ร้อน แบบนี้ มารู้จักกับอาหารคลายร้อนกัน
พอเข้าหน้าร้อนแบบนี้ มีใครบ้างที่จะไม่มองหาวิธีคลายร้อนที่ทำให้ตัวเองรู้สึกสบายผ่อนคลายตัว เราจึงมีวิธีคลายร้อนแบบง่ายๆ ที่ไม่ต้องไปวิ่งหาไกลที่ไหนเลย เพียงแค่เลือกอาหารการกินให้ถูก เหมาะกับสภาพอากาศและอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นแบบไม่มีหยุดหย่อนแบบนี้ การรับประทานอาหารที่เหมาะสมในหน้าร้อนแบบนี้เป็นการปรับอุณหภูมิภายในร่างกายของเราให้สมดุล แถมยังเป็นวิธีง่ายๆ แต่ได้ผลจริง มาดูกันสิว่า มีอาหารที่คลายร้อนแบบไหนบ้าง ??
ควรทานอะไรในหน้าร้อน ?
อากาศในฤดูร้อนมักร้อนจนทำให้ไม่สบายตัว และก็ร้อนจัดจนเหงื่อหยดย้อยเราจึงจำเป็นต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษในฤดูนี้โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารการกินซึ่งควรเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ไม่ก่อให้เกิดความร้อนในร่างกาย และไม่ทำให้เลือดลมเสียสมดุล อาหารที่จำเป็นก็คือผักและผลไม้สด รวมทั้งการกินโปรตีนจากสัตว์ปีก เช่น ไก่ ที่ปราศจากสารเร่งการเจริญเติบโต และควรเน้นอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากๆ ให้พลังงานน้อยๆ และต้องมีไขมันต่ำๆ เพราะไม่ต้องใช้พลังงานในการเผาพลาญมากนักร่างกายจึงไม่เกิดความร้อนในการทำงานหนัก ดังนั้นอาหารที่ไม่ควรทานในหน้าร้อนในปริมาณมากๆ คือ เนื้อสัตว์ ไข่ ถั่วเมล็ดแห้ง นม และไขมัน เนื่องจากเป็นอาหารที่ต้องใช้พลังงานในการย่อยและการนำไปใช้สูงกว่าข้าว ผัก และผลไม้ คือ ส่วนอาหารที่ควรทานในหน้าร้อน ควรจะเป็นอาหารที่เพิ่มความเย็นให้แก่ร่างกาย เช่น อาหารประเภทผักและผลไม้ที่ไม่มีแป้งมาก และหากต้องอยู่ท่ามกลางอากาศร้อนจัดหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง ควรดื่มน้ำให้ได้ชั่วโมงละ 1 ลิตร หรือ 4-6 แก้วต่อชั่วโมง แม้ไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตาม เพราะคุณจะสูญเสียน้ำเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องนำน้ำมาชดเชยส่วนที่ร่างกายเผาผลาญไป
ควรทานไก่ได้เพราะอะไรมาดูกัน ?
เนื่องจากโปรตีนจากไก่คล้ายกับโปรตีนในร่างกายมนุษย์ ซึ่งจะช่วยสร้างโปรตีนในร่างกายได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ร่างกายยังย่อยธาตุเหล็กจากเนื้อสัตว์ได้ดีกว่าธาตุเหล็กจากพืช และโปรตีนจากไก่ยังมีวิตามินมากมายโดยเฉพาะกลุ่มวิตามินบี เช่น วิตามินบี 1 ซึ่งจำเป็นสำหรับสมอง วิตามินบี 2 เพื่อเสริมสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน มีวิตามินบี 6 บี 12 สูง และมีในอาชิน ไก่เป็นแหล่งโปรตีนและวิตามินที่ให้พลังงานน้อย แต่มีสารอาหารสูง ที่สำคัญคือ ควรเลือกไก่ที่ปราศจากสารเร่งการเจริญเติบโตจะดีที่สุด
ผักและผลไม้ที่คลายร้อนได้ดี
ตามหลักการแพทย์แผนจีน แนะนำให้กินอาหารที่ให้ความเย็นแก่ร่างกาย เช่น มะเขือเทศ แตงกวา เต้าหู้ ข้าวโพด ผักโขม กีวี หรือแตงโม
มะเขือเทศ
มะเขือเทศ ดับร้อนได้ง่ายนิดเดียว มะเขือเทศช่วยให้ร่างกายสดชื่น กระตุ้นน้ำย่อย ช่วยย่อยอาหาร และยังช่วยการระบายการขับถ่ายให้สะดวกขึ้นอีกด้วย และมีการวิจัยกันว่าการดื่มน้ำมะเขือเทศเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ โดยเฉพาะมะเร็งของต่อมลูกหมากที่คุณผู้ชายกลัวนักกลัวหนา
นอกจากวิตามินซีที่มีสูงในมะเขือเทศแล้ว วิตามินอื่น ๆ ก็มีอยู่ครบทุกชนิด แถมเปลือกนอกของมะเขือเทศยังมีสารชนิดเดียวกับที่พบในเปลือกองุ่นแดงที่เชื่อว่ามีส่วนช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือดได้อีกด้วย
แตงกวา
ช่วยดับร้อนในร่างกาย แตงกวาเป็นผักที่เหมาะกับการกินยามอากาศร้อนเพราะลดความร้อนและช่วยให้ร่างกายสดชื่น มีสารฟีนอลทำหน้าที่ต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่น นอกจากนี้ น้ำแตงกวายังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ แก้ไข้ ลดอาการนอนไม่หลับ ลดกรดกระเพาะอาหาร แก้กระหายน้ำ และลดอาการโรคเกาต์ โรคไขข้อรูมาติสม์ และอาการบวมน้ำอีกด้วย
เต้าหู้
เต้าหู้เหมาะกับอากาศร้อนและย่อยง่าย เช่น แกงจืดเต้าหู้ และเหยาะน้ำมันงาลงไปเล็กน้อย มันจะช่วยคลายความร้อนให้ร่างกายและช่วยในการซ่อมแซมร่างกาย
แตงโมและแคนตาลูป
มีส่วนประกอบของน้ำสูงถึง 95% สามารถทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไปเนื่องจากอากาศร้อนได้เป็นอย่างดี
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
มีส่วนผสมของน้ำและสารประกอบทางธรรมชาติสำหรับรักษาอาการปวดบวมอักเสบ ซึ่งสารดังกล่าวถูกนำมาใช้ เป็นส่วนผสมของยาแอสไพริน ดังนั้น การบริโภคเบอร์รี่ที่รสหวานฉ่ำจึงช่วยลดการอักเสบและช่วยถอนพิษจากการเผาไหม้ ของแสงแดดฤดูร้อนได้เป็นอย่างดี
ผักโขม
ช่วยได้คลายร้อน ให้คุณประโยชน์หลัก 2 อย่าง อันดับแรกคือ ผักโขมและผักใบเขียวนอกจากจะอุดมไปด้วยน้ำ ยังเป็นแหล่งสะสมของแมกนีเซียมหนึ่งในแร่ธาตุที่เราสูญเสียไปพร้อมกับเหงื่อที่ถูกขับออกมา นอกจากนี้ใบสีเขียวเข้มของผักโขม ยังมีสารลูติน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจึงช่วยปกป้องผิวและ สายตาจากการถูกทำลายจากแสงแดด
พริกไทย
อาจเป็นตัวเลือกลำดับสุดท้ายของใครหลายๆ คน ที่จะนำมาบริโภคในช่วงอากาศร้อน แต่ในความเป็นจริงเราจะพบว่า พริกไทยที่เผ็ดร้อนสามารถกระตุ้นการขับเหงื่อออกจากร่างกาย ซึ่ฝเมื่อเหงื่อระเหยออกจากผิว จะทำให้เกิดความรู้สึกเย็นสบายแก่ร่างกายของเราได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
สมุนไพรที่เหมาะกับหน้าร้อนก็คือ สะระแหน่
เนื่องจากสะระแหนให้ความเย็นแก่ร่างกาย จึงจัดเป็นสมุนไพรเย็นในขณะที่ขิงจัดเป็นสมุนไพรร้อน เพราะจะทำให้ร่างกายร้อน ซึ่งเหมาะที่จะกินในฤดูหนาวมากกว่า นอกจากนั้นสรรพคุณของสะระแหน่ ยังมีอีกมากมาย ใบสะระแหน่นำมาชงเป็นชาดื่มบรรเทาอาการหวัด ขับเหงื่อ ระบายความร้อน ขับลมในลำไส้ และช่วยย่อยอาหาร เพราะสารเมนทอลในสะระแหน่มีคุณสมบัติเย็นใช้รักษาอาการอ่อนเพลีย บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน หลอดลมอักเสบ และหอบหืด เมื่อทราบสรรพคุณต่าง ๆ ของใบสะระแหน่แบบนี้แล้ว ยังจะอยากเขี่ยสะระแหน่ที่อยู่ในอาหารทิ้งกันอยู่รึเปล่าละค่ะ ทานอาหารเพื่อสุขภาพ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
ที่มา : rakjung.com
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!