ดอกไม้ กับ ตำนานของการเกิดและตาย
ดอกคาร์เนชั่น
ด้วยกลีบที่ซ้อนกันแน่นและมีสีสันให้เลือกมากมาย คาร์เนชั่นจึงเป็นดอกไม้ที่มีหลายความหมายในตัวของมันเอง กลุ่มอินเดียนแดงในแถบแม็กซิโกเชื่อว่าดอกคาร์เนชั่นคือสัญลักษณ์แห่งความตาย ดอกคาร์เนชั่น 3 ดอกที่วางเรียงกันบนศีรษะสำหรับคนเกาหลีแล้วมันหมายถึงดวงชะตา ดอกคาร์เนชั่นสีขาวผสมกับสีอื่นๆนั้นจะไว้ใช้บูชาเทพเจ้าโรมันในสมัยโบราณ สำหรับยุคปัจจุบันแล้ว ดอกคาร์เนชั่นสีแดงนั้นหมายถึงความรัก และสีชมพูหมายถึงการแต่งงาน
ดอกไฮยาซินท์
ตามตำนานกรีกโบราณแล้ว เทพเจ้าอพอลโล (เทพแห่งดวงอาทิตย์) มีเพื่อนชายที่รักมากชื่อ ไฮยาซินธัสซึ่งเป็นชาวสปาต้า วันหนึ่งทั้งคู่ได้เล่นขว้างจานร่อนจนเกิดอุบัติเหตุทำให้ไฮยาซินธัสถึงแก่ความตาย ด้วยความรักเทพอพอลโลจึงเสกให้เขากลายเป็นดอกไฮยาซินท์ ทำให้ดอกไม้ชนิดนี้เป็นดอกไม้สำคัญในการเฉลิมฉลองทุกๆปีของชาวสปาต้า
ดอกลิลลี่
ในความเชื่อของอียิปต์โบราณ รูปทรงที่เหมือนแตรของดอกลิลลี่นี่เปรียบได้กับอียิปต์ตอนบน แต่สำหรับทางกรีกและโรมัน ดอกลิลลี่นั้นมีความสำคัญมากถึงขนาดว่าเป็นสัญลักษณ์ของราชินีแห่งทวยเทพ เฮร่า และในเวลาต่อมา ทางศาสนาคริสต์ก็ได้นำดอกลิลลี่มาเป็นสัญลักษณ์ของพระแม่มารีมารดาของพระเยซู ในภาพวาดโบราณเรามักจะเห็นเทวดานามว่าเกเบรียลมอบดอกลิลลี่สีขาวให้พระแม่มารีอยู่เป็นประจำ ทำให้ความหมายของดอกลิลลี่นั้นคือความบริสุทธิ์ผุดผ่องไปโดยปริยาย
ดอกบัว
บางคนอาจจะไม่รู้ว่าอันที่จริงแล้วดอกบัวนั้นเป็นสายพันธุ์หนึ่งที่แตกแขนงมาจากดอกลิลลี่ ในบางวัฒนธรรมดอกบัวถือว่าเป็นสัญลักษณ์ทางเพศของผู้หญิง แต่โดยทั่วไปแล้วดอกบัวนั้นมีความหมายคือการกำเนิด และการกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ในสมัยอียิปต์โบราณเชื่อว่าเทพธิดาไอซิสนั้นถือกำเนิดมาจากดอกบัว และในการทำมัมมี่จะมาการวางดอกบัวไว้ในหลุมศพด้วยเพื่อแสดงถึงการมีชีวิตใหม่อีกครั้ง
ดอกบัวมักจะนำมาใช้อยู่เป็นประจำในความเชื่อของชาวฮินดูและชาวพุทธ โดยชาวฮินดูเชื่อว่าพระพรหมนั้นถือกำเนิดมาจากดอกบัวที่ผุดออกมาจากจุดศูนย์กลางของจักรวาล ยังไม่นับถึงความเชื่อของชาวพุทธที่ว่ามีดอกบัวผุดตามรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าในตอนที่พระองค์ประสูตร ทำให้เห็นได้ว่า ดอกบัวนั้นเกี่ยวโยงกับความศรัทธาทางศาสนาเป็นอย่างยิ่ง
ดอกป็อปปี้
ใช้เป็นสัญลักษณ์ของทหารผ่านศึกตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เพราะเป็นดอกที่ขึ้นมาเองระหว่างสนามรบ เพราะในสนามรบมีดินที่อุดมสมบูรณ์ ในความเชื่อของกรีกโบราณนั้นดอกป็อปปี้เกี่ยวโยงกับเทพเจ้าฮิปนอส (เทพแห่งการนอนหลับ) กับเทพมอร์ฟิอุส (เทพเจ้าแห่งความฝัน) มอร์ฟีนที่สกัดได้มาจากฝิ่นก็ได้ชื่อมาจากเทพมอร์ฟีอุสนี่เอง (ดอกฝิ่นคือดอกป็อปปี้ชนิดหนึ่ง)
ดอกพีโอนีหรือดอกโบตั๋น
เป็นดอกไม้ที่มีอยู่ในประวัติศาสตร์มาร่วมพันปี จึงไม่น่าแปลกใจที่ว่าดอกพีโอนีจะมีเรื่องราวแตกต่างกันไปในหลายๆพื้นที่ ที่สำคัญที่สุดดอกไม่ชนิดนี้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีน มีความหมายว่า “สวยงาม” เป็นดอกไม้ที่แสดงถึงความโรแมนติก และเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภและการแต่งงานอย่างมีความสุข
ดอกกุหลาบ
ดอกไม้กลิ่นหอมหวานที่มีหนามแหลมคม ถูกนำไปใช้ในการบูชาเทพเจ้าในหลายๆความเชื่อ เช่นตามความเชื่อของชาวโรมัน ดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความงามและเป็นตัวแทนของเทพีวีนัส (เทพแห่งความงามและความรัก) นอกจากนี้ชาวโรมันยังใช้ดอกกุหลาบเป็นตัวแทนของความตายและการเกิดใหม่ จึงเป็นที่นิยมที่จะปลูกดอกกุหลาบให้เลื้อยคลุมหลุมศพอีกด้วย