แนะนำสถานที่ชมซากุระเมืองไทย (ดอกพญาเสือโคร่ง)
‘ชม ซากุระ ’เมืองไทย (พญาเสือโคร่ง) ชมพู บานสะพรั่ง ที่ไหนดี !
1. ขุนช่างเคี่ยน เชียงใหม่ หรือ สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน คือ สถานที่ชมดอกซากุระเมืองไทย หรือ ดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่อยุ่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่มากที่สุด จุดเด่นของที่นี่ คือ มุมทางโค้งลงเขารูปเกือกม้าที่มีต้นนางพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่สองข้างทางเวลาดอกนางพญาเสือโคร่งบานพราวเต็มต้น
การเดินทางไปขุนช่างเคี่ยน เดินทางจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ ผ่านพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ เลี้ยวขวาที่สามแยก สังเกตป้ายหมู่บ้านม้งดอยปุย - ขุนช่างเคี่ยน เส้นทางช่วงนี้เป็นถนนโรยกรวดเล็กๆ + ลูกรัง และทางแคบมาก ควรใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อหรือรถตู้ หากเป็นรถเก๋ง แนะนำให้จอดไว้ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพแล้วเหมารถสองแถวไปจะสะดวกกว่า
2. สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง สถานที่ชมความสวยงามของดอกซากุระเมืองไทย หรือ ดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง ตั้งอยู่บนเทือกเขาตะนาวศรี มีความสูงจากระดับน้ำทะ 1,400 เมตร นอกจากนี้แล้วที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขางยังมีการปลูก"ซากุระญี่ปุ่น"ที่มีจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย โดยดอกซากุระญี่ปุ่นจะออกดอกเบ่งบานไปพร้อมๆกันกับดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย
การเดินทางไปสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง สามารถเดินทางได้ 2 เส้นทาง เส้นทางที่ 1 จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง เลี้ยวซ้ายทางแยกตำบลเมืองงาย ตรงเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 1178 ผ่านบ้านอรุโณทัยไปยังศูนย์ฯ ส่วนเส้นทางที่ 2 จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง ถึง กม. 137 แยกบ้านปางควาย เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1249 ตรงไปประมาณ 25 กิโลเมตร
ภาพ แฟนเพจ : ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง)
3. ขุนวาง หรือ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) สถานที่ชมความสวยงามของดอกซากุระเมืองไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หากนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคม-เดือนกุมภาพันธ์ จะได้พบกับความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระดอยที่ออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งอย่างสวยงาม โดยเฉพาะอุโมงค์พญาเสือโคร่งที่ขุนวางนั้นถือว่ามีความสวยงามราวกับกำลังเดินอยู่ในดินแดนแห่งเทพนิยายเลยทีเดียวค่ะ
การเดินทางไปขุนวางสามารถเลือกใช้เส้นทางได้ 2 เส้นทาง เส้นทางแรก จากจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านอำเภอสันป่าตอง เข้าสู่เส้นทางหมายเลข 1013 ไปอำเภอแม่วาง ผ่านอำเภอแม่วางไป จะมีทางแยกซ้ายมือให้เลี้ยวซ้าย จากนั้นเส้นทางจะลัดเลาะขึ้นภูเขาไปอีกประมาณ 40 กิโลเมตร ช่วงสุดท้ายของเส้นทางนี้จะเป็นถนนดินแดงประมาณ 5 กิโลเมตร หน้าฝนจำเป็นต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ เส้นทางนี้รวมระยะทาง 86 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง
ส่วนเส้นทางที่สอง จากจังหวัดเชียงใหม่ไปอำเภอจอมทองก่อนเข้าตัวอำเภอจอมทอง เลี้ยวขวาเข้าสู่เส้นทางหมายเลข 1009 ขึ้นดอยอินทนนท์ จนถึงกิโลเมตรที่ 31 เลี้ยวขวา เป็นถนนลาดยางไปประมาณ 17 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ตั้งศูนย์วิจัยเกษตรหลวงดอยขุนวาง รวมระยะทาง 115 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
4. พระตำหนักดอยผาตั้ง หน่วยพิทักษ์ป่าดอยผาตั้ง อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อีกหนึ่งสถานที่ชมความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่งหรือดอกซากุระเมืองไทยที่ต้องหาโอกาสไปเยือนสักครั้ง โดยพระตำหนักดอยผาตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯเพียง 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 10 นาที ถนนลาดยางอย่างดี
แฟนเพจ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก
5. ภูลมโล แหล่งปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งหรือดอกซากุระเมืองไทยที่เยอะที่สุดในเมืองไทย โดยบนภูลมโลนั้นมีการปลูกต้นนางพญาเสือโคร่ง มากกว่า 100,000 ต้น ในพื้นที่รวมประมาณ 1,000 ไร่ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปชมความสวยงามของดอกซากุระเมืองไทยบานตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคมไปจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ของทุกๆปี
การเดินทางไปชมดอกซากุระเมืองไทยที่ภูลมโลนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากบ้านร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลกได้เลยค่ะ แม้ว่าภูลมโลจะอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดเลย แต่เข้าทาบ้านร่องกล้าจะสะดวกกว่าค่ะ เนื่องจากการเข้าไปที่ภูลมโลจะต้องใช้ 4x4 เข้าไป มีรถชาวบ้านให้บริการเป็นจำนวนมากค่ะ
6. ขุนแม่ยะ อีกหนึ่งสถานที่ชมความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่งที่ตั้งอยู่ในความดูแลของหน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่สองจังหวัด คือตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปัจจุบันขุนแม่ยะเป็นอีกหนึ่งจุดชมความงามของดอกนางพญาเสือโคร่งที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆของประเทศ
การเดินทางไปชมดอกซากุระเมืองไทยที่ขุนแม่ยะ จากอำเภอเมืองเชียงใหม่ ให้ใช้เส้นทางถนนทางหลวงหมายเลข 107 (เชียงใหม่ - ฝาง) มาถึงบ้านแม่มาลัย ประมาณหลัก กม.34 เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1095 ทางไปปาย จนถึงทางเข้าห้วยน้ำดังซึ่งตั้งอยู่ทางด้านขวามือ จากนั้นให้ขับเลยทางเข้าห้วยน้ำดังต่อไปอีกราวกิโลเมตรกว่าๆถึง ด่านตรวจแม่ยะ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 67 เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 8 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการหน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ ถนนทางเข้าก็ค่อนข้างลำบากเนื่องจากที่นี่เป็นเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น
7. ภูทับเบิก อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ อีกหนึ่งสถานที่ชมความสวยงามของดอกซากุระเมืองไทยที่ได้รับความนิยมไปไม่น้อยกว่าแหล่งชมอื่นๆ สำหรับการเดินทางไปชมดอกพญาเสือโคร่งที่ภูทับเบิกนั้นค่อนข้างสะดวกสบายมากๆ เมื่อถึงจุดด่านตรวจอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ทางหลวง 2331 ฝั่งอำเภอหล่มเก่าแยกเข้าสู่ภูทับเบิกจะมีตั้งแต่ต้นทางเข้าภูทับเบิก ซึ่งเป็นโครงการของชาวบ้านทับเบิกที่ร่วมกันปลูกเพื่อความสวยงามของถนน ในส่วนที่มีดอกซากุระมากมายนั้นเมื่อไปถึงภูทับเบิกจะอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนทางด้านขวาจะเป็นไร่กะหล่ำปลีและที่พักต่างๆ
ขอบคุณภาพจาก : เฟสบุ๊คคุณ เสรี ศรีธิเลิศ
8. ขุนสถาน หรือ สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน อีกหนึ่งสถานที่ชมความสวยงามของดอกซากุระเมืองไทยหรือดอกนางพญาเสือโคร่งที่มีชื่อเสียงและน่าไปเยือนมากที่สุดในจังหวัดน่าน สำหรับจุดชมซากุระบานจะอยู่ที่สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถานซึ่งเป็นอีกที่หนึ่งที่เราจะได้เห็นดอกซากุระบานสะพรั่งไปทั่วทั้งขุนเขาเลยค่ะ
9. ดอยแม่สลอง อีกหนึ่งสถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยที่บานช้าที่สุดและอยู่นานกว่าสถานที่ชมดอกซากุระอื่นๆ คือจะอยู่ระหว่างปลายเดือนมกราคมไปจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งดอกซากุระจะสวยงามอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ โดยดอกซากุระเมืองไทยที่ดอยแม่สลองจะเป็นซากุระพันธุ์ที่เล็กที่สุดมีสีชมพูอมขาว และจะบานสะพรั่งตลอดแนวทางขึ้นดอยแม่สลอง
ขอบคุณภาพจาก : เฟสบุ๊คคุณ เสรี ศรีธิเลิศ
10. สถานีพัฒนการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านปางขอน อีกหนึ่งสถานที่ชมความงามของดอกซากุระเมืองไทยที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยสถานีพัฒนการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านปางขอน นั้นอยู่ในเขตพื้นที่ของตำบลห้วยชมภู อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีการปลูกต้นซากุระไว้บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ปัจจุบันได้กลายเป็นจุดชมดอกซากุระเมืองไทยอีกแห่งหนึ่งใกล้ๆกับตัวเมืองเชียงราย
ขอบคุณ>>
travel.thaiza