อนุญาติให้อยู่ในโลกนี้ได้อีก 1 วัน

อนุญาติให้อยู่ในโลกนี้ได้อีก 1 วัน

ไฟสัญญาณเข็มขัดนิรภัยสว่างวาบ ตามมาด้วยหน้ากากออกซิเจนห้อยลงมาทั่วเคบิน เสียงเครื่องยนต์ดังมาจากข้างนอก เครื่องบินสั่นสะเทือนไปทั้งลำเป็นระยะ คุณใจหายวูบ คุณรู้ว่าบางอย่างผิดปกติ เครื่องบินดิ่งลงไปราวกับปีกทั้งสองถูกเด็ดออก แรงสะเทือนเพิ่มขึ้น ลำเครื่องเอียงไปมา ข้าวของร่วงหล่นจากชั้นเก็บ คุณเชื่อว่าคุณกำลังจะตาย

นานเท่านาน ความสั่นสะเทือนค่อยหายไป เครื่องบินรักษาระดับไว้ได้ตามเดิม ในที่สุดเครื่องบินก็แตะผืนดินโดยไม่แตกเป็นเสี่ยงๆ คุณระบายลมหายใจยาว คุณรอดชีวิตมาได้

ทันใดนั้นคุณก็รู้สึกว่าวันที่เหลือในชีวิตของคุณคือวันฟรี คุณน่าจะเสียชีวิตแล้ว คุณรู้สึกว่าท้องฟ้าสดใสกว่าปกติ คุณอยากใช้เวลาที่เหลืออย่างมีคุณค่า คุณมองเห็นว่าชีวิตมีค่ากว่าที่คุณเคยนึกมาก่อน

เคยขึ้นเครื่องบินที่ตกหลุมอากาศหนักๆ ไหม? มันเป็นมรณานุสติที่ดี มันบอกว่าชีวิตเราบอบบางและชั่วคราวเพียงไร และคุณรู้สึกว่าชีวิตไม่เลวร้ายเท่าไร

เราอาจไม่นึกถึงคุณค่าของชีวิตจนเมื่อเราประสบอุบัติเหตุร้ายแรงเฉียดตาย เมื่อรอดมาได้ เราจึงรู้สึกว่าชีวิตมีค่า

คนเฉียดความตายจำนวนมากบอกคล้ายกันว่า หลังรอดตายพวกเขารู้สึกเหมือว่ามันเป็นสัญญาณจากสวรรค์ให้ใช้ชีวิตที่รอดมาได้อย่างมีค่า พวกเขารู้สึกว่าชีวิตมีความหมายมากขึ้น และส่วนมากก็เปลี่ยนวิถีชีวิตไปในทางที่ดีขึ้น

ถ้าเช่นนั้นทำไมจึงรอจนเกิดเหตุการณ์เฉียดตายค่อยเห็นคุณค่าของชีวิตเล่า? ทำไมไม่ฝึกการมองชีวิตอย่างมีค่าทุกๆ วัน เดี๋ยวนี้เลย? 

…………….

ผมเคยเล่าเรื่องเทคนิคฝึกตายอย่างหนึ่งของเซน โดยลองคิดว่า หลับคือตาย ตื่นคือเกิด

การนอนหลับในแต่ละค่ำคืนคือห้วงยามสุดท้ายในชีวิต เมื่อคุณตื่นขึ้นมา ก็เท่ากับว่าคุณเกิดใหม่ 

ทุกคืนที่คุณเข้านอน ให้จินตนาการว่า ขณะจิตที่คุณหลับคือการสิ้นลมลมปราณ

วิธีคิดแบบนี้ทำให้คุณรู้จักปลงตก ปล่อยวางทุกสิ่งก่อนที่คุณจะหลับ ไม่ยึดมั่นถือมั่นเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดวันที่ผ่านมา คุณปล่อยวางเพราะคุณกำลังจะจากโลกไป ไม่มีประโยชน์ที่จะโกรธแค้น โศกเศร้า เสียใจ ดีใจอะไร เพราะเมื่อคุณหลับ คุณก็ได้ตายไปแล้ว

เวลาทั้งวันก็คือเหตุการณ์ทั้งชีวิต เมื่อตายก็หมดภารกิจ หากคุณ ‘รอด’ ไปได้ ก็เท่ากับว่าคุณได้วันใหม่มาฟรีๆ ที่เหลือทั้งชีวิตคือโบนัส เพราะความจริงคุณตายไปแล้วทุกวัน

และเมื่อคุณตื่น มันก็เป็นโบนัส คุณได้ชีวิตใหม่มาเปล่าๆ ฟรีๆ มันเป็นของแถม เหมือนสวรรค์ต่อวีซ่าอายุคุณไปอีกหนึ่งวัน

หากชีวิตคือภาพยนตร์ คุณก็ได้รับตั๋วฟรีหนึ่งใบทุกครั้งที่คุณตื่นนอน

หากชีวิตคือชิงช้าสวรรค์ คุณก็ได้รับตั๋วขึ้นนั่งหนึ่งรอบทุกๆ วัน

ท้องฟ้าสว่างไสวขึ้นกว่าเดิมเมื่อคุณรู้ว่า วันนี้เป็นโบนัสพิเศษที่คุณเกือบจะไม่ได้รับ

วิธีคิดแบบนี้ทำให้เราสามารถดำเนินชีวิตแต่ละวันอย่างรู้คุณค่า และไม่เสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ลดการยึดมั่น และที่สำคัญที่สุดคือเป็นอิสระ

ชีวิตมีค่าหรือไม่มีค่าอยู่ที่การกระทำของเรา และการกระทำของเราในแต่ละวันดีหรือไม่ดีอยู่ที่การเห็นคุณค่าของชีวิต หากเรามองว่าเราเหลือเวลาเพียงหนึ่งวัน เราก็อาจใช้ชีวิตวันนั้นอย่างเต็มที่เต็มเปี่ยมขึ้น เราคงไม่ใช้วันนั้นบ่น เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงเราก็ ‘ตาย’ แล้ว

และเมื่อวันนั้นเป็นวันตายของเราจริงๆ เราก็ไม่กลัว เพราะเราฝึกตายอยู่ทุกวันแล้วด้วยเครื่องซิมูเลเตอร์แห่งจิต

และความตายจริงก็เป็นเพียงความตายอีกครั้งหนึ่งเท่านั้นเอง

อนุญาติให้อยู่ในโลกนี้ได้อีก 1 วัน

ขอบคุณที่มาจาก วินทร์ เลียววาริณ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์