7 ที่เที่ยวสุดอัศจรรย์ 7 จังหวัดใหม่ล่าสุดเมืองไทย
ปีใหม่ใกล้จะมาเยือนแบบนี้ คุณกำลังมองหาที่เที่ยวใหม่ๆ กันบ้างหรือเปล่า ถ้าคำตอบคือใช่!!! ขอชวนคุณๆ ไปเที่ยวนอกกรอบ ฉีกความซ้ำซากกับการเที่ยวแบบเดิมๆ หันมาตื่นตากับที่เที่ยวสุด Unseen กับ 7 ที่เที่ยวสุดอัศจรรย์ 7 จังหวัดใหม่ล่าสุดเมืองไทย ไปดูกันว่า ยโสธร , พะเยา , มุกดาหาร , สระแก้ว , หนองบัวลำพู , อำนาจเจริญ และ บึงกาฬ 7 จังหวัดใหม่ล่าสุดลำดับที่ 71 – 77 ของไทย ที่ดูแล้ว ไม่ใช่จังหวัดท่องเที่ยวยอดฮิตแบบนี้ เค้ามีทีเด็ดอะไรกันบ้าง สองมือล้วงกระเป๋า สองเท้าก้าวเข้ามา เดี๋ยว PaiNaiDii จะพาไปเที่ยวกัน
1.โบสถ์ไม้ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย : โบสถ์คริสต์บ้านซ่งแย้ (วัดอัครเทวดามิคาแอล) ยโสธร : จังหวัดที่ 71 ของประเทศไทย
เปิดประเดิมกันที่จังหวัด ยโสธร จังหวัดลำดับที่ 71 ของไทย จังหวัดนี้แม้จะตั้งเป็นจังหวัดมาไม่นาน แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายที่ด้วยกัน แต่ Unseen สุดๆ ต้องยกให้กับที่นี่ โบสถ์คริสต์บ้านซ่งแย้ หรือ วัดอัครเทวดามิคาแอล หากพูดถึงโบสถ์ ภาพจำของหลายคนน่าจะเป็นโบสถ์ที่สร้างด้วยปูน มีรูปแบบสถาปัตย์สไตล์ยุโรป มีกระจกสี รูปปั้นพระเยซู พระแม่มาเรีย และอื่นๆ แต่โบสถ์แห่งนี้ กลับมีรูปแบบที่แตกต่างออกไป นั่นคือ สร้างขึ้นด้วยไม้ทั้งหลัง มีขนาด กว้าง 16 เมตร และยาวถึง 57 เมตร จัดเป็นโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
มีอายุและประวัติการก่อตั้งยาวนานร่วม 100 ปี นอกจากจะโดดเด่นเรื่องขนาดที่ใหญ่ที่สุดในไทยแล้ว โบสถ์แห่งนี้ยังฉีกรูปแบบการสร้างแบบยุโรป หันมาสร้างในแบบศิลปะไทย ที่มีความโดดเด่นสวยงามแปลกตา และด้วยความแปลกและน่าสนใจหลายประการนี่เอง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้จัดให้โบสถ์วัดซ่งแย้ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว “UNSEEN in THAILAND ” ประเภทมุมมองใหม่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใครอยากรู้ว่าสวย แปลกตาแค่ไหน ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง
2. วัดงามรวมความหลากหลายบนดอยบุษราคัม : วัดอนาลโยทิพยาราม
พะเยา : จังหวัดที่ 72 ของประเทศไทย
ลำดับถัดไป ไปต่อกันที่ จังหวัด พะเยา จังหวัดลำดับที่ 72 ของประเทศไทย กับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ที่อยากให้นักเดินทางได้มีโอกาสชื่นชมความสวยงาม และความหลากหลายของที่นี่ วัดอนาลโยทิพยาราม วัดสำคัญทางพุทธศาสนา ที่รวมเอาศิลปะทั้งแบบไทย อินเดีย และ จีนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น พระพุทธรูปศิลปสุโขทัย , ศาลาจตุรมุขกลางน้ำแบบไทยเดิม , รัตนเจดีย์ ศิลปะแบบอินเดียพุทธคยา , เก๋งจีนประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม , หอพระแก้วมรกตจำลอง ฯลฯ นอกจากนี้ บริเวณยอดเขายังสามารถชมทัศนียภาพของกว๊านพะเยาและเมืองพะเยาได้อย่างสวยงามอีกด้วย เป็นอีก 1 วัดสำคัญที่ชาวพะเยาให้ความเคารพ และมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
3.ศิลปะธรรมชาติจากก้อนหิน : ภูผาเทิบ
มุกดาหาร : จังหวัดที่ 73 ของประเทศไทย
จังหวัดที่ 3 ที่เราจะพูดถึงไปกันที่ มุกดาหาร จังหวัดที่ 73 ของประเทศไทย กับที่เที่ยวสุด Unseen จากปรากฏการณ์ธรรมชาติ “ภูผาเทิบ” กลุ่มหินรูปร่างประหลาด ที่มีลักษณะวางทับซ้อนกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ละกองมีรูปร่าง รูปทรงที่แตกต่างกันไป บ้างคล้ายร่ม คล้ายเห็ด บ้างมีรูปร่างเหมือน เครื่องบิน รองเท้า เก๋งจีน มงกุฎ สถูป หรือคล้ายสัตว์ เช่น จระเข้ ก็มี และท่ามกลางกองหินเหล่านี้ ในแต่ละฤดูกาลก็จะมีสีสันธรรมชาติที่งดงามจากมวลดอกไม้ ที่จะขึ้นมาตามซอกหิน ก่อเกิดเป็นภาพงามจับตาที่แต่ละฤดูกาลก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป และเพราะความสวยงามในแบบที่หาดูได้ยาก แต่ละฤดูกาลก็งามแตกต่างกันไปนี่เอง ทำให้ที่นี่มีนักท่องเที่ยวพากันมาเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี
4.จากผืนดินไร้ค่าสู่ดินแดนมหัศจรรย์ : ละลุ
สระแก้ว : จังหวัดที่ 74 ของประเทศไทย
จากผืนดินธรรมชาติกว่า 2,000 ไร่ ผ่านกาลเวลาพ่วงกับปรากฎการณ์ธรรมชาติ ทั้งการกัดเซาะและผุกร่อนจากน้ำและลม กลายเป็นกองดินที่มีลักษณะเป็นรูปร่างต่าง ๆ คล้ายกำแพงเมือง หน้าผา บ้างมีลักษณะเป็นแท่ง ๆ คล้ายกับ แพะเมืองผี แล้วแต่จินตนาการของคนมอง เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามนาม “ละลุ” 1 ในแหล่งท่องเที่ยว Unseen Thailand ของสระแก้ว จังหวัดที่ 74 ของประเทศไทย ความสวยงามของประติมากรรมดินจากธรรมชาติแห่งนี้ คือ เมื่อแสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้า หรือ ยามเย็นส่องผ่านมา จะเห็นเป็นสีทองดูสวยงามจับใจ
ยิ่งเมื่อตัดกับ ท้องฟ้า ก้อนเมฆ และขุนเขาใหญ่ที่เป็นฉากหลังด้วยแล้ว ภาพที่พบเห็นจะยิ่งดูสวยงามมากขึ้นอีกด้วย ทีเด็ดอีกอย่างที่บอกเลยว่า คนเคยมาต้องมาซ้ำ เพราะในแต่ล่ะปี“ละลุ” จะเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ แล้วแต่ลมและฝนจะนำพา เกิดเป็นความสวยงามแปลกตาที่ไปกี่ครั้งก็ไม่เหมือนเดิม
5.ถ้ำหินงอกหินย้อยที่งดงามบนภูเขาสูง : ถ้ำเอราวัณ
หนองบัวลำพู : จังหวัดที่ 75 ของประเทศไทย
หนองบัวลำพู จังหวัดที่ 75 ของไทย จังหวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางที่ราบสูงระหว่างหุบเขา โอบล้อมไปด้วยเทือกเขาภูพาน และ ภูเก้า มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่งด้วยกัน แต่ที่เห็นแล้วอดที่จะเลือกมาแนะนำไม่ได้ นั่นคือที่นี่ “ถ้ำเอราวัณ” ถ้ำหินงอกหินย้อยขนาดใหญ่ที่อยู่บนภูเขาผาถ้ำช้าง
ภายนอกหากมองดูไกลๆ จะเป็นภูเขาใหญ่ที่มีถ้ำเล็กๆ ตั้งอยู่กลางภูเขา บริเวณด้านหน้าถ้ำ มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ มองดูเหมือนวัดถ้ำทั่วไป แต่เมื่อได้เดินขึ้นบันไดจากตีนเขา จำนวน 621 ขั้นขึ้นไป จะพบกับความงดงามของ หินงอกหินย้อยจำนวนมากที่อยู่ในถ้ำ
โดยภายในได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ มีการติดหลอดไฟเพื่อเพิ่มความสว่างและความงดงาม เมื่อเดินชมห้องต่างๆเข้าไปจนสุด จะพบกับทางออกถ้ำ ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพบริเวณพื้นล่างได้อย่างกว้างไกล นอกจากนี้อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ คือ บริเวณกลางถ้ำจะมีช่องทะลุเพดานขึ้นไป เปิดเป็นช่องทางให้แสงลงสู่ถ้ำ เกิดเป็นภาพงามที่ไม่ว่าใครไปเยี่ยมเยือนก็จะประทับใจ
6.พระคู่บ้านคู่เมือง ไม่ไปเหมือนไปไม่ถึง : พระมงคลมิ่งเมือง
อำนาจเจริญ : จังหวัดที่ 76 ของประเทศไทย
อำนาจเจริญ จังหวัดลำดับที่ 76 ของไทย เป็นอีกหนึ่งจังหวัดเล็กๆ แต่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทำให้ที่นี่ประกอบไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าชม ทั้งวัดวาอารามสำคัญต่างๆ ไปจนถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์
โดยที่เที่ยวที่เมื่อมาเยือน “อำนาจเจริญ” แล้วบอกเลยว่า "ห้ามพลาด" ไม่งั้นจะเหมือนมาไม่ถึง ต้องยกให้กับ “พระมงคลมิ่งเมือง” พระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวอำนาจเจริญ องค์พระปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 11 เมตร ความสูงจากระดับพื้นดินถึงยอดเปลวรัศมี 20เมตร
ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ โบราณวัตถุทางพระพุทธศาสนาที่หักพัง เช่น เศียรพระพุทธรูป ใบเสมาเก่า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ไว้ที่ใต้ฐานองค์พระ มุ่งหวังเพื่อเป็นการรวบรวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆไว้ในที่เดียว เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในจังหวัด ประชาชนส่วนใหญ่จึงนิยมมากราบไหว้บูชา รวมทั้ง ขอพรและบนบานให้ประสบความสำเร็จในเรื่องต่างๆ
7.ศูนย์รวมศรัทธา สูง เสียว สวย : ภูทอก (วัดเจติยาคีรีวิหาร)
บึงกาฬ : จังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย
หากพูดถึงที่เที่ยวที่เชิดหน้าชูตา “บึงกาฬ” จังหวัดสุดท้าย ลำดับที่ 77 ของไทย คงต้องยกให้ที่เที่ยวศูนย์รวมแห่งความศรัทธา ความกล้า และความสวย “ภูทอก” หรือ “วัดเจติยาคีรีวิหาร” สาเหตุที่วัดแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของทุกสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น เพราะเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนภูสูงชัน การจะขึ้นไปสักการะองค์พระประธานที่อยู่บริเวณชั้นบนได้นั้น ต้องฝ่าบันไดไม้สูงชันและสะพานไม้สลับระหว่างบันไดอีก 7 ชั้น
ซึ่งยึดติดกับหน้าผาสูงชันเอาไว้ ตัวสะพานไม้จะมีขนาดความกว้างในแนวราบ กว้างแคบแตกต่างกันเป็นช่วงๆ บางช่วง ต้องเดินเรียงเดี่ยว บางช่วงอาจจะเดินได้ 2-3 คน และบางช่วงก็จะเป็นบันไดในแนวตั้งดิ่ง ที่บอกเลยว่าหากมองลงมาเบื้องล่าง ความสูงและเสียวอาจจะทำให้ขาสั่น หากใจไม่เข้มแข็งพอ อาจจะยกเลิกการเดินทางกลางคันได้
แต่แน่นอนความพยายามให้คุณแก่ผู้อุตสาหะเสมอ เมื่อฝ่าด่านบันไดสูงชันและสะพานไม้ ทั้ง 7 ชั้น ขึ้นไปจนถึงชั้นบน นอกจากจะได้สักการะองค์พระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปสำหรับกราบไหว้บูชาแล้ว ทิวทัศน์ที่สามารถมองลงมาเห็นพระวิหารอยู่ท่ามกลางป่าไม้ และมีภูทอกใหญ่เป็นฉากหลังที่ดูงดงาม จะทำให้ลืมความเหน็ดเหนื่อย และหวาดเสียวก่อนหน้าไปเลยทีเดียว
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!