มือถือเปียกตกน้ำทำไงดี มาดู 10 วิธีแก้ไขโดยไม่ต้องเสียเงิน
ในช่วงฤดูฝนเช่นนี้ โทรศัพท์มือถือของเราเสี่ยงที่จะเปียกฝนและเกิดความชื้น เพราะน้ำถือเป็นศัตรูกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด แม้ว่าจะเปียกหรือโดนน้ำเพียงเล็กน้อย ก็อาจเกิดความเสียหายจนเราคาดไม่ถึง เพราะฉะนั้นทางที่ดีเราควรเพิ่มความระมัดระวังกันให้มากขึ้น
แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัยที่ทำให้โทรศัพท์มือถือตกน้ำหรือโดนความชื้น อย่าเพิ่งตื่นตกใจ เพราะยังพอมีวิธีแก้ไขเบื้องต้นและทำได้ไม่ยาก
1. มือถือตกน้ำ เมื่อทำโทรศัพท์มือถือตกน้ำหรือโดนความชื้น ควรรีบนำออกมาจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุด และอย่าเพิ่งกดปุ่มเปิด-ปิดเครื่องเด็ดขาด เนื่องจากอุปกรณ์ยังเปียกน้ำและมีความชื้น การกดปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง อาจทำให้เกิดการลัดวงจรและเสียหายถาวรได้
2. แยกส่วนประกอบ จากนั้นควรรีบถอดและแกะส่วนประกอบต่างๆ ของโทรศัพท์มือถือออกจากกันอย่างรวดเร็ว (ส่วนประกอบที่สามารถถอดได้เองตามปกติ) ไม่ว่าจะเป็น ซิมการ์ด, แบตเตอรี่, หน้ากาก, ฝาหลัง และส่วนอื่นๆ
3. เช็ดให้แห้ง เมื่อถอดส่วนประกอบต่างๆ ที่สามารถถอดได้เรียบร้อยแล้ว ให้สลัดน้ำออกจากโทรศัพท์มือถือด้วยแรงพอประมาณ และใช้ผ้าชนิดที่ไม่มีขนหรือกระดาษทิชชูคุณภาพดีไม่เป็นขุย มาซับน้ำให้แห้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรืออาจจะใช้พัดลมช่วยเป่าด้วยก็ได้ ซึ่งขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน
4. ไดร์เป่าผมต้องห้าม มีคนจำนวนไม่น้อยที่นิยมใช้ไดร์เป่าผมมาเป่าโทรศัพท์มือถือที่เปียกน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควร เพราะลมจากไดร์เป่าผมมีความร้อนสูง อาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อโทรศัพท์มือถือและวงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายในได้
5. แดดมันร้อน การนำโทรศัพท์มือถือที่เปียกน้ำหรือโดนความชื้นไปตากแดด ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรเช่นกัน เพราะความร้อนจาก
6. ข้าวสาร หลังจากเช็ดคราบน้ำและความชื้นออกพอสมควรแล้ว ให้นำโทรศัพท์มือถือไปใส่ไว้ในถังข้าวสาร เพื่อให้ข้าวสารช่วยดูดความชื้นที่อาจจะยังหลงเหลืออยู่ในส่วนของอุปกรณ์ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยอาจทิ้งไว้เป็นระยะเวลาประมาณ 2-3 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าความชื้นได้หายไปหมดแล้วจริงๆ
7. ประกอบมือถือ เมื่อปฏิบัติทุกขั้นตอนข้างต้นเรียบร้อยแล้ว และแน่ใจว่าทุกส่วนของตัวเครื่องปราศจากน้ำและความชื้นแล้ว ให้นำซิมการ์ด แบตเตอรี่ หน้ากาก ฝาหลัง และส่วนอื่นๆ ที่เราถอดออกไปก่อนหน้านี้ มาประกอบกลับเข้าที่ตามเดิม
8. อย่าชาร์จไฟ หลังจากประกอบตัวเครื่องเรียบร้อยดีแล้ว ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่ในทันที เนื่องจากวงจรภายในอาจจะยังไม่พร้อมที่จะรับกระแสไฟฟ้า
ดังนั้นจึงควรระมัดระวัง หรือหลีกเลี่ยงไม่ให้โทรศัพท์มือถือตกน้ำหรือสัมผัสกับความชื้น และหากจำเป็นต้องนำโทรศัพท์มือถือออกไปใช้ในสถานการณ์ที่เสี่ยงกับการโดนน้ำ เช่นนำออกไปเล่นน้ำสงกรานต์ ก็ควรหาอุปกรณ์เสริมที่ออกแบบมาเพื่อกันน้ำโดยเฉพาะ ก็จะเป็นการดีที่สุด
ที่มา Thaimobilecenter
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!