สุดท้ายกลับถูกหลอกลวงด้วยน้ำมือมิจฉาชีพ หนำซ้ำยังหลบหนีไปโดยไม่สามารถนำคนผิดมาลงโทษได้แม้แต่รายเดียว
หากินกับหมา
"เรียนพี่ๆน้องๆทุกคน วันนี้เราไปเจอน้องหมาเพศผู้ตัวหนึ่งถูกรถชน ขาหลังสองข้างเป็นแผลเหวอะหวะและติดเชื้อ ตอนนี้แผลเริ่มเน่ามีหนองไหลออกมาตลอดเวลา เราพาเขาไปคลีนิกแต่หมอบอกว่าค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 บาท ซึ่งเราไม่มีเงินเหลือมากพอขนาดนั้น ต้องการความช่วยเหลือด่วนมากๆค่ะ เบอร์ติดต่อxxxxxxxxx หมายเลขบัญชีxxxxxxxxxxx"
ภาพสุนัขจรจัดท่าทางมอมแมมมีแผลเหวอะหวะน่าหวาดเสียวบริเวณขาหลังทั้งสองข้าง พร้อมข้อความอันน่าสังเวชใจ ถือเป็นลิงค์ยอดนิยมที่มีผู้ใจบุญจำนวนไม่น้อยพากันกดไลค์และโอนเงินให้ หวังว่าเจ้าหมาน้อยผู้น่าสงสารจะรอดชีวิต แต่ที่ไหนได้นี่คือเล่ห์เหลี่ยมกลโกงรูปแบบใหม่ของขบวนการมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาหาผลประโยชน์อันมิชอบจากสัตว์ ใครไม่ระวังอาจเสียทั้งเงินเสียทั้งความรู้สึก
โรเจอร์ โลหะนันท์ เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย เผยว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีผู้แอบอ้างเข้ามาหาประโยชน์กับการช่วยเหลือสัตว์ผ่านเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะสุนัข เนื่องจากคนรักหมามีเป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีนิสัยขี้สงสาร เมื่อเห็นภาพและข้อความอันน่าเวทนาก็พร้อมจะทำบุญโดยไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงใดๆทั้งสิ้น
"สาเหตุที่หากินกับสัตว์ง่าย เพราะสัตว์มันพูดไม่ได้ ยิ่งเดี๋ยวนี้มีเฟซบุ๊ก คนไม่ค่อยตรวจสอบกัน เลยยิ่งหาเงินง่าย ใครๆก็อยากเข้ามาฉวยโอกาส โพสต์ภาพหมาตัวนึง คนติดตามเป็นหมื่น พอเจอใครพูดจาดีๆ เล่าเรื่องด้วยสำนวนเพราะพริ้งก็พร้อมจะโอนเงินช่วยทันทีโดยไม่สนใจว่าเรื่องจริงหรือเท็จ บริจาคคนละร้อยก็ได้เป็นแสนแล้ว รวยเละ มันจึงกลายเป็นพฤติกรรมที่ลอกเลียนแบบต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ"
พฤติการณ์ขบวนการหากินกับหมาแมวที่พบบ่อยครั้งแบ่งเป็น 2 ประเภท พวกแรกคือ หากินทางอินเทอร์เน็ต นิยมเอารูปหมาแมวป่วย ถูกทิ้ง ถูกทำร้าย ถูกรถชน สภาพน่าสงสาร ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องจริงหรือไปขโมยรูปใครมาจากไหนไม่รู้ นำมาปรุงแต่งเรื่องราวให้น่าสะเทือนใจ พวกที่สอง กลุ่มผู้อ้างตัวว่าเป็นนักกู้ภัยมือสมัครเล่น ชอบออกไปช่วยเหลือหมาแมวตามที่มีคนประกาศทางเฟซบุ๊ก แล้วปั้นเรื่องโกหกว่าหมาตัวดังกล่าวเจ็บหนัก ต้องการเงินบริจาคด่วน
"พวกนี้ได้เงินเคสละไม่กี่พันบาทไปจนถึงหลักล้าน ขึ้นอยู่กับว่ามีแฟนคลับติดตามเยอะแค่ไหน บางคนทำมานานก็ได้เยอะ สมมติเคสหนึ่งคนเข้าไปดูหลักหมื่น บริจาคคนละร้อยก็ได้เท่าไหร่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ไม่บริจาคแค่ร้อยเดียวหรอก หมาตัวเดียวทำเงินได้เงินเป็นแสนๆ ข้อสังเกตน่าสนใจคือ มิจฉาชีพพวกนี้จะไม่เคยบอกว่าต้องการเงินเป็นจำนวนเท่าไหร่ ไม่เคยบอกว่าต้องบริจาคเท่าไหร่ถึงจะพอ ไม่เคยมีลิมิต พวกนี้จะใช้วิธีพาหมาไปรักษาที่คลีนิก แล้วบอกว่าสัตวแพทย์คิดมีค่าใช้จ่ายเป็นหมื่น แต่ไม่เคยนำบิลค่ารักษาพยาบาลมายืนยันชัดเจน ส่วนใหญ่ได้เงินแล้วหายตัวไปเลย น้อยรายที่จะมาอัพเดทความเคลื่อนไหวหลังการรักษาว่าหมาตัวนั้นอาการดีขึ้นหรือยัง"