เปิด 19 ตำรายาผีบอก ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
ยาผีบอก คือ ยาที่ได้จากการฝัน หรือ เข้าทรงโดยผู้มาเข้าฝันหรือผู้เข้าทรงบอกตำรับยา เพื่อให้ผู้ใช้หายจากโรคเป็นการเอาบุญ เมื่อหายแล้วผู้ใช้ยาต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้าของตำรับด้วย
1.ยาพอกแผล
ยาพอกแผลมีตัวยา 6 อย่าง คือ
1. ดอกชบาแดง
2. ใบชบาแดง
3. ทองสามย่าน
4. ใบตำลึง
5. ใบผักปริง
6. หางตะเข้
วิธีปรุงยา เอาตัวยาทั้งหมดอย่างละเท่าๆ กัน ตำแล้วเคล้ากับสุรา ใช้พอกก็ได้ ทาก็ดี
เป็นลมพิษ ถูกตัวบุ้งคัน
มีตัวยาแก้ง่ายๆ ดังนี้
1. ใบตำลึง
2. สุราขาวหรือเหล้า 28 ดีกรี
สรรพคุณ แก้ปวดแผลต่างๆ บรรดาแผลที่ปวดแสบปวดร้อนยิ่งถูกกัน
วีธีปรุงยา เอาใบตำลึง ตำหรือบี้ แล้วคลุกกับเหล้าใช้ทาตรงที่เป็นลมพิษ หรือถูกตัวบุ้งคัน อาการคันจากตัวบุ้งและลมพิษก็จะหาย
2.ยารักษาริดสีดวงจมูก (ไซนัส)
มีอยู่ 2 ขนาน ขนานที่ 1 ตัวยามี 6 อย่างคือ
1. ขิงแห้ง
2. เจตมูลเพลิง
3. ดีปลี
4. ตองตึง
5. พริกไทย
6. รากสลิด
วิธีปรุงยา ตัวยาทั้งหมดอย่างละ 1 ส่วน ตำให้เป็นผงแล้วละลายกับน้ำร้อนรับประทาน
ขนานที่ 2 มีตัวยา 15 อย่างคือ
1. กระวาน 1 ส่วน
2. โกฐสอ 1 ส่วน
3. เจตมูลเพลิง 2 ส่วน
4. ชะเอม 1 ส่วน
5. ดีปลี 1 ส่วน
6. ตองตึง 1 ส่วน
7. เทียนขาว 1 ส่วน
8. เทียนเยาวพานิ 1 ส่วน
9. เทียนสัตตบุษย์ 1 ส่วน
10. บุกรอ 1 ส่วน
11. ผลมะกล่ำใหญ่ 1 ส่วน
12. มะขามป้อม 1 ส่วน
13. สมอไทย 1 ส่วน
14. สมอเทศ 2 ส่วน
15. สมุลแว้ง 1 ส่วน
วิธีปรุงยา เอาตัวยาทั้งหมดตำให้เป็นผง ละลายน้ำร้อนรับประทาน
3.ยาแก้โรคหนองใน
ยาขนานนี้เป็นยาขนานโบราณ ซึ่งใช้กันได้ผลทีเดียว ตัวยามี 4 อย่างคือ
1. กำมะถันเหลือง หนัก 1 บาท
2. ยาข้าวเย็นทั้ง 2 หนักอย่างละ 10 บาท
3. รากไม้รวก หนัก 30 บาท (ยาข้าวเย็นทั้ง 2 อย่าง รวมเป็น 4 อย่าง)
วิธีปรุงยา เอาตัวยาทั้ง 4 อย่างต้มกินเช้ากินเย็น
4.ยาแก้น้ำนมแห้ง
สตรีบางคนเกิดลูกแล้วน้ำนมเกิดแห้ง เพราะอาการภายในเกิดสำแดงจึงไม่มีน้ำนมให้ลูก ควรใช้ยาขนานนี้ ซึ่งมีตัวยาอยู่ 8 อย่าง ดังนี้
1. ยาข้าวเย็นใต้ทั้งสองอย่างรวมกันหนัก 5 บาท
2. ข้าวเหนียวดำ
3. ขิง หนัก 1 บาท
4. เจตมูลเพลิงหนัก 1 บาท
5.ใบตะเคียน 6. ชะเอมหนัก 1 บาท
7. รากไทยย้อยหนัก 1 บาท
8. หัวปลีกล้วยน้ำว้า
วิธีปรุงยา ใบตะเคียนหั่นใส่พอสมควร ข้าวเหนียวดำพอสมควรเหมือนกับใบคะเคียน หัวปลีกล้วยน้ำว้าผ่า 3 ชิ้น ทิ้งเสีย 2 ชิ้น เอาไว้ชิ้นเดียว หั่นเครื่องทั้งหมดใส่หม้อต้มกินเช้าเย็น น้ำมนที่แห้งก็จะไหลออกมา
5.ยาแก้โรคเบาหวาน
ถ้าเป็นเกิน 2 ปี กินแค่ 2 - 3 หม้อก็หายถ้าเป็นนานเพียงปีเดียวกินแค่หม้อเดียวก็หาย
มี 2 ขนาน
ขนานที่ 1 คือ
ขนานที่ 1 คือ
เถาวัลย์เปรียง, บานไม่รู้โรย, หัวสับปะรด, หัวเอี้ยง, รากมะละกอตัวผู้, หน่ออ้อ (ต้นอ้อ), สารส้ม, หญ้าสันกรด, หัวส้มกุ้ง, แก่นปรู, ยาข้าวเย็นทั้งสอง, กำมะถันเหลืองป่น, แก่นประดู่, แก่นมะหาด, แก่นสนเทศ, แสมทั้งสองสิ่ง สิ่งละเท่า ๆ กัน, และเปลือกอ้อยช้าง
วิธีปรุงยา เอาตัวยาทั้งหมดอย่างละเท่า ๆ กัน ถ้าหนัก 1 บาท ก็เอาอย่างละ 1 บาท เท่ากันหมด ต้มแล้วกินวันละ 3 เวลา
ขนานที่ 2 คือ
1. ทองพันชั่งทั้งต้นทั้งใบทั้งรากหนัก 6 บาท
2. ต้นเหงือกปลาหมอทั้งต้นทั้งใบหนัก 6 บาท
3. พญาร้อยรูหนัก 6 บาท 4. ข้าวเย็นเหนือข้าวเย็นใต้หนักอย่างละ 3 บาท
วิธีปรุงยา นำเอาทองพันชั่งและต้นเหงือกปลาหมอตากให้แห้ง แล้วต้มกับพญาร้อยรูและข้าวเย็นเหนือข้าวเย็นใต้ ต้มกินให้ครบ 6 หม้อยา เบาหวานจะหายขาด
6.ยาทำให้เป็นหนุ่มเป็นสาว
สิทธิการิยะ หญิง - ชาย ท่านใดที่มีอายุล่วงเข้า 40 หรือ เลยไป โบราณท่านว่าเข้าวัยกลางคนร่างกายที่เคยกระชุ่มกระชวยเต็มไปด้วยพละกำลังวังชาก็ถดถ่อยอ่อนแอลงเป็นลำดับท่านให้เจียดยาสมุนไพรดังนี้
ทิ้งถ่อน ตะโกนา บรเพ็ด เมล็ดข่อย แห้วหมู พริกไทย มะตูมอ่อน โสม หนักอย่างละ 1 บาท บดให้ละเอียดคลุกกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอนเท่าเม็ดถั่วลิสง รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 เวลา ก่อนนอน และ ตื่นนอนทุกวัน เพิ่มพลังดีนักแล
7.ยาแก้โรคความดันโลหิตสูง
ของเดิมใช้กาฝากมะม่วงกร่อน (ตามที่นายแพทย์เยอรมันผู้หนึ่งบอก) แต่หลังจากที่คุณวิชาญได้ทดลองใช้กาฝากมะม่วงชนิดอื่น ปรากฏว่าใช้ได้เหมือนกันแต่ต้องใช้กาฝากชนิดหนา ๆ ชนิดบางไม่ค่อยดี สังเกตดอกจะมีลักษณะคล้ายดอกประทัดจีนสีแดง นำมาทั้งต้นทั้งใบเรียกว่าทั้ง 5 เลย แล้วเอามาย่างไฟให้เกรียมหรือจะตัดเป็นท่อน ๆ คั่วในกระทะให้เกรียมก็ได้ แล้วนำมาต้มต่างน้ำชา เพียง 3 วันจะรู้สึกทุเราลง
วิธีต้ม ให้ต้มทีละเต็มกา หรือหม้อขนาดก้นหม้อเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว รับประทานทีละ 1 แก้ว เรียกว่าต่างน้ำเลยทีเดียว มิใช่เพียงเช้าเย็นแต่ต้องรับประทานบ่อย ๆ ทั้งวัน อาการของความดันจะค่อยทุเราและหายขาดไปในที่สุด
8.ยาแก้โรคเบาหวาน
ขนานนี้จะผิดแผกไปจากที่เคยบอกไปในขนานที่แล้ว การรักษาอาจหายขาดได้เมื่อถูกกับยา ผู้ป่วยที่หายขาดมักจะหายด้วยยาคนละขนาน ตัวยามีดังนี้
1. ทองพันชั่งทั้งต้นทั้งใบทั้งรากหนัก 6 บาท
2. ต้นเหงือกปลาหมูทั้งต้นทั้งใบหนัก 6 บาท
3. พญาร้อยรูหนัก 6 บาท
4. ข้าวเย็นเหนือข้าวเย็นใต้หนักอย่างละ 3 บาท
นำเอาทองพันช่างและต้นเหงือกปลาหมูตากให้แห้งแล้วต้มกับพญาร้อยรูและข้าวเย็นเหนือข้าวเย็นใต้ต้มกินให้ครบ 6 หม้อยา เบาหวานจะหายขาด
9.ยาแก้โรคกษัยและวัณโรค
1. การบูรขาว
2. ปูนขาว
3. บอระเพชร
4. หัวแห้วหมู
วิธีปรุงยา นำตัวยาทั้ง 4 อย่างเท่า ๆ กัน เอาบอระเพชรและหัวแห้วหมูใส่ครกโขลกพอแหลก แล้วคลุกกับการบูรและปูนขาว จุดธูป 5 ดอก เสกด้วยพุทธคุณ 108 จบ ผึงแดดผึงน้ำค้างไว้สามวันสามคืนแล้วต้มกิน
10.ยารักษาแผลตะปูตำ
เมื่อถูกตะปูหรือโลหะที่เป็นสนิมดำ จะรู้สึกปวดมากยา 3 ขนานนี้จะช่วยได้เป็นอย่างดี
1. ไข่ไก่ต้มสุก แกะเอาเฉพาะไข่ขาวปิดตรงปากแผล สนิมโลหะในแผลจะถูกดูดออกมาจนหมดสิ้น
2. ข้าวสุกกับเกลือบดละเอียดปิดปากแผลก็ได้ผลเช่นเดียวกัน
3. หัวเปราะ ( ที่ใช้ผสมกับเครื่องแกง ) ตำกับเกลือพอกปากแผลก็ได้ผลเช่นเดียวกันแต่แสบหน่อย
11.ยาบำรุงเลือดสตรี
สตรีที่มีเลือดไม่ปกติมักจะมีอาการต่างผิดแปลกไปตามธาตุของแต่ละบุคคล เช่น ผอมแห้ง แรงน้อย หน้าแข้งตกสะเก็ด มีอาการซู่ซ่าไปทั้งตัว แขนขาเป็นเหน็บชา อ่อนเปลี้ยเพลียแรง กินไม่ได้นอนไม่หลับ มีอาการสะดุ้งผวาบ่อย ๆ ท่านให้ใช้ยา 7 สิ่งต่อไปนี้
1. ยาดำหนัก 1 บาท
2. ฝางหนัง 1 บาท
3. แกแลหนัก 1 บาท
4. คำฝอยหนัก 1 บาท
5. หญ้าไทร 1 กำมือ
6. ใบไผ่ป่า 1 กำมือ
7. ใบไผ่บาน ( ไผ่สีสุก ) 1 กำมือ
วีธีปรุงยา เอายาทั้งหมดนี้ใส่ในหม้อดินเติมน้ำ 3 ขัน ต้มเคี่ยวให้น้ำเหลือเพียงขันเดียว แล้วเอาน้ำยาต้มออกแยกไว้ แล้วเอาตัวยาทั้งหมดมาใส่ครกโขลกให้ละเอียดคลุกเคล้ากับน้ำยาที่ต้ม แช่ไว้สักพักใหญ่แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง เอากากทิ้งไป เอาน้ำมาต้มอีกครั้งพอเดือดแล้วจึงเก็บไว้รับประทานเช้าครั้งเย็นครั้ง ทานก่อนอาหารจะรับประทานมากน้อยดูตามควร หนึ่งหม้อกินได้คนเดียว เมื่อจะต้มยาให้จุดธูป 5 ดอก บูชาที่เตาไฟอธิษฐานเอาตามใจ หายแล้วให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้าของยาท่านด้วย
12.ยาอายุวัฒนะ
สิทธิการิยะ ยาอายุวัฒนะขนานนี้ท่านให้เอา
1. สมอไทย 5 ผล ลงด้วยพระเจ้า 5 พระองค์ ( นะ โม พุท ธา ยะ )
2. เมล็ดในสลอด ( กินลง ) 7 เม็ด ลงด้วยหัวใจพระธรรมเจ็ดคัมภีร์ ( สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ )
3. แห้วหมู 3 หัว ลงด้วย ( มะ อะ อุ )
4. บอระเพ็ด ยาว 3 องคุลี ตัด 3 ท่อน ลงด้วย ( อิ สวา สุ )
5. หัวเข้าค่า 4 หัว ลงด้วย ( ทุ สะ นิ มะ )
6. ใบโคนดินสอ 32 ใบ ลงด้วย ( อาการ 32 )
7. ยาดำหนัก 1 บาท
วิธีปรุงยา เอาตัวยาทั้ง 7 สิ่ง ใส่ในถ้วย 7 ใบ เอาน้ำผึ่งแท้ใส่ลงแช่ให้ท่วมตัวยาแล้วเสกด้วยคาถาว่า เสกขา ธัมมา อะเสกขา ธัมมา เนวะเสกขานา เสกขา ธัมมา ให้เริ่มทำยานี้ในวันเสาร์แช่ไว้จนครบ 7 วันเอาตัวยาออกมาผสมกับน้ำผึ้งที่แช่ใบโคนดินสอ เก็บเอาไว้เป็นกระสายน้ำผึ้งที่แช่ยาอื่น ๆ นำเอาไปเททิ้งในน้ำที่ไม่โสโครก เอายาที่ทำเป็นผงแล้วมาผสมกับน้ำผึ้งที่แช่ใบโคนดินสอ เวลาจะกินให้ปั้นเป็นลูกกลอน ขนาดเท่าเม็ดในพุทธรักษา ต้องเริ่มกินในวันพฤหัสบดี วันแรกกินเพียงเม็ดเดียว วันต่อไปวันศุกร์กิน 2 เม็ด วันที่ 3 วันเสาร์กิน 3 เม็ด แล้วหยุดดูกำลังเสียก่อน ถ้ากำลังน้อย ( ถ่ายมาก ) ให้ลดลงกินวันละ 3 เม็ด ตลอด ยานี้ท่านว่ากินไปได้ 15 วัน โรคภัยในตัวจะหายสิ้น มีกำลังดีมาก กินไป 1 เดือนเสียงจะกังวานไพเราะ กินไป 1 เดือนครึ่งจะคงกระพันชาตรีในตัว กินจนถึง 2 เดือนตัวจะเบาเดินเหินคล่องแคล่วปานลมพายุ กินถึง 3 เดือนมีปัญญากว่าคนทั้งหลาย กินถึง 4 เดือนปรารถนาสิ่งใดได้สมหวัง
13.ยาบำรุงสายตา
1. ผักบุ้งแดง ถอนเอาทั้งต้นทั้งรากนำมาตากแดดแล้วบดเป็นผงให้ละเอียด
2. พริกไทย บดเป็นผงให้ละเอียดเช่นเดียวกัน
3. น้ำผึ้งแท้
วิธีปรุงยา เอาพริกไทยกับผักบุ้งชั่งตามน้ำหนักดังนี้ ผักบุ้งแดงหนัก 3 ส่วน ต่อพริกไทย 1 ส่วน คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วใช้น้ำผึ้งผสมพอปั้นเป็นลูกกลอนได้ รับประทานครั้งละ 1 เม็ด 2 เวลาเช้าเย็น ตามัว ตาฟาง ตาฝ้า ตาลม อาการรู้สึกแสบตา น้ำตาไหล จะหายได้อย่างเด็ดขาดในเวลาไม่ช้าและจะสดใสบริสุทธิ์แม้จะย่างเข้าวัยชราก็ตาม ต้องทานเป็นประจำ
14.ยาถอนพิษงู
1. ข้าวเปลือกข้าวเหนียว 1 กำมือ ใส่กระทะคั่วให้เป็นข้าวตอกหรือถ้ามีขายจะซื้อมาก็ได้
2. น้ำตาลโตนดอย่างน้ำตาลเมืองเพชรหรือน้ำตาลสรรพยาจังหวัดชัยนาท ห้ามมิให้มีกะทิปนเป็นอันขาด น้ำตาลมะพร้าวก็ใช้ไม่ได้ต้องน้ำตาลโตนดแท้ ๆ
วิธีปรุงยา เอาน้ำตาลโตนดละลายน้ำฝนให้ข้นหน่อยเพื่อให้รสค่อยข้างหวาน เตรียมไว้ 1 ถ้วยแกง ตรวจดูข้าวตอกอย่าให้ข้าวเปลือกปนแล้วเอาน้ำตาลที่เตรียมไว้คลุกเคล้ากันรอสักครู่พอให้ข้าวตอกยุ่ยแล้วก็กินให้มากที่สุดยานี้ท่านบอกว่าห้ามเรียกเก็บเงินจากคนป่วยไม่งั้นจะถูกงูกัดตายใน 3 – 7 วัน
15.ยารักษาฝ้า
ตำรับยามีดังนี้ ต้นตาลเดี่ยว ลักษณะคล้ายต้นตระไคร้ เวลาซื้อต้องซื้อเป็นคู่ เอาแต่มาตำให้ละเอียดแล้วคลุกกับเกลือป่น แล้วเอามาทาที่หน้าทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออก เว้น 15 วัน ทำใหม่อีกครั้ง จนครบ 3 ครั้ง สิวฝ้าจะหายไปอย่างน่าอัศจรรย์16.ยาแก้พิษงูสารพัด
1. ต้นเสลดพังพอน เป็นยาแก้พิษงูที่ใช้ได้ผลชะงัดที่สุดชนิดหนึ่ง ผู้ที่ประสงค์จะช่วยชีวิตคนและตนเองในยามคับขันควรหาต้นไม้นี้ปลูกไว้
วีธีปรุงยา ใช้ใบสด 1 กำมือ ตำให้แหลกที่สุดใช้เหล้าขาว 1 ช้อนใหญ่ผสมแล้วขยำ แล้วครั้นเอาน้ำยาให้รับประทานครั้งเดียว กากยาให้เอาพอกแผล ก่อนจะพอกให้ตรวจดูเคี้ยวงูเสียก่อนอาจหักคาได้ ถ้าพบให้เขี่ยออกเสียก่อน ควรใช้กากพอกแผลเสียก่อนแล้วถึงเอาน้ำยากินจึงจะดี
2. ต้นจิงจ้อ บางแห่งเรียกว่าต้น “ น้ำเน้ ” เป็นเถาวัลย์เครือขึ้นเลื้อยพันไม้ใหญ่รากเป็นหัวแข็งชอบขึ้นริมห้วยหรือมีน้ำอยู่ใกล้ ๆ ออกดอกเป็นพวงระย้าสีน้ำเงิน ดอกใบคล้ายอินทนิลเครือ เคยมีผู้รู้เล่าว่าถูกงูเห่าพ่นพิษใส่ตาทั้งปวด แสบ ร้อน ลืมตาไม่ขึ้น เข้าใจว่าตาบอด พอดีเพื่อนเอาเถาจิงจ้อมาคั้นเอาน้ำหยอดตา รู้สึกเย็นวาบหายปวดแสบ ร้อนดังปลิดทิ้ง
3. มะละกอ ยางใช้แก้สารพัดพิษเช่นกัน ควรจะมีปลูกไว้ในบ้านเผื่อคราวจำเป็น
17.ยาลดความอ้วน
ใช้ บอระเพ็ดตากแห้ง แล้วบดให้ละเอียดนำมาคลุกกับน้ำผึ้งแท้ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดพอกลืน รับประทานตอนเช้า ครั้งละ 3 เม็ด ความอ้วนจะค่อย ๆ ลดลง ยังช่วยป้องกันเบาหวานด้วย
วีธีพิสูจน์น้ำผึ้ง เอาน้ำผึ้งหยดลงกระดาษแล้วยกกระดาษทำให้กลิ้งไปมา ถ้าเหมือนน้ำกลิ้งบนใบบอนถือว่าแท้
18.ยาแก้มาลาเลียขึ้นสมอง
วิธีปรุงยา ให้พลีต้นผักเสี้ยนผี ถอนทั้งรากทั้งโคลน 3 ต้นคั้นผสมกับเหล้าขาว 28 หรือ 35 ดีกรีก็ได้ โดยตำหรือคั้นสด ๆ แล้วเอาสุราลงผสมคั้นเอาน้ำรับประทาน 2 ครั้งหายไม่เป็นอีก
วิธีพลี ให้พูดเองเออเอง โดยพูดกับต้นผักเสี้ยนผีว่า “ พ่อหมอจ๋าอยู่หรือเปล่า ” ตอบเองว่า “อยู่”
แล้วพูดต่อไปว่า “ มาเอาอะไรหละจ๊ะ ” ตอบเองว่า “ มาหาพ่อหมอขอต้นผักเสี้ยนผีเอาไปทำยารักษาไข้มาลาเรียจ๊ะ ” ตอบว่า “ เอาไปสิจ๊ะ เอาไปกินเถอะ ยานี้ดีกินแล้วหายจ๊ะ ” พร้อมถอนต้นผักเสี้ยนผีพร้อมกัน 3 ต้น พร้อมเอามาคั้นตามที่บอก
19.ยาขับเลือด
สตรีบางคนหลังคลอดบุตรแล้วแล้วเน่าและน้ำคาวปลาจะคั่งค้างอยู่ในร่างกาย ท่านให้เอายาตำรานี้ละลายน้ำสุราแล้วรับประทานจะขับเลือดเน่าและน้ำคาวปลาออกได้หมด ทั้งบำรุงเลือดให้มีระดูงาม แก้จุกเสียดเถาดาน แน่นหน้าอก แก้ริดสีดวงผอมแห้ง ตัวยามีดังนี้
1. ครั่งไม้
2. หญ้ายองไฟหนัก 3 บาท
3. ดอกคำทั้ง 2
4. ตรีกฏุก
5. เทียนทั้ง5
6. ผักกะชับ
7. ฝางเสน
8. เลือดแรด
9. สารส้ม
วิธีปรุงยา ยาทั้งหมดนี้นอกจากหญ้ายองไฟน้ำหนักอย่างละ 1 บาท ผสมตำให้เป็นผงปั้นให้เป็นเม็ดก็ได้ แล้วใช้ละลายกับเหล้าขาวรับประทานวันละ 2 ครั้ง
20.ยาแก้เลือดร้าง
เป็นตัวยาบำรุงให้เลือดฝาดดีขึ้น ผิวพรรณผุดผ่อง เลือดลมเดินสะดวก สุขภาพแข็งแรง มีตัวยาเป็นส่วนผสมอยู่ 8 อย่างคือ
1. โกฐชะฏามังสีหนัก 3 บาท
2. แกลบข้าวเหนียวดำ
3 กำมือ 3. คำฝอยหนัก 5 สลึง
4. ดอกคำไทยหนัก 1 บาท
5. เทียนดำหนัก 1 สลึง
6. น้ำอ้อยงบแท้ ๆ 3 งบ
7. ผักเป็ดแดงหนัก 5 ตำลึง
8. ฝางหนัก 4 บาท
วิธีปรุงยา เอายานี้ต้มรวมกันกินเช้าเย็นทุกวัน
20.ยารักษาครรภ์
ยาขนานนี้สำหรับสตรีซึ่งเริ่มตั้งครรภ์ รับประทานได้ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ 1 เดือนขึ้นไปเป็นยาบำรุงครรภ์ที่จะทำให้เด็กในครรภ์แข็งแรงสมบูรณ์ทั้งแม่ทั้งลูกทำให้คลอดง่าย ตัวยามีดังนี้
1. กระลำหัก
2. กฤษณา
3. โกศทั้ง5
4. ขอนดอก
5. จันทร์ทั้ง2
6. ชะลูด
7. เทพทาเร
8. เทียนทั้ง5
9. ไม้สัก
10. ราก 30
11. สน
12. สักขี
13. สมุลแว้ง
14. อบเชย
วิธีปรุงยา เอาตัวยาดังกล่าวอย่างละเท่า ๆ กันต้มกิน
โกฐทั้ง 5 มีดังนี้
1. โกฐสอ 2. โกฐหัวบัว 3. โกฐเชียง 4. โกฐเขมา 5. โกฐจุฬาลัมพา
21.ยาดองสุรา
รับประทานได้ทั้งชายและหญิง สำหรับชายบำรุงเลือดบำรุงกำลัง สำหรับหญิงแก้หญิงที่อยู่ไฟไม่ได้บำรุงโลหิตให้งดงาม ตัวยามีดังนี้
1. กำลังวัวเถลิงหนัก 2 บาท
2. เขากวางอ่อนหนัก 4 บาท
3. เทียนทั้ง 5 หนักสิ่งละ 1 บาท
4. ฝางหนัก 4 บาท
5. ส้มกุ้งใหญ่หนัก 2 บาท
6. ส้มกุ้งน้อยหนัก 2 บาท.
7. สารส้มหนัก 2 บาท
8. แสมทะเลหนัก 2 บาท
วิธีปรุงยา ตำตัวยาทั้งหมดให้ละเอียดเป็นผงห่อผ้าขาวบางแล้วดองสุราขาวรับประทานเช้าเย็น
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!