ผมโทรไปหาเธอแปบเดียวเธอก็รับสายปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงเราก็คุยกันประมาณว่า
ผม : โหลครับ
ญ : ค่ะ
ผม : A หรือเปล่าค่ะ
ญ : ไม่ใช่ค่ะ
ผม : อ่าวแล้วนี้ใครละค่ะ
ญ : B ค่ะ
ผม : อ่าวหรอ..หรือพี่โทรผิดนะ
ญ : ไม่ผิดค่ะนี้เบอร์ A ค่ะแต่ตอนนี้ B มีอีกเบอร์นึงเอาไหมค่ะรู้จักกัน
ผม : อ๋อ..แล้ว B ทำเดียวกันกะ A หรือเปล่าค่ะ
ญ : ค่ะ
ผม : B มีรูปไหมค่ะ?
ญ : ตามในลายเลยค่ะ
ผม : อ่อๆๆ งั้นปรกติเขานัดเจอกันที่ไหนละค่ะ..?
ญ : ที่ XXX ค่ะ
ผม : ได้ๆๆพี่จะเลิกงานแล้วเดียวไปเจอกันนะ
ญ : พี่หนูยังไม่ได้แต่งตัวเลย อีกครึ่งชั่วโมงนะ
ผม : ได้ค่ะๆ เดี๋ยวเจอกัน
สิ้นเสียงวางสายผมก็ไปรอที่นัดไป โดยที่นัดไว้ตอน 18.00 น. แล้ว น้องB ก็เลสไปประมาณ 30 นาทีเธอก็โทรมาหาจนได้มาเจอกัน รูปกับตัวจริงแตกต่างกันประมาณ 50% ดูคลำกว่ามาก และเธอแต่งตัวเหมือนโคโยตี้ใส่รองเท้าแตะมาหาผม ผมสีทอง ใส่บิ๊กอาย ฟันเหยินเห็นได้ชัด และทาปากแดงๆ สูงประมาณ 150 ได้ เธอคุยเก่งชวนผมคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปตลอดทางจนถึงโรงแรม โดยที่เธอคุยไปและกินขนมไปตลอดเวลา เธอก็ไม่ได้ดูสวย แต่ก็ไม่ได้ดูขี้เหร่ อยู่ในระดับปลานกลางๆ และโรงแรมที่พาไปเธอก็เป็นคนแนะนำ โดยเธอก็มีบัตรสมาชิกที่โรงแรมนั้นด้วย ผมขับรถเข้าไปโรงแรมนั้นมืดมากๆๆ มียายแก่ๆๆคนนึงนั่งอยู่ที่ม่านรูดด้านหน้านั้น และแกก็เอาทีวีมาตั้งดูละครไป เก็บตังค่าห้องไป ที่นั้มีประมาณ 10 ห้องใช้บริการอยุ่ 1 ห้องผมเห็นรองเท้าแตะประมาณ 3 คู่ รองเท้าผู้ชาย 2 คู่ได้ ผมเลยไปจอดห้องข้างๆนั้น ซื้อถุงยาง อนามัยกับยายคนนั้นท่าทางใจดีมาก แกยิ้มให้ผมและพูดคุยกับ B อย่างสนิทสนม เพราะเธอคงมาใช้บริการบ่อย ห้องที่นั้นเหมือนโรงแรมทั่วไป มีทีวี ห้องน้ำแบบโปรงใส และเตียง 1 เตียง พร้อมไฟสีออกม่วงๆๆดูมองไม่ค่อยจะเห็นเท่าไหร่ และที่สำคัญ แอร์เย็นมากและปรับไม่ได้ B เข้ามาและถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่กางเกงใน กับยกทรง ผมก็ขอตัวอาบน้ำก่อนโดยที่เอากระเป๋าตังและเสื้อไปด้วย B ก็หันมาหัวเราะและบอกว่า "กลัวหายหรอ นู๋ไม่เอาไปหรอก และไม่หนีด้วย ตังนู๋ก็ยังไม่ได้" ผมก็ยิ้มและไปอาบน้ำ ออกมาจากห้องน้ำเธอก็เปิดทีวีดูเพลงลูกทุ่งอยู่ ผมก็ถามว่าชอบเพลงลูกทุ่งหรอเธอก็บอกว่าชอบ และก็แบมือขอตังก่อนทีจะ มีไรกัน ผมก็จ่ายไปเธอก็พิจารณาอยู่นานเพราะกลัวจะเป็นแบงค์ปลอม ส่องกะไฟทั่วห้องและเธอก็วางตังไว้ที่หัวเตียง บราที่เธอใส่เป็นสีดำแบบบีกินนี่เหมือนกำลังจะไปว่ายน้ำมากกว่าจะเป็นเสื้อใน ...
เมื่อเสร็จกิจเราก็มานั่งคุยกันโดยที่ตัวผมเป็นคนที่ชอบคุยอยู่แล้วบวกที่เธอเป็นคนที่คุยเก่งเหมือนกกันและเธอก็ถามผมตลอด"พี่เป็นเอดส์"เปล่าเนี้ย?? ผมก็บอกไปว่าไม่ได้เป็นพี่ป้องกันด้วย เพราะหล่อนจะให้ใส่ถุงตลอดเพราะเธอก็ไม่อยากเป็น...แล้วเราก็มานั่งคุยกันและเธอก็เล่าตัวเองให้ผมฟังว่า..
เธอมีลูก 2 คนเป็นลูกสาว คนนึงอายุ 3 ขวด คนนึงอายุ 7 ขวดเธอส่งเข้าเรียนอยู่ตัวคนเดียว และเธอก็ต้องเรียนไปด้วยวันอาทิตย์แล้วที่เหลือเธอก็รับงาน 6 วันเพื่อเก็บตังส่งไปให้ลูกๆๆที่บ้านนอก อยากให้ลูกสบายไม่ต้องลำบาคเหมือนตัวเอง แถมพ่อแท้ๆๆของเด็กสองคนนี้ก็ไม่สนใจ ติดการพนัน และติดคุกไปตามสภาพเธอเลยต้องออกมาหาเลี้ยงตัวเองและลูก ผมก็สังเกตไปเห็นที่ท้องของเธอเห็นเหมือนเป็นรอยผ่าก็เลยถามว่ารอยอะไรเธอบอกว่า รอยจากทำหมันแล้วเธอก็เอามือผมไปให้จับตรงหน้าท้องเธอเลยถามว่าเจ็บไหม? เธอบอกว่าถ้ามีไรกันแรงๆก็เจ็บเหมือนกัน ในแววตาเธอที่เล่าให้ฟังเธอไม่มีความอายเลยแม้แต่น้อยมีแต่แววตาของความมุ่งมั่น แล้วมีกำลังใจและเธอก็บอกว่าอยากให้ปิดเทอมไวๆเพราะอยากไปหาลูกๆ คิดถึงลูก ผมก็บอกเธอไปว่าเวลามันผ่านไปเร็วเดี๋ยวก็ได้เจอนะ" เธอก็ยิ้มและมานอนที่ตักผม เธออายุประมาณ 24 ปี สาวตัวเล็กๆ ทำอาชีพขายบริการเลี้ยงลูก และเธอบอกผมว่า หนูไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยนะ พี่เป็นคนแรกที่หนูเล่าให้ฟังนะเนี้ย"
เมื่อถึงจุดๆๆนี้ผมเริ่มคิดหันมามองตัวเองว่า เราเที่ยวเพื่อสนุกนะเนี้ย กลับมาได้ความ ดราม่าแบบสุดๆๆซะงั้น !! มันทำให้ผมกลายเป็นไม่อยากเที่ยวไปเลย เลยขอลองครั้งนี้ครั้งแรกและเป็นครั้งสุดท้ายของครั้งนี้ ตอนแรกผมยังคิดเลยว่าโกหกผมหรือเปล่า เธอยังยืนยันเปิดรูปลูกสาวให้ดูทั้งสองคนหน้าตาเหมือนเธอมากกำลังน่ารักกันเลย เละเธอถ่ายรูปหอมแก้มลูกทุกรูปด้วย เอ้ออออ ได้อะไรมากกว่าเที่ยวสาวไซสลายอีกนะเนี้ยเรา....
จนถึงตอนนี้ทำให้ผมนับถือในความรักของแม่ที่มีต่อลูกมากๆ และเธอก็บอกอยู่ว่าเธอไม่สามารถไปทำอาชีพอย่างอื่นได้เพราะมันไม่พอกินพอใช้ กลัวลูกอดๆอยากๆ บวกกับคนที่บ้านเลี้ยงดูหลานก็ไม่ได้มีอะไร เธอเลยต้องเป็นสาวไซสลายเพื่อดำเนินชีวิต และเลี้ยงลูก มันมีความสุขแปลกๆๆว่าไหม เวลาเห็นผู้หญิงคนนึงเล่าเรื่องนี้ให้ฟังโดยไม่สนใจว่าตัวเธอเองจะเป็นอย่างไร ผมว่าใครจะว่าอะไรเธอว่าเธอเป็นตัวอะไรเธอคงไม่สนใจเพราะเธอเป็นคนมีเป้าหมายชัดเจนว่า อยากให้ลูกเรียนจบมัธยม" เมื่อถึงตอนนั้นจะทำงานอะไรค่อยว่ากัน ผมคุยกับเธอไปตลอดทางไปส่งเธอที่เดิม เธอขอเบอร์ผมผมเลยบอกเธอไปว่า "พี่ขอเที่ยวกับเธอเป็นคนแรกและคนสุดท้ายและ" พี่กะว่าจะไม่เที่ยวแล้วละ เธอก็ทำหน้าเฟลและก็ยิ้มให้ตามมาโบกมือและเธอก็ขับมอไซด์กลับบ้านไป
ผมไม่คิดว่าการเที่ยวของผมมันจะดึงเข้าดราม่าขนาดนี้แต่เรื่องราวของคนๆนึงนี้มันดูยิ่งใหญ่มากเหมือน กุหลาบสีม่วงที่อยู่ในดงหนาม เธอให้ข้อคิดผมมากมายเลยโดยที่เธอไม่ได้สอนผมซักคำ และมันทำให้ผมมองเห็นด้านดีๆของชีวิตผู้หญิงคนนึงที่เป็นสาวไซสลาย ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน...หรือผมอ่อนต่อโลกเกินไปไม่เคยเที่ยวและพอมาเที่ยวแล้วเห็นอย่างงี้แล้วอ่อนไหว ไม่ม้างงง
แต่ที่รู้ๆๆอย่างนึงเลยคือ ครั้งแรกครั้งนี้และครั้งสุดท้าย จริงๆๆ ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะครับ
***หวังว่าทุกคนที่อ่าน อ่านเพื่อได้ข้อคิดนะครับ อ่านเพื่อจรรโลงใจ อ่านเรื่องราวประสบการณ์ที่ผมแค่อยาก"แบ่งปัน" ไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกใครหรือให้ใครมาดูถูกตัวผมเกี่ยวกับซื้อบริการนะครับ***