ปรากฏการณ์ เมียน้อยซ่า ยุคโซเชียล..ความซื่อสัตย์เป็น เซฟทีคัท ดีที่สุด

จวกปรากฏการณ์เมียน้อยโชว์พาวออกสื่อหน้าด้าน ระเบียบรัตน์ซัดแหลกถ้าไม่พร้อมก็ไม่ต้องแต่งมีอะไรไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเป็นเอดส์ตาย ย้ำความซื่อสัตย์เป็นเซฟทีคัทที่ดีสุดในชีวิตคู่...

กลายเป็นปรากฏการณ์ที่เราได้ยินซ้ำๆ บ่อยๆ ระยะนี้บนหน้าข่าว สาวกับคำว่า 'เมียน้อย' ที่วิวัฒนาการไปไกลขนาดที่ว่าหลายคนยินยอมประกาศออกมาเต็มปากเต็มคำตามสื่อว่าตัวดำรงสถานะแบบที่ว่า คำถามก็คือ คำที่ว่าทำไมปัจจุบันมันถึงกลายเป็นสิ่งที่หลายคนไม่กระดากใจจะพูดออกมา หรือว่า คำนี้กลายเป็นสิ่งที่ด้านชากับสังคมไทยไปแล้ว

นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข ผู้ยืนคนละฝั่งกับคำว่า 'เมียน้อย' มาเนิ่นนาน พร้อมกับยืนหยัดแลกหมัดกับเรื่องราวผิดศีลธรรมเสมอๆ เปิดใจผ่านไทยรัฐออนไลน์ฉีกปรากฏการณ์เมียน้อยว่า ทำไมวันนี้มันถึงกลายเป็นคำธรรมดาที่ใครๆ ยอมรับ และไม่เขินอายกัน?

Q : ปัจจุบันทำไมคนส่วนใหญ่ถึงคิดว่าการเป็นเมียน้อยแล้วไม่เสียหาย หรือรู้สึกกระดากเขินอายที่จะเอ่ยเมื่อเทียบกับสมัยก่อน?

จริงๆ เรื่องการพูดต่อที่สาธารณะว่าตัวเองเป็นเมียน้อยมันไม่ใช่ แค่เฉพาะสมัยนี้ที่พูดโชว์กัน เคยเจอกับตัวตอนเป็นคุณนายผู้ว่าฯ ปี 2538-2539 มีผู้หญิงคนหนึ่งมีหน้าที่การงานดี แต่ประกาศตัวว่าเป็นเมียน้อยของผู้ใหญ่ท่านหนึ่งแบบไม่แคร์ แถมประกาศในที่ประชุมเป็นการแนะนำตัว เขาพูดเลยว่าเป็นภรรยาของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ท่านนี้ เทียบชั้นแล้วคือนายอำเภอ แต่ไม่ได้อยู่นครพนมนะ เราก็ตกใจว่าผู้หญิงทำไมถึงกล้าแสดงสถานะว่าอยู่ในสถานะที่เป็นเมียคนหนึ่ง แม้จะไม่มีทะเบียนสมรส และยังไม่แคร์ว่ากระดาษแผ่นนั้นมันจะมีความหมายอะไร

ค่านิยมของผู้หญิงเปลี่ยนไปมากว่า 'ขอให้ฉันได้รับการยกย่อง พาไปไหนด้วย ไปทานข้าวไปเที่ยว ไปงานสังคมที่ผู้ชายพาออกงาน' เรื่องนี้จริงๆ จะต้องตำหนิผู้ชาย เพราะว่าผู้ชายไม่มีความละอายในชั่วกลัวในบาป ตัวเองมีภรรยามีลูก แต่กลับควงผู้หญิงคนอื่นไปออกงาน ทำให้เขาเหิมเกริมถึงขั้นกล้าประกาศว่าเป็นเมียน้อยของคนๆ นี้ ซึ่งมันไม่ใช่แค่เพิ่งเริ่มเป็นในยุคสมัยนี้นะ มันเป็นประสบการณ์ที่ เจอกับตัวเองจังๆ ตกใจว่า ผู้หญิงเดี๋ยวนี้มันหน้าด้านนะ! กล้าประกาศตัวเป็นเมียน้อย

Q : นับประสาอะไรกับยุคสมัยนี้

ใช่, เป็นยุคที่เด็กเริ่มมีประจำเดือนก็สามารถตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร และทำอาชีพที่ขายความสวย ขายหน้าตา ขายเรือนร่างนี้แล้วเขาจะมาอายทำไมล่ะ กับการที่จะมาประกาศว่าเป็นเมียน้อยของบุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียง มันสำคัญที่คนกลาง คือตัวเองจะสามารถควบคุมคนที่ตัวเองไปเกี่ยวข้องไม่ให้ไปละเมิดสิทธิของภรรยา และครอบครัว มันอยู่ที่คนกลาง เป็นคนที่ต้องดูแลให้อยู่ในขอบเขตและควบคุมกันได้

ณ วันหนึ่งถ้าเขาแข็งข้อขึ้นมานั้น เขาอยากให้เมียหลวงรู้ เขาก็จะแสดงตัวโชว์ออฟเอง ซึ่งระดับเรียนด็อกเตอร์ก็เจอมาแล้วมาที่สมาคมเสริมสร้างครอบครัวเรียนปริญญาเอกเลยนะคะ กล้าที่จะประกาศตัวเองว่าเป็นเมียน้อยของผู้ใหญ่ ท่านส่งเสีย ดูแลอยู่ เป็นยุคสมัยของสังคมที่เสื่อม เราไม่โทษใคร โทษทุกคนที่ไม่มีศีล 5 และไม่มีคุณธรรมหลงเหลืออยู่ ไม่มีละอายชั่วกลัวบาป

Q : ปรากฏการณ์เมียน้อยโชว์พาวเวอร์ออกสื่อ เกิดมานานหรือยัง และมันก็เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไร

คำว่าเมียน้อยคือ ยุคสมัยก่อนชายไทยมีเมียได้หลายคน เป็นค่านิยมที่คิดกันว่า ผู้ชายคนนี้เก่งนะ มีฝีมือมีบารมี มีเมียได้หลายคน มันเลยทำให้ผู้หญิงสมัยก่อนอาจจะเป็นที่ยอมรับ แต่ไม่เหมือนยุคสมัยนี้มันกล้าเปิดตัวกันมากขึ้น และมันกล้าที่จะระรานสิทธิของเมียหลวง เมียหลวงที่ไหนที่เก็บเนื้อเก็บตัว ทนได้ต่อสภาพยั่วยุ เพื่อที่จะรักษาชื่อเสียง รักษาครอบครัว และลูก สถานะทางสังคม ก็ต้องใช้ความอดทนสูง

เคยเจอเป็นนักธุรกิจ หลายคนชื่นชม เขาให้เมียไปสู่ขอผู้หญิงให้ผัว มาเป็นเมียน้อย พี่นั่งคุยกับเขาจับเข่าคุยกัน 2 คน ร้องไห้น้ำตานองหน้า เขาใช้คำว่า ไม่มีใครมีความสุขหรอกพี่แดง ที่จะต้องไปสู่ขอให้สามี ในเมื่อเราห้ามเขาไม่อยู่ และถ้าไม่ไปขอให้เขา เขาจะออกจากบ้านหลังนี้ไปอยู่กับผู้หญิงคนใหม่ เขาเลยจำเป็นต้องเอาผู้หญิงคนนี้เข้าบ้าน

Q : เป็นเรื่องจริงที่เจ็บปวดมาก

ผู้หญิงเป็นมนุษย์ที่อดทนที่สุดในโลก "จำไว้นะถ้าผู้หญิงแต่งงานคือเขาอยากจะขอฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้ที่เป็นพ่อคนที่ 2 รักที่สุดคือสามีไม่มีอะไรเท่า พอเสียใจมันถึงได้มีแรงแค้น ถ้าขาดสติขาดความระงับยับยั้งชั่งใจ มันถึงมีข่าวฆ่ากัน ถึงขั้นตัดอวัยวะเพศ บางคนก็อาจจะบอกว่าเมื่อไม่รักกันก็คุยกัน แล้วก็แยกกันไปซะ ชีวิตอาจจะดีขึ้นหรือเลวลงกว่าเดิม แต่ยังดีกว่าที่ต้องอยู่กับคนไม่ซื่อสัตย์Q : คุณคิดอย่างไรกับแฟชั่นการที่ผู้หญิงออกมาประกาศตัวเองว่าเป็นเมียน้อยในยุคปัจจุบัน

ผู้หญิงมันหน้าด้าน!! อยากให้คนรู้เรื่องส่วนตัวของตัวเอง คือคนที่เขาเป็นคู่ครองตามกฎหมาย หรือไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่เขาแสดงออกทางฐานะทางสังคม เช่น ฉลองสมรส จัดงานผู้ใหญ่รับรู้ เป็นภรรยาที่เปิดเผย ทีนี้ถ้าใครไปนอนด้วยก็ถือว่าเป็นภรรยา คงสำคัญตัวผิด เลยยกฐานะตัวเองว่าเป็นเมียน้อย จริงๆ แล้วมันก็เป็นแค่นางบำเรอ หรือโสเภณีที่ไม่ต้องเสียเงิน ก็อยากจะเป็นความสมัครใจที่ได้หลับนอนกับคนที่มีชื่อเสียง ผู้ชายเป็นเพศที่ได้เปรียบในสังคม อย่างที่บอกใครมีภรรยาหลายคนจะเป็นที่ชื่นชม และจะมีการไปศึกษาเรียนรู้ ปรึกษากันทำอย่างไรถึงจะมีได้หลายคน

จนกระทั่งมันกลายเป็นแฟชั่น อุปทาน และอุปสงค์ มันตรงกัน กิเลสตัณหามันมาพาไปสู่ความไม่ถูกต้อง มันไม่ถูกหรอกค่ะ ถ้าผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ไปประพฤตินอกใจ ถึงบอกว่า 'ผู้ชายไทยน่ารักที่สุดคือก่อนแต่งงาน' ยอมทุกอย่าง นั่งเฝ้านอนเฝ้า เพื่อให้ได้มาเป็นเจ้าของ พอได้แล้ว รักอยู่นะไม่ใช่ไม่รักแต่ชุ่ยและมักง่าย แล้วก็เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น ผู้หญิงพอได้ใครไปเป็นสามีแล้ว ก็รักทุกคน และก็คิดว่าสามีเรา ถึงแม้จะเป็นเมียน้อยก็ตาม กลายเป็นการสร้างความเกลียดช้ำน้ำใจให้แก่ภรรยาของเขา ไม่รู้ว่าทำไมถึงกล้าเอาเรื่องของตัวเองออกมา

เรื่องกินในที่ลับไม่มีใครเขามาประกาศ ผู้หญิงที่ไม่ใช่เจ้าของก็อยากให้คนรู้ว่าตัวเองก็เป็นภรรยาคนหนึ่ง แม้สถานะตัวเองไม่ให้แต่ก็พยายามสร้างเครดิตให้แก่ตัวเอง เป็นภรรยาอีกคนซึ่งก็หนีไม่พ้นกิเลสตัณหา ผู้ชายพี่จะพูดให้ฟังว่า ก่อนแต่งจะน่ารัก แต่พอแต่งแล้วมันเห็นเราเป็นของตาย ได้ใครก็จะมักง่ายชุ่ย เจอผู้หญิงหน้าด้านมันก็กล้าประกาศตัว จนทำให้เดือดร้อนถึงเมียถึงลูก

Q : ถ้าจะต้องแนะนำเรื่องราวความรักระหว่างคน 2 คนที่แต่งงาน แต่มีคนแทรกระหว่างกลางคุณอยากบอกอะไร แนะนำอะไรทั้ง 3 คน

ผู้หญิงรักผู้ชายที่เป็นผัว ไม่ว่าจะมาก่อนหรือมาหลัง แต่ทีนี้ความถูกต้องคืออะไร ผู้ชายคือคนกลาง เขาจะต้องเป็นคนไปขอโทษภรรยาขอโทษลูก และกลับลำซะ นี่พูดในฐานะธรรมดาๆ แต่ถ้าเรื่องราวนี้เกิดขึ้นโดยคุณเป็นบุคคลสาธารณะ ถือเป็นตัวอย่าง ประพฤตินอกใจเป็นสิ่งที่ไม่ดีแน่นอน แล้วผู้หญิงที่มาทีหลังก็ต้องยอมรับสภาพ และดูแลตัวเองให้มันดี เพราะอายุยังน้อยอยู่ หาสามีเป็นตัวเป็นตน ไม่ต้องไปแย่งคนอื่นเขา

เมียหลวงยังไงก็ให้อภัยสามีตัวเองอยู่แล้ว เพราะมีลูกด้วยกัน แม้ไม่มีลูกด้วยกัน ก็ให้อภัยเพราะว่าเรารักของเรา และไม่ควรเอาเรื่องของตัวเองมาโพนทะนาออกสื่อ ออกสื่อโซเชียล เรื่องภายในครอบครัว อยากเห็นความซื่อสัตย์ คือ 'เซฟทีคัท' ตัดทุกอย่าง ถ้าไม่มีความซื่อสัตย์ต่อกัน ความเมตตา ความรักก็จะลดลง และมันจะกลายเป็นความรู้สึกที่ห่างเหิน หมางเมิน และกลายเป็นหมางเมิน เข้าหน้ากันไม่ติด ทำอะไรก็ไม่ถูกใจไปซะหมด ก็จะหงุดหงิด

ความซื่อสัตย์สำคัญที่สุด ความเข้าใจซึ่งกันและกัน และนึกถึงคนในครอบครัวให้มากๆ และให้ทุกคนภูมิใจซึ่งกันและกัน เข้าใจในหน้าที่การงาน สิ่งที่เป็นตัวเขา ทั้งสามีและภรรยา ใส่ใจอย่าหมางเมินหรือห่างเหิน เราอยู่ด้วยกันจะสุขหรือทุกข์มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรา 2 คนสร้างขึ้น และเมื่อไม่เข้าใจกันอย่าไปโพนทะนา ให้ข่มใจ และเปิดใจคุยกันสำหรับเมียหลวง ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวที่ประสบเหตุการณ์เหล่านี้

Q : ทำไมสังคมไทยมีสายตาที่ไม่ตำหนิผู้ชายเจ้าชู้เท่าไร?

ส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ แต่สังคมไทยกับชื่นชมผู้ชายเจ้าชู้ ถ้าเราเห็นผิดเป็นชอบ มันเป็นเรื่องที่น่าสลด มันต้องเปลี่ยนแนวคิดกันใหม่ ว่าผู้ชายที่แต่งงาน ต้องเป็นผู้ชายที่ซื่อสัตย์ แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณหาความซื่อสัตย์ได้ยากคุณก็ไม่ควรแต่งงาน คุณก็ลุยผู้หญิงไปเรื่อยๆ เพราะผู้หญิงพร้อมให้คุณนอนด้วย โดยเหตุผลของผู้ชายคือ ผู้หญิงมีมากกว่าผู้ชาย ไปสงเคราะห์ให้ไปเป็นสามีให้ไม่ดีเหรอ นี่คือคำพูดของผู้ชาย

เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่ซื่อสัตย์ ไม่ได้จบที่ภรรยาคุณ คุณไม่ต้องแต่งเรื่อยๆ มีอะไรไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเป็นโรคเอดส์

Q : สุดท้ายอยากจะฝากอะไรไปถึงคนที่คิดว่าจะเป็นมือที่ 3 หรือกำลังจะคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่เสียหาย ไม่เขินอายที่จะพูดว่าตัวเองเป็นเมียน้อย?

ขอเป็นกำลังใจ เราอาจจะรักเขา แต่เรามาทีหลังเราต้องยอมเขา และอย่าไปด่าเขา ตัวเองอาจจะเสพสุขกับคนของเขาตามราคะ เพราะชื่นชมเขา เพราะเขาเป็นดารา เขาหล่อ ชอบเขา แต่เราต้องคิดถึงศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงด้วย ทำผิดพลาดครั้งหนึ่งให้อภัยได้ ถ้าคุณผิดพลาดทั้งชีวิตเดี๋ยวออกจากเขาไปหา คนนู้น คนนี้ คุณก็ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงที่ร่านรัก และหาค่าได้ยาก แล้วใครเขาจะเอาคุณมาเป็นคู่ครอง กลับตัวกลับใจซะใหม่ ระเบียบรัตน์และสังคมให้อภัย.

 


 ปรากฏการณ์ เมียน้อยซ่า ยุคโซเชียล..ความซื่อสัตย์เป็น เซฟทีคัท ดีที่สุด

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์