เค้าบอกว่าตอนกลางคืนได้ยินเสียงอะไรอย่าร้องทัก เพราะ....
เค้าบอกว่าตอนกลางคืนได้ยินเสียงอะไรอย่าร้องทัก เพราะ....
เวลากลางคืนได้ยินเสียงอะไรอย่าทัก หรือขานรับ ของ จะเข้าตัว คนในสมัยก่อนมีความเชื่อในเรื่องการศึกษาเล่าเรียนวิชา ไสยศาสตร์ คาถาอาคม โดยเมื่อถึงวันสำคัญตามความเชื่อของผู้ที่เรียน ก็จะมีการปล่อย “ของ” ซึ่งในที่นี้หมายถึง คาถาอาคม ผี หรือเวทมนตร์ต่าง ๆ ออกไปเพื่อทดลองวิชา และเมื่อของ ผี หรือเวทมนตร์ดังกล่าวไปถูกหรือกระทบกับสิ่งหนึ่งสิ่งใด จะเกิดเสียงดังเปรี้ยงปร้าง หากใครทัก ของนั้นจะเข้าตัวคนที่ร้องทัก ซงอาจเป็นตะปู หรือ หนังควายเข้าท้อง ทำให้เจ็บป่วยหรือตายได้ ฟังแล้วน่ากลัวมาก
ดังนั้นในตอนกลางคืน หากมีใครมาเรียกหรือมีเสียงอะไรที่แปลกๆคนสมัยก่อนจะเงียบไม่ขานรับนอกจากจะแน่ใจว่าเป็นเสียงคนที่คุ้นเคยจึงจะขานรับ คนโบราณได้วางอุบายเล่าเรื่องต่างๆ เหล่านี้ไว้ให้กลัวเกรงเพื่อสั่งสอนหรือเตือนบุตรหลานของตนให้รู้จักระมัดระวังภัยอันตรายในยามค่ำคืนเพราะอาจมีคนมาลอบทำร้าย และขานเรียกเพื่อให้ถูกตัว
ดังเรื่องที่กล่าวต่อไปนี้ที่เล่ากันต่อมาว่า เวลาที่จะสร้างเมือง จะต้องมีเสาหลักเมืองอยู่สี่มุมเมือง ขุดหลุมขนาดคนลงไปได้
และมีไม้ซุงขนาดใหญ่ที่ใช้ทำเสาหลักเมือง วางอยู่ปากหลุม ทางราชการจะให้ทหารออกไปตามหมู่บ้านในคืนเดือนมืด แล้วตะโกนดังๆเป็นระยะๆว่า อิน.. จัน.. มั่น.. คง.. ถ้าบังเอิญไปตรงกับชื่อใครและไม่ทันฟังให้ถนัดขานรับออกไป ทหารหลวงก็จะจับตัวผู้ นั้นไป เมื่อครบทั้ง ๔ คนแล้วก็จะพาไปประจำหลุมทั้งสี่มุมเมืองและทำพิธีโดยปิดตาทั้งสองข้างบวงสรวง ตามพิธีกรรม จากนั้นก็จะผลักคนโชคร้ายทั้ง ๔ ลงไปในหลุม ใช้ไม้ซุงกระแทกลงไปให้คนทั้ง๔ คนนั้นตาย แล้วก็เอาดินกลบ จากนั้นทำพิธีบวงสรวงปลูกศาลคร่อมเสาหลักเมืองไว้ กลายเป็นผีเฝ้ามุมเมือง ฟังแล้วน่า กลัวมาก
ดังนั้นในตอนกลางคืน หากมีใครมาเรียกหรือมีเสียงอะไรที่แปลกๆคนสมัยก่อนจะเงียบไม่ขานรับ นอกจากจะแน่ใจว่าเป็นเสียงคนที่คุ้นเคยจึงจะขานรับ คนโบราณได้วางอุบายเล่าเรื่องต่างๆ เหล่านี้ไว้ให้ กลัวเกรงเพื่อสั่งสอนหรือเตือนบุตรหลานของตนให้รู้จักระมัดระวังภัยอันตรายในยามค่ำคืนเพราะอาจมีคน มาลอบทำร้าย และขานเรียกเพื่อให้ถูกตัว นั่นเอง
ที่มาจาก gotoknow
เครดิต :