สวัสดีชาวมนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตามแต่
เราเชื่อว่า มีหลายคนที่ทำงานมานานแสนนาน แต่ไม่มีเงินเก็บสักบาท!!!
พอถึงสิ้นปี ก็มานั่งเจ็บช้ำใจ ว่าตลอดปีที่ผ่านมา เก็บเงินไม่ได้เหมือนเดิม
ก็เลยหวังที่จะเก็บโบนัสที่มีอยู่ ให้กลายเป็นเงินเก็บ...
แต่พอโบนัสออก ใจนี่กระสับกระส่าย มือสั่นเป็นเจ้าเข้า อยากจะใช้เงินตัวแทบจะดิ้นลงไปนอนกับพื้น
เดี๋ยวก็มีชวนไปเกาหลี ชวนไปญี่ปุ่นบ้างละ มีโปรโมชั่นไปสิงคโปร์ราคาไม่ถึง 5,000 งี้
โอ้ยยยยยยย!!! มีกิเลสเกิดขึ้นมากมาย
ไหนโปรโมชั่นดาวน์บ้าน ดาวน์คอนโด ดาวน์รถ มาล่อใจอีก ...
สุดท้าย... เอออ โบนัสมันเป็นเงินลอย เงินแถม ใช้ๆ ไปเหอะ เดี๋ยวปีนี้
เก็บเงินเก็บทีละเดือน สัก 5,000 เราก็มีเงินเก็บสิ้นปีละ 60,000 บาท ดีแฮะ!!!
คุณก็ได้แค่คิด แต่ทำไม่ได้หรอกค่ะ เพราะคุณไม่เคยวางแผนว่า จะลดค่าใช้จ่ายตรงไหนออกไป ที่มันสิ้นเปลือง!!!
เราพูดแบบนี้มานานแสนนานมาก จนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เป็นวิกฤตของชีวิต... ที่บ้านขายของชำร่วยให้นักท่องเที่ยวค่ะ
แต่ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยเดือนนึงเต็มๆ คือ เดือนมีนาคม ที่บ้านมีรายได้จากวันละ 50,000 กลายเป็นเดือนละ 50,000
เราก็อยากส่งเงิน ช่วยค่าใช้จ่ายในบ้านให้ที่บ้านบ้าง แต่ลำพังตัวเรา เป็นแค่พนักงานกระจอกงอกง่อย
เงินเดือน 15,000 บาท ไม่มีอาชีพเสริมใดใดทั้งสิ้น
ค่าใช้จ่ายของเราตอนนั้น แบ่งเป็นแบบนี้ค่ะ
1. ค่าที่พัก ไม่มี เพราะอยู่บ้าน
2. ค่าบัตรเครดิต จ่ายขั้นต่ำ 2,500 บาท ยอดรวม 20,0000 กว่าบาท
3. ค่าเน็ทโทรศัพท์ เดือนละ 299 บาท
4. ค่าเดินทางไปทำงาน วันละ 42 บาท [รถไฟฟ้าใต้ดิน ไป-กลับ] เดือนนึงทำงาน 20 วัน รวมประมาณ 840 บาท
และทุกวันจะขี้เกียจตื่นเช้า จึงต้องมีค่านั่งวินมอไซจากปากซอยบ้าน มาที่รถไฟฟ้าใต้ดิน เพิ่มอีกวันละ 15 บาท 20 วัน = 300 บาท รวมค่าเดินทางต่อเดือน ประมาณ 1,140 บาท
5. ค่าจิปาถะ >> ค่ากาแฟ ค่าของใช้ส่วนตัว ค่าเสื้อผ้ารองเท้าประจำเดือน รวมๆ เดือนนึงประมาณ 4,000 บาท
[กาแฟ แก้วละ 110 บาท เดือนละ 2,200 บาท, ค่าครีมของใช้ส่วนตัวเดือนละ 1,000 บาท,
ค่าเสื้อผ้า ช็อปปิ้ง 800 - 1,000 บาท]
6. เสาร์-อาทิตย์ มีพิเศษๆ นัดแฟนไปห้าง ก็ต้อง ดูหนัง กินข้าวบนห้างทุกอาทิตย์ ตกเดือนนึง ประมาณ 2,000 บาท
7. shopping online ตามอารมณ์ เดือนนึง 1,000 บาท
ใช่แล้วค่ะ!!! เงินที่เหลือ คือ เงินกินในแต่ละวันค่ะ คงจะสงสัยใช่มั้ย ทำไมเราถึงใช้พอ
จริงๆ ใช้ไม่พอหรอกค่ะ วันไหนอยากกินข้าวบนห้าง เพื่อนชวนไปกินบุฟเฟ่ เราก็จ่ายบัตรเครดิตไปก่อน
เพราะถ้าจ่ายเงินสด ไม่พอแน่นอน!!! เวลาของใช้ส่วนตัว หรือ ของใช้ในบ้านหมด เราก็รูดบัตรเครดิตค่ะ ตกเดือนนึง เรารูดบัตรเครดิตประมาณ 2-3 ครั้ง ยอดรวมประมาณ เดือนละ 2,000 กว่าบาท บัตรเครดิตของเรา ก็เลยจ่ายไม่จบไม่สิ้นสักที
ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะจ่ายแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน เอาละค่ะ......
สรุปว่าเดือนนึง เราจะเหลือเงินไว้เป็นค่าอาหาร เดือนละ 4,061 ตกวันละ 135 บาท
[เงินนี้ ไม่รวมค่ากาแฟรายวันนะคะ เพราะค่ากาแฟ อยู่ในค่าจิปาถะแล้ว]
อย่างที่บอกค่ะ พอบ้านเรามีวิกฤต เราก็มานั่งทบทวนตัวเอง ว่าทำไม เราไม่ช่วยค่าใช้จ่ายที่บ้านเลย
แล้วทำไมเราไม่มีเงินเก็บเลย หรือเพราะเงินเดือนเรายังน้อย? แล้วเราควรทำไงดีวะ???
ตอนนั้นคือเครียดโคตร เครียดมหาศาล เราเลยมานั่งคิดค่ะ ว่าควรทำยังไงดี!!!
เรามานั่งลิสต์เลย ว่าอันไหนที่เป็นค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองบ้าง อันไหนควรลด อันไหนควรเปลี่ยน
มาเริ่มกันเลยนะคะ.....อันนี้เป็นที่เราโน้ตไว้ให้ตัวเอง จัดการค่าใช้จ่ายตัวเองใหม่
ลองดูนะคะ แล้วทุกคนจะรู้ ว่าทำไมเราถึงมีเงินเก็บได้ ปีนี้ จะครบ 80,000 แล้วค่ะ
ทำต่ออีก 2 เดือน เราได้ครบแน่นอนนนนนนน!!!
ที่สำคัญ คือเกินด้วย ^^' รวมกับเงินโบนัส เราก็จะมีเงินเก็บเป็นแสนเลย อิ อิ