หลายคนคงจะเคยนั่งสังเกตใยแมงมุมและคิดเหมือนกันว่า ใยของมันนั้นช่างสมบูรณ์แบบ มีการถักทอเป็นช่องเป็นตารางอย่างสวยงามทีเดียว แต่เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า ใยแมงมุมที่กางแผ่หรากินพื้นที่กว้างขวางนั้น เจ้าแมงมุมตัวจิ๋วมันเริ่มต้นสร้างจากตรงไหนและมีขั้นตอนการสร้างอย่างไรหนอ วันนี้เรามีคำตอบให้กับเรื่องนี้อย่างกระจ่างแจ้ง ไปชมพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
แมงมุมชักใยยังไง ? มาดูกันถึงการสร้างสุดยอดงานวิศวกรรมขนาดจิ๋ว
มาดูขั้นตอนการชักใยสุดซับซ้อนของแมงมุม งานวิศวกรรมสุดมหัศจรรย์ที่รังสรรค์จากสัตว์ขนาดจิ๋ว ชวนให้มนุษย์อย่างเราทึ่งไปตาม ๆ กัน
ขั้นตอนแรก แมงมุมจะปล่อยเส้นใย 1 เส้นห้อยลงมายาว ๆ จากนั้นมันก็รอคอยให้ลมทำหน้าที่ พัดใยเส้นนั้นไปติดกับกิ่งไม้หรือวัตถุที่อยู่ห่างออกไป เมื่อเจ้าแมงมุมสัมผัสได้ว่าใยของมันไปติดอีกฝั่งหนึ่งแล้ว มันก็จะดึงเส้นใยให้ตึงเปรี๊ยะ และติดใยเข้ากับกิ่งไม้หรือวัตถุที่อยู่ใกล้ ๆ ตัว แล้วงานสร้างบ้านหลังงดงามและเหนียวหนึบก็เริ่มต้นขึ้น
ทีนี้เจ้าแมงมุมก็จะเดินข้ามสะพานเส้นใยที่ถูกขึงไว้เมื่อสักครู่นี้ ระหว่างเดินมันก็จะปล่อยเส้นใยออกมาอีกเส้น เพื่อทบเป็น 2 เส้นเอาไปขึงไว้อีกฝั่ง ก่อนจะเดินกลับมาตรงกลางใย และดิ่งตัวดึงใย 1 ใน 2 เส้นที่ขึงไว้ลงมาสู่เบื้องล่าง ทำให้ตอนนี้ใยของมันดูคล้ายอักษรตัว Y แล้ว
ขั้นตอนถัดมา แมงมุมจะปล่อยใยอีกเส้นหนึ่งเพื่อเชื่อมต่อระหว่างจุดต่าง ๆ ที่สร้างไว้ในตอนแรก ขณะที่มันเดินไปรอบ ๆ ใยเพื่อสร้างโครงสร้างเป็นกรอบขึ้นมา
จากนั้น แมงมุมก็จะเริ่มทอใยเป็นรัศมีรอบ ๆ โดยเริ่มจากจุดกึ่งกลางของใย สู่ปลายทางคือกรอบที่สร้างไว้ในขั้นตอนที่แล้ว ถัดมาคือการสร้างวงแหวนก้นหอยที่ไม่มีสารเหนียวเพื่อเป็นทางเดินสำหรับตัวเอง และค่อย ๆ เดินย้อนกลับไปตามก้นหอยพลางปล่อยใยเหนียว ๆ สำหรับดักจับเหยื่อออกมา ทำอย่างนี้สลับกันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะครบรอบทั้งใย
สุดท้ายก็คือการนั่งรอเหยื่อแบบสวย ๆ ตรงกลางใย เฝ้าดูว่าใยเส้นไหนมีเหยื่อมาติดด้วยการสังเกตการสั่นสะเทือน ซึ่งปกติแล้วแมงมุมจะรับรู้แรงสั่นไหวได้จากใยเส้นหลักที่สร้างเป็นรัศมีเอาไว้
แต่หากแมงมุมตัวนั้นผละออกจากใยเพื่อไปสร้างกับดักเพิ่มเติม มันจะมีใยอยู่เส้นหนึ่งที่เอาไว้ตรวจจับเหยื่อซึ่งมาติดกับโดยเฉพาะ เราเรียกใยเส้นนั้นว่า ใยส่งสัญญาณ ซึ่งสามารถบอกแมงมุมได้ว่า ตอนนี้มีเหยื่อตาถั่วหลงมาติดกับที่ใยเส้นไหน และนั่นจะทำให้แมงมุมแทบไม่พลาดการจับเหยื่อมาเขมือบแบบสด ๆ เลย
ที่มา : animals.howstuffworks.com
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!