5 เมืองเชียงที่น่าไปมากที่สุดแห่งปี
บางทีการท่องเที่ยวเมืองเล็กๆ ก็สร้างสีสัน และสร้างความสนุกได้ไม่แพ้กัน เพราะทุกที่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะในประเทศไทย ไม่ว่าจะเมืองเล็ก เมืองใหญ่ ล้วนก็มีอะไรหลายสิ่งที่งดงาม ซ่อนอยู่ ทั้งวัฒนธรรม ทั้งศิลปะ ทั้งวิถีชีวิตที่แสนจะมีเสน่ห์ อย่างครานี้จะพาชายตามองไปยังการท่องเที่ยวเมืองเล็กๆ 5 เมือง ที่มีนามขึ้นต้นว่า เชียง ซึ่งบอกเลยว่า แม้จะเป็นเมืองเล็ก แต่ก็น่าไปมากที่สุด แห่งปี
1. เชียงคำ
อำเภอหนึ่งของจังหวัดพะเยา นามว่า เชียงคำ ที่กันว่าเป็นอำเภอที่มีความเจริญทางด้านต่างๆเทียบเท่ากับตัวจังหวัด
แม้ว่าเชียงคำ อาจจะถูกใช้เป็นเมืองผ่านเพื่อไปยัง จ.เชียงราย น่าน และใช้ผ่านขึ้นไปยัง ภูชี้ฟ้า และภูลังกา แต่ว่าเชียงคำก็มีมนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรมในตัวเอง ที่รอให้คนมากสัมผัส ที่เชียงคำแห่งนี้ มีดีด้วยวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวไทลื้อ เพราะตลอดเส้นทางของอำเภอเชียงคำ โดยเฉพาะทางที่มุ่งหน้าสู่วัดพระธาตุสบแวน จะพบกับเรือนแบบฉบับไทลื้อที่ยังคงความเป็นดั้งเดิมอยู่เยอะ
สำหรับหมู่บ้านไทลื้อ แม้จะวิถีชีวิตอย่างเรียบง่าย แต่ก็มากด้วยเสน่ห์อันแสนสงบ บ้านเรือนตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำ ทุกบ้านจะมีการปลูกพืชผักสวนครัวอยู่ในบริเวณบ้าน และที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ผ้าทอไทลื้อ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่แพ้จากผ้าทอที่ใดๆ
นอกจากหมู่บ้านไทลื้อแล้ว ตลาดเช้าในเชียงคำ ก็น่าแวะเวียนไปเช่นกัน ที่นี่มีอาหารพื้นเมืองมีมากมาย แหนมซี่โครงที่ขึ้นชื่อก็มีขายที่ตลาดแห่งนี้ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดตลาดเช้าของชาวเชียงคำ
2.เชียงม่วน
อีกหนึ่งอำเภอในพะเยา ที่น่าไปเที่ยวไม่แพ้กันคือ เชียงม่วน สำหรับเชียงคำแล้ว คือเมืองวัฒนธรรม แต่สำหรับเชียงม่วน ถือเป็นเมืองธรรมชาติแห่งประวัติศาสตร์มากกว่า ที่เที่ยวในเชียงม่วน ที่น่าสนใจจะมี ฝั่งต้า หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ฝั่งต้าไชยสถาน มีลักษณะของการกัดเซาะพังทลายของดินภูเขาเตี้ยๆ ทำให้เกิดรูปร่างคล้ายเสาแหลมๆเรียงรายติดต่อกันเป็นแนวยาวประมาณ ๒๐๐ เมตร มีความสูงประมาณ ๒๕ เมตร
บนยอดเขาฝั่งต้าแห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวและพักผ่อนได้ มีเนื้อที่ค่อนข้างราบประมาณ ๓ ไร่ สามารถมองเห็นทิวทัศน์สวยงามรอบด้าน ใกล้ๆกันมีสระน้ำอยู่ด้านหน้า มีสถานที่จัดไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ สามารถมองเห็นฝั่งต้าถัดไปจากสระน้ำแห่งนี้ ที่เที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเชียงม่วน คือ วนอุทยานไดโนเสาร์เชียงม่วน-แก่งหลวง สถานที่ค้นพบไดโนเสาร์แห่งแรกที่ในภาคเหนือ
มีคณะสำรวจเข้ามาทำการขุดค้นพบซากกระดูกไดโนเสาร์วางตัวเรียงต่อกันในแนวทิศเหนือ-ทิศใต้ จำนวน ๑๐๔ ชิ้น เป็นซากไดโนเสาร์ซอโรพอด ซึ่งมีคอยาว หางยาว เดิน ๔ ขา และกินพืชเป็นอาหาร ใกล้ๆ กันเป็นที่ตั้งของแก่งหลวง เป็นโขดหินขนาดใหญ่ที่ตั้งขวางลำน้ำยม ริมสองฝั่งเป็นป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ เป็นที่พักผ่อนของคนเชียงม่วน ช่วงฤดูฝนสามารถนั่งแพล่องแก่งได้
3. เชียงคาน
เชียงคาน เมืองเล็กๆ เมืองนี้เป็นที่คุ้นหูกันดี บอกเลยว่าใครที่ยังไม่เคยมา แนะนำให้รีบมา เชียงคานคือเมืองริมแม่น้ำโขงสุดชายแดนไทย ที่คงยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ขนบประเพณี การใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย พอเพียง วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ซึ่งหาดูยากในปัจจุบัน
บ้านเรือนที่เมืองเชียงคานจะแบ่งออกเป็นซอยเล็กๆ ตลอด ถนนศรีเชียงคาน ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟ และโฮมสเตย์จำนวนมาก ตกตอนเย็น ก็จะมีถนนคนเดินให้นักท่องเที่ยวได้มาช้อปปิ้งกัน มีสินค้าและของพื้นเมืองต่างๆ ให้คุณได้เลือกสรร มากมาย ท่ามกลางลมหนาว วิวทิวทัศน์ริมฝั่งโขงอันงดงาม
4. เชียงของ
เมืองเงียบๆ แต่วิวสวยเป็นบ้า บอกเลยว่า ต้องมา…เชียงของ บรรยากาศริมโขง และบ้านเรือนที่ปลูกสร้างกันตามไหล่เข้า ลดหลั่นเป็นชั้นสวยงาม ไอหมอกที่ฝั่งลาวลอยล่องอยู่ในหุบเขา สวยงามจับตา มากๆ
อำเภอเชียงของ อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ ๑๑๔ กิโลเมตร ตามเส้นทางสายอำเภอเชียงแสน-เชียงของ ทางหลวงหมายเลข ๑๑๒๙ เป็นทางเลียบฝั่งโขง นอกจากวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างกับต้องมนต์แล้ว ยังมีที่เที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่น่าสนใจ นั้นคือบ้านหาดบ้าย
บ้านหาดบ้าย เป็นหมู่บ้านของชาวไทยลื้อ ตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางเชียงแสน-เชียงของ ถนนเลียบริมแม่น้ำโขง ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีงดงามน่าสนใจ โดยเฉพาะฝีมือการทอผ้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงจากอำเภอเชียงของ หากจะไปเที่ยวชมวิถีชาวไทลื้อ ก็สามารถนั่งเรือหางยาวไปยังบ้านหาดบ้าย โดยขึ้นเรือที่ท่าเรือบั๊ค ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง และยังได้ชมทัศนียภาพสองฝั่งโขงอันสวยงามอีกด้วย ถือว่าคุ้มค่า
5. เชียงแสน
เชียงแสน เมืองมนต์เสน่ห์แห่งชายแดน 3 ดินแดน ไทย ลาว พม่า
จะมาเที่ยวเชียงแสนก็ไม่ควรพลาดที่จะแวะ สบรวก หรือ ดินแดนแห่งสามเหลี่ยมทองคำ อยู่ห่างจากเชียงแสนไปทางทิศเหนือ ๙ กิโลเมตร ตามถนนเลียบริมแม่น้ำโขง
สบรวกเป็นบริเวณที่แม่น้ำโขงซึ่งกั้นดินแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว มาพบกับแม่น้ำรวกซึ่งกั้นดินแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศพม่า จากจุดนี้จะมองเห็นดินแดนที่เรียกกันว่า สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเชื่อมดินแดน ๓ ประเทศ คือไทย ลาว พม่า เข้าด้วยกัน และถ้าจะนั่งเรือเช่าไปชมทิวทัศน์บริเวณสามเหลี่ยมทองคำก็ได้ ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที
นอกจากสบรวกแล้ว ถ้าอยากชมประวัติศาสตร์และศิลปะล้านนา แนะนำว่า ให้ไปเยือนพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมโบราณวัตถุที่ได้จากบริเวณเมืองโบราณเชียงแสนและพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ลวดลายปูนปั้นฝีมือล้านนา พระพุทธรูปและศิลาจารึกจากเชียงแสนและจากจังหวัดพะเยา
มีการจัดแสดงศิลปะพื้นบ้านของชาวไทยใหญ่ ไทยลื้อและชาวเขาเผ่าต่าง ๆ เช่น เครื่องเขิน เครื่องดนตรี เครื่องประดับ นานาชนิด รับรองว่า อิ่มกับวัฒนธรรมในเชียงแสนไปแบบเต็มๆ ครบถ้วน 5 เมือง เชียง บอกแล้วว่าน่าเที่ยวสุด อากาศก็ดี วัฒนธรรม และวิถีท้องถิ่น ก็แสนมีเสน่ห์ ไม่ไปก็คงไม่ได้แล้ว…
cr.emaginfo
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!