เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นมาเกือบ 2 ปีแล้วค่ะ มันเกิดขึ้นจาก...
เรากับแฟนรู้จักกันทาง Facebook โดยเริ่มคุยกัน จนทำให้เรารู้ว่าเราสองคนอยู่ใกล้กัน ตอนนั้นเราอายุ 18 กำลังจะจบม.6 สายวิทย์จากโรงเรียนแห่งหนึ่ง แฟนเรา อายุเท่ากัน ตัวเค้าเรียนภาคค่ำ กลางวันทำงาน ความสัมพันธ์ทุกอย่างดูราบรื่นดีไปหมด เค้าดูแลเราอย่างดี เทคแคร์ทุกอย่าง ดูเป็นสุภาพบุรุษมาก กกกกก จนเมื่อเราจบ ม.6 เราสอบติดครูที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เลยต้องไปอยู่หอ ทำให้เราห่างจากทางบ้าน เรื่องมันก็เกิดช่วงนี้แหละค่ะ ...
หลังจากออกมาอยู่หอได้ไม่นาน เรียนไปได้ครึ่งเทอม สอบปุ๊บก็เริ่มรู้ตัวเองละว่ามีอะไรผิดปกติ ก็เลยตกลงไปคุยกับแฟน
เรา: ตัวเอง เค้าว่าเค้าท้องอ่ะ -
แฟน: ก็ดีสิ่ เค้าจะได้อยู่กับตัวเองตลอดไปเลย ไม่ต้องรอเรียนจบ ^_^
เรา: ตัวเอง ไม่ตลก เค้าท้องจิงๆ เมนส์ไม่มาเลย
แฟน: .......... เงียบแบบนิ่งไปเลยอ่ะ -
เรา: ตัวเอง เอาไง?
แฟน: ตัวเอง คนที่ไม่อยากมีลูก เค้าทำยังไงกันอ่ะ
เรา: นี่!! ตัวเองพูดไรอ่ะ จะให้เค้าทำอะไร บอกมาตรงๆเลย
แฟน: ก็ทำอย่างที่คนอื่นเค้าทำกันนั่นแหละ -
เรา: เออ ถ้าตัวเองจะปัดแบบนี้ ก็ไม่ต้องมาคุยกันว่ะ
หลังจากนั้นเราก็เดินออกมาเลย น้ำตาไหล เรารับไม่ได้จริงๆทำไม่ทำแบบนี้(ในใจก็ได้แต่คิดว่า ทำไมวะ? ลูกตัวเองแท้ๆแต่กลับจะให้เราไปเอาออก นี่หรอคนที่เราเคยเห็นว่าเป็นสุภาพบุรุษ) พอเดินออกมาเค้าก็เลยตามมาบอกเราว่า ไม่ต้องแล้ว เค้าจะรับผิดชอบเอง เดี๋ยวเค้าไปคุยกับแม่เค้าก่อน แล้วเราค่อยว่ากัน เราเลยบอกไปว่าให้ตายเราก็ไม่ทำ ลูกของเราจะให้ทำเค้าลงได้ยังไง เค้าทำไม่ได้หรอก เราทั้งคู่ก็เลยตัดสินใจเก็บเค้าไว้
หลังจากนั้นมาเราก็ทะเลาะกันมาโดยตลอด โดยเค้าจะเป็นคนหาเรื่องมาชวนทะเลาะ(ส่วนมากจะเป็นเรื่องผู้หญิงนั่นแหละ) เป็นแบบี้ประมาณ 2 เดือนได้ วันนึงหลังจากที่เรากลับจากบ้านเค้า เค้าก็โทมาหาเรา แล้วพูดออกมาว่า " วันนี้ตัวเองไปกับใครมา ไปกับผู้ชายที่ไหน ทำไมทำแบบนี้ ต่อไปนี้ไม่ต้องมาหาเค้าแล้วนะ แล้วก็ไม่ต้องโทมาอีก เรารำคาญ!!" แล้วเค้าก็วางสายไป หลังจากนั้นเค้าก็ไม่เคยติดต่อมาอีกเลย เราก็รู้แล้วล่ะ เรื่องทั้งหมดมันคงจบ เค้าคงไม่อยากมารับผิดชอบอะไรเด็กในท้องเราอีกแล้ว เราก็ได้แต่ร้องไห้เสียใจ ว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ ทำไมทำกับเราแบบนี้ โดยที่เรื่องนี้ ทางบ้านเราไม่มีใครรู้เลย เรายังคงไปเรียนตามปกติ
September'2013
ผ่านมาเกือบ 3 เดือน เราจึงขอแม่หยุดเรียนโดยให้เหตุผลว่า เราเรียนไม่ไหว อยากย้ายเอก แม่เราก็บ่น แต่ก็ตามใจเรา ยอมให้เราหยุด เราจึงไปทำเรื่องลาออก ไปหาเพื่อน แต่ไม่ได้บอกใครเลยว่าออกเพราะอะไร หลังจากนั้นเราก็กลับมาอยู่บ้านทำตัวปกติ ทั้งๆที่นอนร้องไห้ทุกคืน พ่อแม่ยังไม่รู้ เราเริ่มหางานทำ เพราะยังไม่อยากให้พ่อแม่เดือดร้อน โดยให้เหตุผลว่า เราอยากเก็บเงินไว้เรียน
October'2013
เราเริ่มเข้าทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งไม่ไกลจากบ้านมากนัก เราทำทุกอย่าง แม้แต่ยกกล่องหนัก 20 กก เราก็ทำ เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราท้อง เราก็ดำเนินชีวิตมาเรื่อยๆ พร้อมกับรูปร่างที่อ้วนขึ้นผิดหู ผิดตา แต่ไม่มีใครถาม เราก็ทำงาน เงินที่ได้มาเราก็ให้แม่ทั้งหมด นอนร้องไห้ทุกคืน เจ็บแค่ไหนปวดแค่ไหนก็ต้องทน ผ่านมาเรื่อยๆ แล้วก็ถึงวันที่ทุกอย่างถูกเปิดเผย .....
January'2014
ปีใหม่ที่ทุกคนควรจะได้รับสิ่งดีๆ วันที่ทุกคนควรมีความสุข กลับกลายเป็นวันที่ครอบครัวเราเสียใจที่สุด เมื่อพ่อแม่ได้รู้ว่าเราท้องได้ 6 เดือนแล้ว ท่านเสียใจมาก ร้องไห้ ด่าทอเราทั้งน้ำตา เราได้แต่ก้มหน้าฟังคำด่าทอนั้น พร้อมทั้งน้ำตา พร่ำบอกแต่คำว่าขอโทษ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความเสียใจของพ่อแม่เราน้อยลงเลย เราได้แต่โทษตัวเอง วันนั้นพี่เรามาครบทุกคน พี่สาวเข้ามาคุยกับเรา ปลอบเรา แล้วบอกมันว่า เรื่องมันเกิดแล้ว ทำอะไรไม่ได้ ต้องช่วยกันหาทางแก้ เราย้อนเวลาไม่ได้ อย่าร้องไห้ อย่าเครียด นึกถึงคนที่อยู่ในท้อง เค้าไม่ได้ทำอะไรผิด เราต้องดูแลเค้าดีๆ เราก็ได้แต่ร้องไห้ พี่สาวออกไป พ่อกับพี่ชายก็เข้ามา เราก็ยกมือไหว้พ่อ บอกพ่อหนูขอโทษ เราไม่เคยเห็นพ่อร้องไห้ เรามันลูกที่ไม่ดี ทำให้พ่อต้องเสียน้ำตา พ่อบอกว่าไม่เป็นไร แต่บอกพ่อได้ไหม ว่ามันเป็นใคร? เราได้แต่ส่ายหน้า พี่ชายจึงเข้ามากอดเราบอกให้เราบอกพ่อ เค้าจะได้หาทางแก้ได้ถูก เราจึงยอมบอก เค้าจึงเอาเบอโทแล้วโทหาญาติฝ่ายผู้ชายตอนนั้นทันที(รู้สึกว่าจะเป็นเวลาประมาณ 10 โมงเช้า) พ่อเรียกเค้าเข้ามาที่บ้านโดยให้พาตัวต้นเรื่องมาด้วย รอจนบ่ายก็ไม่มา พี่ชายจึงโทไปหาอีกครั้งบอกว่าถ้าไม่มาจะไปหาเอง เค้าจึงบอกว่า จะรีบมา
5 โมงเย็น ทางนั้นเดินทางมาถึง โทเข้ามาบอกไม่กล้าเดินเข้ามาคนเยอะ กลัวโดนทำร้าย(ลืมบอกไปว่าวันนั้นเป็นปีใหม่ เป็นธรรมดาที่บรรดาญาติพี่น้องจะมารวมตัวกัน แล้วครอบครัวเราเป็นครอบครัวใหญ่ทำให้มีคนเยอะ) พี่สาวเราจึงบอกว่าคนข้างนอกไม่มีใครรู้ มีแต่ที่บ้านรู้ ให้เข้ามาได้ เค้าจึงเข้ามา พี่สาวเราถามตรงๆว่ารู้มั๊ยว่าเราท้อง เค้าตอบว่ารู้
พี่: แล้วคิดว่าเป็นลูก ... (ชื่อผช.) ไหม?
แฟน: เชื่อ
แม่เรา: แล้วเลิกกับมันทำไม?
แฟน: ... มีเรื่องเข้าใจผิดกันครับ
เรา: ที่พูดมาแน่ใจหรอ อย่าตอบให้ตัวเองดูดี พูดความจริงดิ่?
พอเราพูดจบ เค้าไม่ตอบอะไร ได้แต่นั่งก้มหน้า ทั้งตัวเค้า และญาติเค้าอีก 2 คน พี่เราจึงต้องพูดขึ้นมา
พี่: จะเอาไง?
เรา: ลูกหนู หนูเลี้ยงเอง!!
แฟน: (หันมาหาเรา) นี่ก็ลูก ... เราเลี้ยงได้
แฟน: (หันหาพี่เรา) ผมรับผิดชอบครับ
พี่: ยังรักมันอยู่ไหม? แล้วแน่ใจรึป่าว ว่าจะดูแลมันได้?(ถามแฟนเรา)
แฟน: (พยักหน้า) แน่ใจครับ
แม่เรา: (หันไปพูดกับญาติแฟน) คิดดูแล้วกัน มันปิดมาจน 6 เดือน ไปทำงานทุกวัน ยกของหนักเป็นสิบโล แต่ไม่เคยบอกสักคำ ดูความอดทนมันแล้วกัน เมื่อก่อนแค่เจ็บนิดเดียว มันยังทนไม่ได้ แต่นี้มันทนมา 6 เดือน คิดบ้างไหม ว่ามันทรมาณแค่ไหน
พี่สาวจึงหันกลับมาถามเรา เราจึงบอกว่ายังไงก็ได้ จึงตกลงกันว่า อีก 2 วันให้พาพ่อมาคุยแล้วตกลงว่าจะเอายังไงเพราะท้อง 6 เดือน ช้าไม่ได้ คืนนั้นพ่อเค้าโทหาเรา ถามเราว่าท้องกี่เดือน เลิกกันไปนานแล้วไม่ใช่หรอทำไม่พึ่งจะพูด แน่ใจนะ เราจึงตอบไปว่า ท้อง 6 เดือน เลิกกันไป 4 เดือน แล้วก็ไม่ได้ไปมั่วกับใคร จะให้ท้องกับใคร มีคนเดียว เค้าจึงวางไปหลังจากนั้น พ่อผช ก็เข้ามา แล้วก็ตกลงกันว่า ให้เวลา หนึ่งอาทิตย์ มาพร้อมของทำพิธีสมา เงิน 40000 โดยจะไม่เรียกอะไร แค่อยากให้มาทำให้ถูก จากนั้นก็กลับไป โดยหารู้ไม่ว่า เค้ากลับไปพูดกับฝ่ายเค้าว่าไม่เชื่อว่าเป็นลูกเค้า (เรามารู้ทีหลัง) ไม่อยากแต่ง จำใจแต่ง บลาๆๆๆๆ พอมันกลับไป จึงมานั่งคุยกับพี่ๆ ว่า เราต้องอยู่กับมันจิงๆหรอ พี่เราเลยบอกว่า ลองคิดดูเอาเอง แล้วตัดสินใจเอา ว่าจะทำยังไง...
ก่อนงาน 1 คืน ประมาณ 5 โมงเย็น ญาติเค้าโทมาบอกว่าหาเงินไม่ได้ กู้ร้อยละ 20 ก็ไม่ได้ จะไม่มา พี่เรารีบมาที่บ้านคุยกันว่าจะเอายังไง จึงโทไปหา แล้วบอกว่า ต้องมา ยังไงก็ต้องมา บอกญาติไว้แล้ว ไม่มาไม่ได้ ไม่มีก็ขอให้มาทำให้มันจบๆไป เค้าจึงรับปากว่าจะมา รุ่งขึ้นทุกอย่างพร้อมแล้ว ถึงฤกษ์ เค้าก็ตั้งขบวน เดินเข้ามาพร้อมของไหว้ เราก้ทำพิธีตามปกติ แต่ไม่มองหน้ามันสักนิด รู้สึกโกรธมากกก มันยื่นซองใส่เงินมาให้ 4000 (รู้สึกเลยว่าตัวเองมีค่าแค่เงิน 4000) รับไหว้ เสร็จแล้วลุงจึงบอกเราว่า ทุกอย่างเป็นอันจบพิธี เราจึงพูดว่า มีเรื่องอยากจะพูด ขอพูดอะไรหน่อยได้ไหม? ป้าเราบอกให้พูดมาเลย ทุกคนอยากฟัง ในบ้านเราเต็มไปด้วยญาติเรา และฝ่ายเค้า เราจึงพูดขึ้นมาว่า
" ...(เรียกชื่อเค้า) ในเมื่อไม่เชื่อว่าเป็นลูก ก็ไป เลิกกับกูไป อย่ากลับมาให้กูเห็นหน้าอีก ไม่ต้องทำอะไรให้กูทั้งนั้น เพราะเชื่อหนิว่าไม่ใช่ลูก แล้วในวันที่กูคลอด ก็ไม่ต้องเสนอมาให้ลูกกูเห็นหน้า ไม่ต้องมาเลี้ยง ไม่ต้องมาส่งเสีย ลูกคนเดียวกูเลี้ยงได้ ไม่ต้องมาเป็นพ่อของลูกกู กูไม่ต้องการ เงินแม้แต่บาทเดียว ก็ไม่ต้องส่งมา กูไม่เอา!! "
มันจึงพูดขึ้นว่า พูดจบแล้วใช่มั๊ย? เราจึงตะโกนไปว่า ออกไป!!! มันก็ลุกออกไปโดยที่ไม่หันมาอีกเลย(เรื่องทั้งหมดเราทบทวนดีแล้ว เราคงอยู่ด้วยกันไม่ได้ เลิกกันตั้งแต่ตอนนี้ มันเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว)
หลังจากนั้นเราก็ไม่คิดที่จะติดต่อไป ทางมัน(ต่อไปขอใช้คำนี้นะคะ)ก็ไม่เคยคิดจะติดต่อมา แต่เราก็ไม่สนใจแล้วล่ะ จะยังไงก็ช่าง เราก็ไปฝากท้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด โดยได้รับความช่วยเหลือจากพี่ๆ เราเข้าไปกราบขอโทษพ่อกับแม่ ขอโทษทุกๆอย่างที่ทำให้ท่านเสียใจ เค้าก็ให้อภัยเรานะ คอยหาของมาบำรุงทุกอย่าง อาหารการกินไม่เคยขาด สมบูรณ์มาก น้ำหนักจาก 51 เพิ่มขึ้นเป็น 78 เราทำทุกๆวันให้ดีที่สุด รอวันที่คนในท้องจะออกมา .....
30 March 2014
แล้ววันที่รอคอยก็มาถึง เค้าออกมา(หน้าถอดพ่อเป๊ะ) ด้วยน้ำหนัก 2840 เป็นเด็กผู้ชาย เราเห็นหน้าเค้า ความทุกข์ที่เคยมีก็หายไปเลยล่ะ คุ้มค่ากับการที่เราไม่ทำร้ายเค้าในวันนั้น เค้าเกิดมาจากความรัก แม้จะมีชั้นที่เป็นแม่ แต่ก็ยังมีตา ยาย ป้า น้า อา ทุกคนรักเค้าหมด พ่อแม่เราเห่อหลานมากเลยล่ะ ความโกรธของเค้าหายไปเพียงแค่ได้เห็นหน้าหลาน ทุกคนกลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง
จากวันนั้น ตอนนี้น้องอายุ 1 ขวบ 2 เดือนแล้ว น่ารัก กินเก่ง ยิ้มเก่ง เป็นที่รักของทุกคนในบ้าน บางทีมองหน้าเค้าก็นึกสงสาร ได้แต่ขอโทษ ที่ทำให้เค้าต้องขาดพ่อ ขอโทษที่สร้างปมให้กับเค้า แต่เราก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เลี้ยงเค้าให้ดีที่สุด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะต้องผ่านมันไป พร้อมกับมือน้อยๆ ที่อยู่ข้างๆเราเสมอมา ตอนนี้ ทุกคนต่างมีรอยยิ้ม กับหลานตัวน้อย เราจะเลี้ยงเค้าให้ดีที่สุด นี่คือคำที่ชั้นบอกกับแม่ไว้เสมอ
แม้จะผ่านมานานแล้ว แต่ชั้นก็ไม่เคยลืมทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาเป็นบททดสอบในชีวิตเลยล่ะ ทุกปัญหามีทางแก้ไข ส่วนพ่อน้องก็ไม่เคยติดต่อมาอีกเลย แม่จะรู้วันที่คลอดน้องก็ตาม ในใบเกิดมีเพียงแค่ชื่อเราเท่านั้น หากจะโทษว่ามีใครผิด ก็คงผิดที่เราเอง ทำอะไรไม่คิดถึงผลที่ตามมา ผิดที่ไม่รักตัวเอง จนเกิดความผิดพลาดที่ใหญ่หลวง แต่ก็ไม่เคยโทษน้อง เพราะเค้าคือของขวัญล้ำค่า ที่ฉันได้มา ต่อจากวันนี้ไป คงทำทุกอย่างเพื่อเค้า แม้จะเหนื่อย ก็จะไม่ยอมแพ้ เพียงขอให้เค้ามีความสุข ไม่ขาดอะไรในชีวิต จะเป็นทั้งพ่อ และแม่ในเวลาเดียวกัน จากนี้ แม้จะเหนื่อยกับการเลี้ยงลูกคนเดียว แต่ก้มีความสุขที่ได้ทำ เพราะฉันคือ ... Single Mom