รักเสมอ!! 9 ความจริงสุดทึ่ง นักพากย์ขวัญใจชาวไทย ‘น้าต๋อย เซมเบ้’
ในวงการการ์ตูนบ้านเรา หมีขาวเชื่อสนิทใจเลยว่า ‘น้าต๋อย เซมบี้’ คือหนึ่งในฮีโร่ของเด็กทั่วประเทศ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนก้าวมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และตกหลุมรักการ์ตูนญี่ปุ่นมากขึ้น
แต่นับตั้งแต่สื่อนำเสนอว่าตอนนี้น้าต๋อยกำลังโดนโรคหอบหืดเล่นงานอย่างหนัก ก็ทำให้หมีขาวรู้สึกเป็นห่วงมาก และอยากส่งกำลังใจถึงชายผู้เป็นตำนานที่เคยสร้างรอยยิ้มให้หมีขาวจนถึงทุกวันนี้…ฉะนั้นจึงขออาสาพาทุกคนมาพบกับ ‘9 ความจริงสุดเจ๋ง’ ที่จะทำให้ไอดอลผู้นี้ไม่ถูกลืมเลือน มีอะไรบ้าง มาดูกันเล้ย
1.ชื่อจริงของน้าต๋อย เซมเบ้ ตั้งแต่เด็กมั่นใจว่าใครๆก็เรียกน้าต๋อย เซมเบ้ ว่าน้าต๋อย เซมเบ้ (จะพูดให้งงทำไมนิ?) แต่น้อยคนนักจะรู้ว่า ชื่อจริงของชายผู้เป็นตำนานแบบออริจินัลก็คือ “นิรันดร์ บุญยรัตพันธุ์” นั่นเอง และปัจจุบันมีอายุ 60 ปีแว้ว
2.หน้ากากเสือคือการพากย์การ์ตูนเรื่องแรกในชีวิต น้าต๋อย เซมเบ้พากย์การ์ตูนครั้งแรกในชีวิตกับ ‘หน้ากากเสือ’ ซึ่งเขารับบทเป็น ‘นะโอะโตะ ดะเตะ’ นอกจากนี้น้าต๋อย ยังเคยให้สัมภาษณ์ว่าหน้ากากเสือนี่ล่ะคือหนึ่งในเรื่องราวที่ทำให้รู้ว่าการ์ตูนญี่ปุ่นมีสาระ และเป็นแรงบันดาลใจให้เขาอยากเดินบนเส้นทางนักพากย์ตลอดไป
3.แจ้งเกิดด้วยบท “ดร. โนริมากิ เซมเบ้” ต้องบอกเลยว่าหากใครเห็น ดร. โนริมากิ เซมเบ้ ใน ‘ดร.สลัมป์ กับหนูน้อยอาราเล่’ ก็ต้องนึกภาพน้าต๋อย เซมเบ้ขึ้นมาทันใดเพราะนี่ล่ะคือบทที่ทำให้เค้าแจ้งเกิดกับเด็กไทยทั้งประเทศ!!!
4.น้าต๋อย เซมเบ้เคยพากย์เกม Talesrunner หากใครจำกันได้ มีช่วงหนึ่งที่เกม Talesrunner (เทลส์รันเนอร์) ฮิตกันทั่วบ้าน ทั่วเมืองในประเทศไทย และน้าต๋อย เซมเบ้ก็เคยเป็นเสียงเวอร์ชั่นภาษาไทยให้กับตัวละครที่ชื่อว่า ‘บิ๊กโบ้’
5.พากย์การ์ตูนญี่ปุ่นมาทั้งหมด 51 เรื่อง น้าต๋อย เซมเบ้ได้ฝากฝีมือไว้ในการพากย์การ์ตูนญี่ปุ่นตั้งแต่เข้าวงการมา 51 เรื่อง แต่ที่คุ้นหูก็คงเป็นไจแอนท์,โมริ โคโกโร่,ดร.สลัมป์,อินุยาฉะ และซุนโงกุนนั่นเอง
6.สุนัขน้าต๋อยชื่อว่าโนบิ น้าต๋อยเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าตั้งแต่ป่วยก็เริ่มพยายามลดงานลง และปล่อยวางบ้างและตอนนี้ก็มีเจ้าโนบิอยู่เป็นเพื่อนที่บ้าน (เสียดายหาภาพไม่พบ)
7.น้าต๋อย เซมเบ้เลิกพากย์การ์ตูนในปี 2554 เคยดูคลิปสัมภาษณ์ในทีวี น้าต๋อย เซมเบ้เผยว่าการพากย์การ์ตูนนั้นต้องใช้เสียงที่โหดกว่าการพากย์รูปแบบอื่นมาก และเมื่อเกิดอาการหอบหืดขึ้น ก็ทำให้ไม่สามารถฝืนใช้เสียงแบบเดิมได้อีกต่อไปแล้ว นอกจากนี้ถ้าหากอยู่ในห้องพากย์ที่มีอุณหภูมิราว 25 องศา ก็จะอึดอัดหายใจไม่ออก ฉะนั้นนับตั้งแต่ปี 2554 จึงเลิกพากย์การ์ตูน แต่ก็ยังรับพากย์หนังเกาหลี หรือหนังจีนแทน
8.น้าต๋อย เซมเบ้เชื่อว่าโลกนี้ไม่มีใคร ‘Born to Be’ ครั้งหนึ่งน้าต๋อยเคยเผยปรัชญาชีวิตของตนว่า “กว่า 40 ปีที่ทำงานมา ผมเรียนรู้ว่าคนที่จะเกิดมาเพื่อเป็นอะไรสักอย่าง มันไม่มีหรอกนะ แต่ชีวิตของเราทุกคน อยู่ที่การฝึกฝนอย่างมหาศาล อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวย และพยายามยืนหยัดทำในสิ่งที่ตัวเองรักอย่างเต็มที่ มันไม่มีหรอก Born To Be
มีแต่คนที่พยายาม ผมพากย์การ์ตูนสนุก นั่นเป็นเพราะการฝึกฝนในการทำงาน สิ่งสำคัญคือเราต้องมีความรักในงานที่ทำเสียก่อน ต่อเมื่อเราลงไปคลุกคลี ทำบ่อยๆ จนเกิดความชำนาญ ทำมากพอ จนเกิดความคิดว่าอยากให้คนดูเราสนุก อยากให้เขามีความสุข นั่นต่างหาก ความสนุกจึงเกิดขึ้น จำไว้เลย หากเรามีความรู้สึกอยากให้คนอื่นสนุกเมื่อไร รับรองว่ามันจะออกมาดี”
9.น้าต๋อยเซมเบ้คือนักพากย์ที่น่ารักที่สุดในโลก แม้น้าต๋อยจะป่วยหนัก จนน้ำหนักลดฮวบหลาย 10 กิโล แต่ล่าสุดเขาก็ยังเขียนจดหมายเพื่อส่งถึงแฟนคลับบนเพจ “น้าต๋อยเซมเบ้ FanPage” เนื่องจากต้องการตอบแทนน้ำใจของคนที่ห่วงใยกันเสมอมา
สุดท้ายนี้ก็ขออวยพรให้น้าต๋อย เซมเบ้หายป่วยไวๆ…เพราะทุกคนรอฟังเสียงที่ทั้งทะเล้น อบอุ่น และเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันของคุณลุงเสมอนะ
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!