10 ฆาตกรที่ก่อคดีฆ่าคนเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์
เรามาดูกันดีกว่าว่า ในประวัติศาสตร์มนุษย์ของเรานั้น มีฆาตรกรคนไหนที่ฆ่าคนเยอะที่สุดในโลกกันบ้าง
อันดับ 10 : Alexander Pichushkin
อเล็กซานเดอร์ พิคุชคิน ฉายา “บิสต้าแมนิแอค” และ “นักฆ่ากระดานหมากรุก” ฆาตกรต่อเนื่องชาวรัสเซียที่ถูกนำเรื่องราวมาทำเป็นภาพยนตร์มากที่สุด เขาถูกพบว่าก่อคดีฆาตกรรมจริง 48 คดี สารภาพอีก 63 คดี ขั้นตอนการฆาตกรรมของเขาคือล่อลวงเหยื่อเป้าหมายซึ่งเป็นชายสูงอายุให้ดื่มเหล้าวอดก้า จากนั้นก็ฆ่าเหยื่อโดยฟาดหัวเหยื่อด้วยค้อน
อันดับ 9 : Dr.John Bodkin Adams
ดอกเตอร์ จอห์น บ็อดคิน อดัมส์ ฆาตกรต่อเนื่องชาวอังกฤษ ที่แปลกคือไม่มีการพิสูจน์ว่ากระทำผิดจริงในคดีฆาตกรรมคนไข้ของเขาแม้แต่รายเดียว ถึงแม้ว่าเขาจะถูกกล่าวหาว่าทำการฆาตกรรมคนไข้ประมาณ 160 คนก็ตาม และความอยุติธรรมในการดำเนินคดี ทำให้คดีของเขากลายเป็นหนึ่งในคดีที่มีข้อโต้แย้งมากที่สุดเรื่องการตัดสินคดีหนึ่งในประวัติศาสตร์ศาลอังกฤษ
อันดับ 8 : Hu Wanlin
ฆาตกรต่อเนื่องทางการแพทย์ชาวจีน ถูกจับกุมในคดีฆาตกรรมเหยื่อ 146 คน แต่สันนิษฐานว่าน่าจะมีเหยื่อมากกว่านี้ โดยเขาฆาตกรรมเหยื่อโดยการใช้การปรุงยาสมุนไพรที่มีสารโซเดียมซัลเฟตสูงจนสามารถใช้เป็นยาพิษได้ และนอกจากนั้นเขายังทำร้ายผู้ป่วยด้วยการรักษาแผนโบราณแบบชิกงอีกด้วย
อันดับ 7 : Gilles de Rais
อดีตคนสนิทของ แจนน์ ดาร์ค (โจน ออฟ อาร์ค) วีรสตรีซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดของฝรั่งเศส หลังจากแจนน์ ดาร์คก็ถูกทหารฝ่ายศัตรูจับ และถูกเผาทั้งเป็นในฐานะแม่มดเมื่อปี 1431 กิลส์เริ่มสติฟั่นเฟือน และเชื่อว่าเลือดคนสามารถเล่นแร่แปรธาตุเป็นทองคำได้ ทำให้เขาริเริ่มทำการรวบรวมเด็กชายจากที่ต่างๆมาเพื่อเป็นเครื่องสังเวยให้ กับปีศาจโดยเด็กบางคนถูกผ่าท้องแล้วทึ้งไส้ออกมา บ่อยครั้งที่กิลส์ข่มขืนศพของเด็กที่เสียชีวิตแล้ว เขาสะสมศีรษะของเด็กหนุ่มจำนวนมาก และศีรษะที่หน้าตาดีจะถูกเรียงไว้เหนือเตาผิงเหมือนเป็นคอลเลคชั่นพิเศษ มีการพบศพของเด็กจำนวนกว่า 150 ศพ (ส่วนใหญ่ไม่มีศีรษะ) ในปราสาท และผลสุดท้าย กิลส์ ถูกตัดสินให้ประหารโดยการแขวนคอ
อันดับ 6 : Henry Lee Lucas
เฮนรี่ ลี ลูคัส ฆาตกรชาวอเมริกัน ถูกสันนิษฐานว่าฆาตกรรมเหยื่อประมาณ 200 คน เป็นฆาตกรที่อ้างตนเองว่าเป็นฆาตกรที่ฆ่าคนมากที่สุดในโลก อ้างว่าร่วมมือกับเพื่อนชื่อออตติส เอลวูด สังหารคนไปกว่า 3000 คน (โม้สุดๆ) นอกจากนั้นเขายังถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในลัทธิซาตานกินเนื้อคนที่เรียกกันว่า “มือแห่งความตาย” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทำหนังสนัฟฟ์ ฆาตกรรม จิมมี่ ฮอฟฟา และส่งยาพิษไปยังผู้นำลัทธิ จิมส์ โจนส์ในสำนักลัทธิโจนส์ทาวน์ ก่อนที่โจนส์จะก่อคดีฆาตกรรม ฆ่าตัวตายหมู่ของกลุ่มสาวก โจนส์โดนจับและตายในคุกในปี 2001
อันดับ 5 : Dr.Harold Shipman
แพทย์ชาวอังกฤษผู้ชำนาญที่ฆ่าคนมากที่สุด โดยเป้าหมายคือบุคคลที่ป่วยทางจิตและส่วนมากเป็นผู้หญิงมีอายุ จากการไต่สวนที่พิสูจน์ว่าด็อกเตอร์คนนี้ฆ่าคนไป 216 คน โดยการให้ยาเกินขนาด และสุดท้ายก็โดนโทษจำคุกตลอดชีวิตในที่สุด
อันดับ 4 : Pedro López
เจ้าของฉายา “อสูรกายแห่งเทือกเขาแอนดีส” ฆ่าเหยื่อไปประมาณ 300 ศพ โดย 100 ศพเป็นผู้หญิงเผ่าอินเดียแดง เกือบทั้งหมดถูกข่มขืนอย่างรุนแรงก่อนที่จะรัดคอหรือบีบคอตาย โดยในช่วงปลายทศวรรษที่ 70 เปโดรเดินสายฆ่าคนเป็นว่าเล่นถึงสามประเทศคือ เปรู โคลัมเบีย และเอกวาดอร์ ก่อนที่จะถูกจับในขณะเขากำลังฆ่าเหยื่อพอดี ผลสุดท้ายถูกปล่อยโดยรัฐบาลเอกวาดอร์และเนรเทศกลับไปดำเนินคดีต่อที่โคลัมเบียในปี 1998
อันดับ 3 : Luis Garavito
หลุยส์ อัลเบอร์โต้ การาวิโต้ ชาวโคลัมเบีย เจ้าของฉายา “อสูรกายแห่งไร่อ้อย” เขาสารภาพว่าลงมือสังหารเหยื่อมากมายถึง 1,800 ราย ระหว่างปี 1982-1999 เหยื่อส่วนมากเป็นเด็กเร่ร่อน เด็กชาวไร่ เด็กข้างถนน อายุระหว่าง 6 -16 ปี แต่กระนั้นการตามรอยหาศพของฆาตกรคนนี้ลงมือไว้ สามารถตามเก็บได้เพียง 140 ศพเท่านั้น ซึ่งเขาสารภาพว่าเขาชอบทรมานเหยื่อก่อนฆ่าด้วยการตัดคอเหยื่อ จากนั้นก็ทิ้งศพที่ไร่อ้อย ปัจจุบัน การาวิโต้ ถูกตัดสินจำคุกถึง 2,400 ปี แต่กระนั้นเขาก็ยืนยันว่าถ้าออกจากคุกเขาก็จะฆ่าคนอยู่ดี
อันดับ 2 : Erzsébet Báthory
เอริซาเบทภรรยาของท่านเค้าท์ฮังการีที่โด่งดัง ที่มีความเชื่อว่าเลือดของเด็กสาวเป็นยาอายุวัฒนะชะลอความแก่ได้ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าหญิงสาวกว่า 600 ราย เพื่อรีดเลือดจากศพเด็กสาวเพื่อมาใช้อาบตัวแทนน้ำ ผลสุดท้ายถูกจับได้ในมกราคมปี 1611 เธอถูกตัดสินให้ถูกจำคุกตลอดชีวิตและเสียชีวิตในอีก 3 ปีให้หลัง ส่วนผู้ร่วมสังหารทุกคนโดนเผาทั้งเป็น
อันดับ 1 : Thug Behram
บุคคลที่มีข้อมูล หลักฐานการฆ่าครบหมดว่าฆ่าใคร ที่ไหนเมื่อไหร่บ้าง เบแรม ฆาตกรอันธพาลชาวอินเดียผู้นี้นับถือลัทธินอกรีด ถูกตัดสินว่าได้ทำการฆาตกรรมไป 931 คน !! โดยวิธีการของคือปล้นทรัพย์แล้วคือบีบคอหรือใช้ผ้าเช็ดหน้ารัดคอ แต่ผลสุดท้ายก็ถูกจับโดยทหารอังกฤษในปี 1840 (สมัยที่อินเดียเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ) และเขาถูกตัดสินให้แขวนคอในที่สุด
ที่มา : sites.google.com และ petmaya
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!