2. "The Rockall" คือ หินยักษ์ปริศนาที่มีความสูงกว่า 30 เมตร ตั้งห่างออกไปกว่า 290 ไมล์จากชายฝั่งของบริเตนใหญ่ นับตั้งแต่ประวัติศาสตร์ได้บันทึกการค้นพบ ก็มีมนุษย์ไม่ถึง 20 คนเท่านั้น ที่เคยลงไปเหยียบที่แห่งนี้
3. ทุกวันนี้ ยังคงมีท้องทะเลอีกกว่า 86% ที่มนุษย ยังไม่สามารถเข้าไปสำรวจได้ ซึ่งนั่นย่อมหมายความว่ามีอีกสิ่งมีชีวิตหลายสายพันธุ์ที่ยังเป็นปริศนา ซึ่งไม่แน่ว่า "อสูรกายในทะเล" อาจมีจริงก็ได้เป็นได้
4. ในอดีต "หมึกยักษ์" (Giant Squid) ถูกยกให้เป็นสัตว์ในตำนาน ซึ่งเพิ่งมีคนสามารถบันทึกภาพมายืนยันว่ามันมีตัวตนอยู่จริงก็เมื่อปี 2001 นี่เอง
5. แม้ "สหรัฐอเมริกา" จะยิ่งใหญ่ขนาดไหน แต่พื้นที่กว่า 50% ของประเทศ กลับอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล
6. มนุษยสามารถสำรวจทะเลได้เพียง 5 - 7% เท่านั้น หรือถ้าจะเทียบก็อยู่ในอัตราแค่ 1% จากมหาสมุทรทั้งหมด
7. “White Shark Cafe” คือตำแหน่งประหลาดในท้องทะเล แปสิฟิก ที่เหล่าฉลามขาว นัดกันที่นั่นเพื่อทำการผสมพันธุ์ขยายลูกหลาน แทบจะทุกตัว
8. อาจดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ความจริงแล้ว ทุกวันนี้ 99% ของสายพันธุ์ฉลามได้หายสาบสูญไปแล้ว
9. ภูเขาที่มีความยาวที่สุดในโลกแท้จริงแล้วซ่อนอยู่ใต้มหาสมุทร มันถูกเรียกว่า "เทือกเขากลางสมุทร" หรือ The Mid Ocean Ridge ที่ตัดผ่านทะเลแอตแลนติก ในระดับที่ลากได้ไกลถึง 23,000 ไมล์ ที่น่าทึ่งคือส่วนยอดเขายังสูงยิ่งกว่าเทือกเขาแอลป์เสียอีก ซึ่งมันกินพื้นที่ระนาบของโลกกว่า 23%
10. "ก๊าซออกซิเจน" จำนวนมากของโลก แท้จริงแล้วเกิดจาก สิ่งมีชีวิตจำพวกแพพลงก์ตอนที่เรียกว่า “Phytoplankton”
11.โดยเฉลี่ย ทะเลจะมีความลึกประมาณ 12,400 ฟุต แต่แสงที่สาดส่องลงมาสามารถทะลุลงไปได้เพียง 330 ฟุตเท่านั้น หมายความว่า ส่วนที่เหลือของทะเลจะดูมืดมิดและเร้นลับสุดๆไปเลย
12. แมงกะพรุน (Jellyfish) มีปริมาณมากกว่าฉลามถึง 15 - 30 เท่า
13. ผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษามหาสมุทรอย่างลึกซึ้ง ประเมินว่า ใต้มหาสมุทรนั้น มีทองคำอยู่กว่า 20 ล้านตันแอบซ่อนอยู่
14. ในน้ำทะเลเพียง 1 มิลลิลิตร มีแบคทีเรียกว่า 1,000,000 ชีวิต และมีไวรัสมากถึง 10,000,000 ชีวิต ซึ่งโชคดีที่แบคทีเรียและไวรัสเหล่านั้นส่วนใหญ่ไม่มีอันตรายใด
15. นักประวัติศาสตร์ล้วนตระหนักดีว่า ทุกวันนี้จำนวนหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ถูกค้นพบใต้ก้นทะเล ยังมีจำนวนมากกว่าหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ตั้งโชว์อยู่ในพิพิธภัณฑ์ทุกแห่งบนภาคพื้นดินเสียอีก