สวัสดีครับเมื่อกี้เกริ่นๆเอาไว้เรืองไข้เลือดออก ที่เอาเรื่องนี้มาพูดเพราะคิดว่าหลายๆคนคงสนใจ(กลัว)กันอยู่ ประกอบกับว่าช่วงนี้กำลังเข้าหน้าฝนแล้ว ซึ่งช่วงหน้าฝนก็จะพบการระบาดของไข้เลือดออกได้มาก จริงๆแล้วไข้เลือดออก สมัยนี้พบได้เกือบตลอดทั้งปีทุกฤดูกาลแล้วนะครับ จากประสบการณ์ที่ดูคนไข้มา แต่ช่วงหน้าฝนก็จะเยอะขึ้นมากเพราะจะมีแหล่งน้ำขังอยู่เต็มไปหมด เหมาะแก่การแพร่กระจายของเจ้ายุงลายพาหะนำโรค จริงๆเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดเยอะมากเหมือนกัน พยายามจะเขียนให้ได้ครอบคลุม ถ้ามีอะไรสงสัยก็ฝากคำถามเอาไว้ได้นะครับ เอาละไปทำความรู้จัก " ไข้เลือดออก" กันครับ
ไข้เลือดออกเป็นไข้จากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งคือไวรัสเดงกี (Dengue virus) โดยมีพาหนำโรคคือเจ้ายุงลายเนี่ยแหละครับ
เชื้อไวรัสเดงกีนี้มีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้น ถ้าโชคร้ายมากๆ คนไข้สามารถเป็นไข้เลือดออกได้ทั้งหมด 4 ครั้งในช่วงชีวิตนึงครับ ส่วนตัวผมเองก็คิดว่าโชคร้ายสุดๆแล้วนะ เคยเป็นไข้เลือดออกมา 2 ครั้งครับ ตอน ม.1 ครั้งนึง กับเมื่อประมาณ 4 ปีก่อนครั้งนึง ซึ่งการติดเชื้อครั้งหลังๆอาการมักจะรุนแรงมากกว่าครั้งแรกครับ
วิธีการแพร่กระจายของเจ้าเชื้อเดงกีนี้เมื่อยุงลายไปดูดเลือดคนทีี่มีเชื้อเดงกี่ ก็จะมีเชื้ออยู่ในยุงลายตลอดอายุของมัน 1-2 เดือน นั่นแสดงว่าถ้าเจ้ายุงลายตัวที่มีเชื้อมันไปกัดคนอื่นๆก็จะสามารถแพร่เชื้อเดงกี ทำให้คนเป็นไข้เลือดออกได้ตลอด 1-2 เดือนนั้น น่ากลัวใช่มั้ยละครับ แค่ยุงลายตัวเดียวนะ จึงไม่แปลกเลยที่ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยด้วยไข้เลือดออกหลายหมื่นคน จากข้อมูลในปีนี้จากเดือนมกรา-กลางเดือนมีนา มีผู้ป่วยสะสมทุกอายุ 13,200 ราย เสียชีวิต 16 ราย น่ากลัวและเป็นปัญหาได้ไม่น้อยเลยครับ
ทีนี้ตอบคำถามจากหัวบทความกันก่อนเลย ว่าไข้เลือดออกน่ากลัวจริงๆหรือ???? ตอบว่าจริงครับ
สิ่งที่อันตรายและน่ากลัวสำหรับไข้เลือดออกมีอยู่ 2-3 ข้อซึ่งเป็นเหตุทำให้เสียชีวิตได้ โดยกลไกของโรคคือเมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายเชื้อตัวนี้มันจะไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของงร่างกายทำให้เกิดการทำลายเกร็ดเลือดซึ่งมีหน้าที่ในการห้ามเลือดให้เลือดหยุดไหลถ้ามีเลือดออก โดยในคนปกติเกร็ดเลือดจะมีค่าประมาณ 150,000-500,000 เกร็ด/1ลบ.มม. ในคนที่เป็นไข้เลือดออกเกร็ดเลือดจะลดลงต่ำกว่า 100,000 ในรายที่รุนแรงมากอาจลงไปได้ต่ำถึง 30,000-50,000 หรือต่ำกว่า ซึ่งเกร็ดเลือดที่ต่ำมากๆนี้จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดเลือดออกในอวัยวะต่างๆ เช่น ในทางเดินอาหาร เกิดอาการถ่าย/อาเจียนออกมาเป็นเลือด เลือดออกในสมองเกิดสมองบวม ซึ่งถ้าควบคุมไม่ทันก็เสียชีวิตได้
อีกเรื่องนึงที่เป็นอันตรายของไข้เลือดออก คือ ภาวะช็อค ต้องอธิบายให้เข้าใจเรื่องช็อคก่อนนะครับว่าในทางการแพทย์ "ภาวะช็อค " หมายถึงการที่ความดันโลหิตลดลงต่ำจากสาเหตุต่างๆเช่น ขาดน้ำ เลือดออก หรือแพ้รุนแรงจนความดันโลหิตต่ำ ถ้าปล่อยไว้นานๆความดันต่ำจนไม่เพียงพอจะไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญ เช่น สมอง ไต หัวใจ ไม่ใช่อาการตกใจจนนิ่งไปที่คนทั่วไปชอบเรียกว่าช็อค คนเข้าใจผิดกันเยอะมาก สำหรับภาวะช็อคในผู้ป่วยไข้เลือดออก เกิดจากปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันของร่างกายเหมือนกันครับที่มันไปทำลายผนังเส้นเลือดฝอยทำให้มีการรั่วซึมของสารน้ำในเส้นเลือดออกนอกเส้นเลือด เมื่อรั่วมากๆและให้สารน้ำ(น้ำเกลือ) ตามเข้าไปไม่ทันก็จะทำให้ความดันโลหิตตก ถ้ารักษาไม่ทันก็เสียชีวิตได้เหมือนกัน
การเกิดการรั่วไหลของสารน้ำออกจากเส้นเลือด นอกจากจะทำให้ช็อคได้แล้ว สารน้ำที่ออกมาจะไปคั่งอยู่ตามอวัยวะต่างๆเช่น ใน ปอด ในตับ จะทำให้คนไข้มีตับบวมโต ปอดบวมน้ำเกิดภาวะหายใจลำบากหรือตับวายได้ถ้าเป็นมากๆรักษาไม่ทันก็อันตรายมากครับ
น่ากลัวเนาะ ^^"
อย่างไรก็ตามอันตรายรุนแรงต่างๆที่บอกไป 3 อย่างข้างต้นไม่ได้เกิดกับทุกคนและความรุนแรงของแต่ละคนไม่เท่ากันซึ่งข้อแตกต่างในความรุนแรงนี้ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดว่าเกิดจากอะไรแต่ส่วนนึงที่คาดว่าจะเกี่ยวคือระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ถ้าิ่ยิ่งตอบสนองการติดเชื้อรุนแรงก็จะเกิดภาวะอันตรายต่างๆได้มากขึ้น