8 พิพิธภัณฑ์แปลก อึ้ง ทึ่ง เสียว แบบนี้ก็มีด้วย
พูดถึงพิพิธภัณฑ์ หลายคนคงจะนึกถึงสถานที่จัดแสดงวัตถุโบราณ เรื่องราวประวัติศาสตร์ที่แสนจะน่าเบื่อ พร้อมบรรยากาศที่เงียบๆ วังเวง ลบภาพเหล่านั้นทิ้งไป เพราะวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 8 พิพิธภัณฑ์แปลก น่าอึ้ง ทึ่ง เสียว และไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริงในโลกใบนี้ อยากรู้ว่ามีพิพิธภัณฑ์อะไรบ้าง ตามมาชมกัน
1. พิพิธภัณฑ์ศิลปะห่วย (The Museum of Bad Art, U.S.A)
ขึ้นชื่อว่า "พิพิธภัณฑ์งานศิลปะ" ย่อมเป็นที่รวบรวมของเหล่าบรรดางานศิลป์ที่มีความสวยงาม จากศิลปินชื่อก้องโลก แต่ที่ เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เค้ากลับสวนกระแส ไม่แยแสความงาม ผุดพิพิธภัณฑ์แปลกๆเกี่ยวกับงานศิลปะขึ้น นั่นคือ The Museum of Bad Art พิพิธภัณฑ์ศิลปะห่วย พิพิธ๓ัณฑ์ที่รวบรวมเอางานศิลปะแปลก บางภาพดูยังไงก็ไม่เข้าใจ ยากจะหาคำมาบรรยาย บางภาพมองดู “เหมือนจะสวย” โดย “Museum of Bad Art” แห่งนี้ เริ่มก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1994 โดย สกอตต์ วิลสัน เค้าผู้นี้ได้รวบรวมงานศิลปะกว่า 500 ชิ้น ที่หลายคนมองว่าน่าจะอยู่ในถังขยะมาจัดแสดงโชว์ในพิพิธภัณฑ์ บางชิ้นรูปร่างแปลก สีสันที่ไม่สนใจทฤษฎีใดๆ ในโลก โดยมีคำขวัญประจำพิพิธภัณฑ์ที่ฟังดูดีว่า “Art too bad be ignorerd?" งานศิลปะบางอย่างถึงจะห่วย แต่ก็ไม่ควรเพิกเฉยหรือทิ้งไป บางทีมองดูภาพพวกนี้นานๆเข้า เราอาจจะค้นพบความหมายใหม่ๆในชีวิตก็ได้...ใครจะไปรู้
2. พิพิธภัณฑ์ของคนอกหัก (The Museum of Broken Relationships, Croatia)
พิพิธภัณฑ์แปลกที่ต่อไป บอกเลยว่าไม่เหมาะสำหรับเดือนแห่งความรักนี่แน่ๆ เพราะพิพิธภัณฑ์ที่ว่า คือ “The Museum of Broken Relationships” หรือ “พิพิธภัณฑ์ของคนอกหัก” ตั้งอยู่ที่เมือง ซาเกรป (Zagreb) เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ แต่มีคอนเซปโดนใจคนไร้รักซะเหลือเกิน จุดเริ่มต้นของพิพิธภัณฑ์นี้มาจาก โอลิงกา วิสติกา (Olinka Vistica) และ ดราเซน กรูบิสิก (Drazen Grubisic) อดีตคู่รักที่แยกทางกัน แต่ความสัมพันธ์ไม่ได้สิ้นสุดลง ทั้งคู่ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน วันหนึ่งทั้งคู่ได้ร่วมหุ้นกันจัดสร้างพิพิธภัณฑ์นี้ขึ้นมา โดยใช้ชื่อการแสดงว่า “กาลครั้งหนึ่ง คนเคยรักกัน” เพื่อที่จะเก็บรวบรวมและถ่ายทอดแง่มุมเรื่องราวของความรักและความทรงจำของคู่รักเอาไว้ ถึงแม้ว่าความรักนั้นจะจบลงไปแล้ว แต่เชื่อว่า “ความรัก” ไม่ว่าจะเป็นไปในรูปแบบใดและลงเอยแบบไหน ทุกเรื่องราวมีคุณค่าและแง่มุมที่น่าจดจำเสมอ ว้าว...ฟังดูก็โรแมนติกดีนะ
3. พิพิธภัณฑ์ผ้าอนามัย (Museum of Menstruation & Women’s Health, U.S.A)
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่า "เรื่องราวในวันมามากสำหรับคุณสาวๆ" จะกลายเป็นแรงบันดาลใจในการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์แปลกแห่งนี้ขึ้นมา "Museum of Menstruation & Women’s Health" หรือ พิพิธภัณฑ์ผ้าอนามัย โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดสร้างโดย “แฮร์รี่ ฟินลี่ย์ (Harry Finley)” ชายหนุ่มผู้หลงใหลคลั่งไคล้ผ้าอนามัยเอามากๆ เค้าได้ลงทุนเปิดพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นในห้องใต้ดินภายในบ้านของเขาเอง ที่รัฐแมรี่แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ.1995 ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รวบรวมเอาทุกเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับผ้าอนามัยเอาไว้ มีผ้าอนามัยทุกรุ่นกว่าพันชิ้นที่เคยผลิตขึ้นมาที่ แฮร์รี่ ฟินลี่ย์ สามารถหาได้ มีหุ่นนางแบบที่สวมใส่ผ้าอนามัยอยู่ รวมถึงชุดสุดครีเอตที่ทำขึ้นมาจากผ้าอนามัยอีกด้วย ใครสนใจอยากเข้าชมไอเดียแปลกๆนี้ คงต้องบอกว่าเสัยใจด้วย เพราะปัจจุบันพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ปิดตัวลงไปแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 แต่ก็ยังหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.mum.org อยากรู้ว่าการรวมเอาเรื่องราวผ้าอนามัยจำนวนมากแบบนี้เป็นอย่างไร ลองคลิกไปดูได้ค่ะ
4. พิพิธภัณฑ์องคชาติ (The Icelandic Phallological Museum, Iceland)
พิพิธภัณฑ์แปลกที่ต่อไปเป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ชวนสยิว ที่คุณผู้ชายต้องอึ้ง นั่นคือ "The Icelandic Phallological Museum" หรือ พิพิธภัณฑ์องคชาติ ว่ากันว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ประเทศไอซ์แลนด์ ก่อตั้งโดย ซิเกอร์เดอร์ ฮจาร์ทาร์สัน (Sigurdur Hjartarson) ภายในจัดแสดงอวัยวะสืบพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพศผู้ (Mammal) ทั้งบนบกและในน้ำ โดยปัจจุบันมีเหล่าองคชาติทั้งหมด 271 ชิ้น จากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกว่า 100 สายพันธุ์ สำหรับคุณสาวๆ อย่าเพิ่งเขินอาย ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ยังไม่มี "อวัยวะเพศชายของมนุษย์" แต่อย่างใด แต่อีกไม่นานต้องมีแน่นอน เพราะมีมนุษย์ผู้ชายใจดียื่นความจำนงขอบริจาคของรักของหวงเมื่อพวกเขาได้เสียชีวิตลงไปแล้ว โดยทั้ง 4 คน เป็นชายชาวเยอรมัน ไอซ์แลนด์ อังกฤษ และอเมริกา ใครสนใจจะไปชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ บอกเลยว่าหาไม่ยาก เพราะบริเวณด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์จะมีจะมีองคชาติไม้แกะสลักตั้งเด่นเป็นสง่า เห็นได้แต่ไกล รับรองไม่มีหลงอย่างแน่นอน
5. พิพิธภัณฑ์อีโรติก (Erotic Museum, Netherland)
พิพิธภัณฑ์แปลกที่ต่อไป รับรองว่าถูกใจคุณหนุ่มๆ แน่ๆ เพราะเราจะพาไปดูพิพิธภัณฑ์ที่ว่ากันด้วยเรื่องของ "เซ็กซ์" แบบล้วนๆ นั่นคือ "Erotic Museum" หรือ พิพิธภัณฑ์อีโรติก ตั้งอยู่ที่ประเทศเนเธอแลนด์ ดินแดนที่ว่ากันว่าฟรีเซ็กซ์ โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านโคมแดงหรือ Red Light District ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้มีการซื้อบริการทางเพศกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายในพิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงเรื่องราวทางเพศต่างๆ มากมาย งานนี้หนุ่มๆดูได้ สาวๆดูดี เพราะงานที่จัดแสดงส่วนใหญ่เน้นไปที่งานศิลปะมากกว่า มองแล้วไม่ได้ลามกอนาจารแต่อย่างใด
6. พิพิธภัณฑ์หุ่นกระบอก (The Vent Haven Ventriloquist Museum , U.S.A)
ดูจากชื่ออาจจะรู้สึกว่า "ธรรมดา" แต่ถ้าได้ลองมาที่ The Vent Haven Ventriloquist Museum หรือ พิพิธภัณฑ์หุ่นกระบอกพากย์เสียงที่มีหน้าตาสุดสยองกว่า 750 ตัว คุณยังจะรู้สึกว่า "ธรรมดา" อีกหรือเปล่า ที่ The Vent Haven Ventriloquist Museum หรือ พิพิธภัณฑ์หุ่นกระบอกพากย์เสียง นี้ ตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา โดยมีจุดเริ่มต้นมาจาก ของสะสมของ William Shakespeare Berger ชายหนุ่มผู้หลงไหลในการสะสมหุ่นกระบอกพากย์เสียง และได้จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้นเพื่อเก็บสะสม โดยหุ่นกระบอกที่ที่ดังที่สุดในพิพิธภัณฑ์คือ หุ่นที่เคยเป็นของ William Wood นักพากย์เสียงที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นนักพากย์เสียงหุ่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ Vent Haven Ventriloquist Museum ได้กลายเป็นสถานที่เก็บรักษาหุ่นกระบอกพากย์เสียงที่มีจำนวนมากที่สุดในโลก และเจ้าของเพียงผู้เดียวของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ William Shakespeare Berger ก็ได้เสียชีวิตลงไปแล้วโดยไม่มีทายาท ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะไปตกแก่ผู้ใด เพราะทายาทที่แท้จริงของเค้าก็คือ หุ่นกระบอกที่ค้ารักเหมือนลูกเหล่านี้เท่านั้น
7. พิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (Momofuku Ando Instant Ramen Museum, Japan)
ถ้าพูดถึง "บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" หรือที่เราคนไทยเรียกติดปากกันว่า "มาม่า" นั้น ถือได้ว่าเป็นอาหารบรรจุซองที่ทั้งง่าย รวดเร็ว และเป็นที่รู้จักของทุกคน แต่ใครจะไปเชื่อว่า ที่ประเทศ "ญี่ปุ่น" ดินแดนต้นกำเนิด "บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" เค้าจะยกย่องอาหารเส้นเหล่านี้ให้เป็นของล้ำค่าชนิดที่ว่าถึงกับสร้าง "Momofuku Ando Instant Ramen Museum" หรือ พิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้น ที่เมืองโอซาก้า อันเป็นเมืองต้นกำเนิดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ทั้งนี้การสร้างพืพิธภัณฑ์ดังกล่าว ก็เพื่ออุทิศแด่ “โมโมฟูกุ อันโด” ผู้ที่ให้กำเนิดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอันแสนอร่อยให้คนทั่วโลกได้ลิ้มรสกัน ในนามของบริษัท “Nisshin Food” นั่นเอง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1999 โดยบริเวณด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์จะมีรูปปั้นของ โมโมฟูกุ บิดาของบะหมี่ถ้วยและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตั้งอยู่ บริเวณภายในพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยประวัติความเป็นมาของการผลิตคิดค้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และพัฒนาการจนกลายมาเป็น “Cup noodle” ที่ออกจำหน่ายเมื่อปี ค.ศ. 1971 รวมไปถึงการจัดโชว์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหลากหลายสไตล์ นอกจากนี้ผู้เข้าชมยังสามารถสั่งทำบะหมี่ถ้วยออริจินัลในแบบของเราเองได้ ด้วยการเลือกน้ำซุป และส่วนผสมต่างๆ ได้เอง ใครที่รัก "บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" และได้ไปเยือน "โอซาก้า" น่าจะแวะไปเยี่ยมชมที่นี่สักครั้ง รับรองต้องติดใจ
8. พิพิธภัณฑ์ซูลัพห์ สุขานานาชาติ (Sulabh International Museum Of Toilets, India)
"ส้วมหรือสุขา" ใครคิดว่าไม่สำคัญ แต่คงไม่มีใครคิดว่าจะสำคัญถึงขนาดมีการสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้นมา โดยพิพิธภัณฑ์ว่าด้วยเรื่องของ "สุขา" ที่จะพูดถึงนี้ตั้งอยู่ในประเทศอินเดียว มีชื่อว่า พิพิธภัณฑ์ซูลัพห์ สุขานานาชาติ (Sulabh International Museum Of Toilets) จัดตั้งขึ้นโดย ดอกเตอร์พินเทชวาร ปาธัก (Dr. Bindeshwar Pathak) ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อปี ค.ศ. 1994 ภายในจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของส้วมที่เราใช้กันเมื่อหลายพันปีก่อน ไปจนถึงหน้าที่ ประโยชน์ใช้สอย และพัฒนาการของส้วมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของชนชาติต่างๆ โดยวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ก็คือ เพื่อปลูกฝังเรื่องสุขอนามัยให้กับคนในประเทศ อยากรู้ว่า "ส้วมนั้นสำคัญไฉน" หาดูได้ที่นี่ค่ะ
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!