ดินแดนกลางทะเล อันกว้างใหญ่ ที่ซึ่งว่ากันว่า หากเรือ เครื่องบิน หรือ สิ่งใด ผ่านเข้าไปแล้ว ต้องหายสาบสูญ อย่างไร้ร่องรอย นั่นคือ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า (Bermuda Triangle) ชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันดี ดินแดนอาถรรพณ์ ล่ำลือด้วยความลี้ลับ ดินแดนที่กลืนกินชีวิตมนุษย์และเรือเดินทะเลที่กลืนกินชีวิตมนุษย์และเรือเดินทะเล เครื่องบินหายสาบสูญไปอย่างไม่มีร่องรอย
เกี่ยวกับ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
- สำหรับ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา มีเนื้อที่ประมาณ 1.14 ล้านตารางกิโลเมตร (4.4 แสนตารางไมล์) อยู่ระหว่างจุด 3 จุดได้แก่ เปอร์โตริโก?ปลายสุดของรัฐฟลอริดาในสหรัฐอเมริกา และเกาะเบอร์มิวดา
- เป็นเกาะตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแอตแลนติกและดินแดนในปกครองของสหราชอาณาจักร มีพื้นที่ครอบคลุมช่องแคบฟลอริดา หมู่เกาะบาฮามาส และหมู่เกาะแคริบเบียนทั้งหมด
- จุดปลายสุดของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ได้แก่ ชายฝั่งแอตแลนติกของไมอามี, ซานฮวน เปอร์โตริโก, และเกาะเบอร์มิวดา ด้วยเหตุว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นตามแนวชายฝั่งด้านใต้โดยรอบหมู่เกาะบาฮามาสและช่องแคบฟลอริดา
- พื้นที่ดังกล่าวเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือพาณิชย์ที่หนาแน่นที่สุดในโลก โดยมีเรือผ่านพื้นที่นี้เป็นประจำทุกวันมุ่งหน้าไปยังเมืองท่าในทวีปอเมริกา?ทวีปยุโรป?และหมู่เกาะแคริบเบียน เรือสำราญที่ผ่านพื้นที่นี้ก็มีมากเช่นกัน เรือเที่ยวเองก็มักจะมุ่งหน้าไปและกลับระหว่างฟลอริดากับแคริบเบียนอยู่เป็นปกติ นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่ซึ่งมีการสัญจรทางอากาศอย่างหนาแน่น ทั้งอากาศยานพาณิชย์และส่วนตัว ซึ่งมุ่งหน้าไปยังฟลอริดา แคริบเบียน และทวีปอเมริกาใต้
ความน่ากลัวของ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1800 จนถึงปี ค.ศ.1976 มีเรือและเครื่องบินหายสาบสูญไปในบริเวณ เบอร์มิวด้าแล้วเป็นจำนวน 143 ราย รวมชีวิตมนุษย์เท่าที่ทราบแน่นอน เป็นจำนวน 2,101 คน ที่ต้องสังเวยไปในดินแดนอาถรรพณ์แห่งนี้
เรื่องเล่า จากผู้รอดตาย สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
- รายงานที่พบเป็นประจำ การขัดข้องเกิดขึ้นกับเครื่องมือนำล่อง
- เกิดความสับสนขึ้นกับประสาทความรู้สึกในการรับรู้ทั้ง 5 ของผู้ที่หลุดเข้าไปในดินแดนอาถรรพณ์
- มีการรบกวนทางระบบไฟฟ้า และการติดต่อสื่อสารทางวิทยุจะถูกตัดขาด
- ปรากฏการณ์ “หมอกเรืองแสงสีขาว”
ไขปริศนา สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
นักวิทยาศาสตร์สามารถวิจัยค้นพบปริศนาลึกลับดำมืดของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ที่สร้างปรากฎการณ์ดูดกลืนเรือและเครื่องบิน ที่บินผ่านบริเวณดังกล่าวจนหายสาบสูญ และถูกกล่าวขานเรียกว่าเป็น”สามเหลี่ยมผีสิง ที่ร่ำลือกันว่า ได้ดูดกลืนสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาทะลุไปยังอีกมิติหนึ่ง”โดยพบว่า สาเหตุแท้จริงมาจากการการก่อตัวของก๊าซ ธรรมชาติ ที่ใหญ่ขนาดเป็นฟองก๊าซขนาดยักษ์ และทำให้เรือและเครื่องบินสูญเสียการควบคุม ก่อนจมดิ่งสู่สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
จากการค้นพบของ ศจ.โจเซฟ โมนาแกน หนึ่งในสองผู้วิจัยงานศึกษาไข ปริศนาดังกล่าว ระบุว่า เขาพบว่า บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ปรากฎว่ามีก๊าซมีเธนเป็นจำนวนมาก ขนาดปะทุเป็นฟองก๊าซขนาดยักษ์ลอยเหนือบริเวณดังกล่าว ก๊าซดังกล่าวอยู่ใต้ท้องทะเลในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า โดยเมื่อก๊าซเหล่านี้ขึ้นสู่พื้นผิว มันจะทะยานสู่อากาศ และขยายตัวเป็นวงกว้างและก่อตัวเป็นฟองก๊าซขนาดยักษ์ เมื่อเรือลำใดผ่านเข้าไปในบริเวณนั้น ก็จะเข้าไปสู่ฟองก๊าซมีเธนขนาดยักษ์ จนทำให้เรือเหล่านี้สูญเสียการควบคุม และจมลงสู่ห้วงทะเล ….. และหากฟองก๊าซดังกล่าวมีขนาดยักษ์มาก ๆ ที่สามารถครอบคลุมความหนาแน่นระดับสูงบนผืนฟ้าเพียงพอ มันก็จะทำให้เครื่องบินที่บินอยู่บนน่านฟ้าเหนือสามเหลี่ยมฯ สูญเสียการควบคุม ตกทะเลและจมลงสู่ท้องทะเลอย่างรวดเร็ว