยชาวเขาที่ชำนาญทางในเส้นนั้น) นักท่องเที่ยวนิยมมาพักที่นี่เป็นจำนวนมาก เพราะสามารถนอนแล้วตื่นขึ้นมาสัมผัสความหนาวเย็น และ ชมทะเลหมอก ที่มีตั้งแต่เช้า สาย บ่ายๆ (แล้วแต่วัน) ในราคาที่ไม่แพงมากนัก ทั้งแบบแคมปิ้งรีสอร์ท แบบบ้าน และ แบบกางเต๊นท์
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!