เคลียร์ทุกประเด็น! เพชรซาอุฯ กับอัญมณีสีน้ำเงินของสมเด็จพระราชินีฯ
หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง เคลียร์ทุกประเด็น! เพชรซาอุฯ กับอัญมณีสีน้ำเงินของสมเด็จพระราชินีฯ
หลังจากที่มีข่าวลือหนาหูมานานนมเกี่ยวกับกรณีเครื่องเพชรของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ว่ามันคือ "บลูไดมอนด์" หรือเพชรสุดล้ำค่าที่หายสาบสูญไปจากประเทศซาอุดิอาระเบีย จนกลายเป็นที่ถกเถียงและนำไปสู่การโจมตีของสื่อต่างประทศและในประเทศมากมาย และในที่สุด ทางเฟสบุ้คของ ปราชญ์ สามสี ได้ทำการเขียนบทความชี้แจงแถลงไขเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน แจ่มแจ้ง แบบที่สยบข่าวลือทุกข้อได้อย่างอยู่หมัด!
สำหรับ "บลูไดมอนด์" อันโด่งดังที่มีข่าวว่ามันโดนขโมยไปจากประเทศซาอุดิอาระเบีย และคาดว่าขบวนการที่ทำการลักลอบนั้นถูกจับได้ในประเทศไทย โดยอ้างว่ามีเบื้องหลังเบื้องลึกที่ไม่มีใครทราบได้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ไม่มีใครมั่นใจเลยว่า "บลูไดมอนด์" เคยเข้ามาในประเทศไทยจริงๆหรือไม่ มีแต่ "ข่าวลือ" ที่ใช้คำว่า "คาดว่า" "เชื่อว่า" แทบทั้งนั้น
ที่มาที่ไปต้องย้อนไปประการแรก คือ "Heart of the Ocean" หรือในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า "Le Cœur de la Mer" เพชรสีน้ำเงินรูปทรงหัวใจเม็ดเป้ง!ประดับล้อมด้วยเพชร เป็นเครืองประดับที่สวยงามมาก แต่น่าเสียดายว่า แท้จริงแล้ว "Heart of the Ocean" เป็นเพชรที่เกิดมาจากการจินตนาการของผู้กำกับภาพยนต์ ไททานิค เมื่อปี ค.ศ.1997 (ที่นางเอกของเรื่อง"โรส" ใส่ตอนถูกวาดภาพ) เท่านั้น
ได้รับการสนับสนุน
โดย "Heart of the Ocean" นั้นถูกจินตนาการขึ้นโดยอ้างอิง ประวัติ "Hope Diamond" ของฝรั่งเศสอีกที โดยเพชรเม็ดงามนี้ปรากฎในข่าวลือบ่อยครั้งเกี่ยวกับเพชรซาอุฯ แต่แท้จริงแล้วมันคือ Hope Diamond ของฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบัน เพชรเม็ดนี้ถูกเก็บอยู่ในพิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ Hope Diamond เองก็มีประวัติความเป็นมาและเรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจและยาวนานสุดๆ
กลับมาที่ความจริงเกี่ยวกับสร้อยพระศอที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงสวมใส่ขณะเยือนประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปีพ.ศ.2510 (5 ปีหลังจากที่เยือนประเทศสหรัฐอเมริกาครั้งแรก) แท้จริงแล้วสร้อยดังกล่าว เป็น "สร้อยพระศอไพลินสีน้ำเงิน" ไม่ไช่ "เพชรสีน้ำเงิน" ซึ่งเชื่อว่าเดิมทีเป็นของสมเด็จพระพันปีหลวงได้เป็นมรดกตกทอดมาอีกที จึงเรียกได้ว่า เป็นเครื่องเพชรประจำพระราชวงศ์
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงสวมใส่สร้อยพระศอไพลินสีน้ำเงินขณะเยือนประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปีพ.ศ.2510 ด้วยประเทศไทยเป็นประเทศเล็กๆและพระสิริโฉมที่งดงาม ทำให้การปรากฏตัวพร้อมเครื่องเพชรของพระองค์ถูกจับตามองจากสื่อต่างชาติเป็นอย่างมาก
อ้างอิงไปยังหนังสือชื่อ "ความทรงจำในการตามเสด็จทางราชการ" ซึ่งทรงบันทึกไว้ตอนที่พระองค์เสด็จเยือนสหรัฐอเมริกาและแคนาดาอย่างเป็นทางการ เมื่อปีพ.ศ.2510 โดยในหนังสือเล่มดังกล่าวมีการระบุความตอนหนึ่งว่า…
“คืนนั้น ข้าพเจ้าได้สวมสร้อยพระศอเพชร ซึ่งเป็นของเก่าของสมเด็จพระพันปีหลวง…”
ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่มีข่าวเกี่ยวกับการที่ทรงเครื่องเพชรชิ้นใหญ่ๆออกมหาสมาคม ซึ่งทำให้ชาวอเมริกันกังขาว่าประเทศเล็กๆในเอเซีย ร่ำรวยขนาดที่พระราชินีจะทรงใช้เงินฟุ่มเฟือยซื้อเครื่องเพชรแบบนั้นได้เชียวหรือ ในงานเลี้ยงครั้งหนึ่งแขกคนสำคัญคนหนึ่งในงานกล่าวถาม ม.จ. วิภาวดี รังสิต นางสนองพระโอษฐ์ (ยศในขณะนั้น-พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต) ว่า "เอ้อ…สร้อยพระศอที่พระราชินีของท่านทรงอยู่นั้น คงเพิ่งซื้อใหม่จากปารีสละมัง"
หม่อมเจ้าวิภาวดี ทรงตอบว่า "เอ๊ะ! นี่ท่านไม่รู้หรอกหรือว่า เมืองไทยของฉันมีอายุกว่า ๗๐๐-๘๐๐ ปีแล้ว พระราชวงศ์จักรีก็มีมาตั้งเกือบสองศตวรรษ เราจึงมีเครื่องเพชรประจำพระราชวงศ์บ้าง ไม่เห็นจะต้องซื้อของใหม่ราคาแพงมาใช้เลย"
เมื่อนำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ขณะทรงสร้อยพระศอ "ไพลินสีน้ำเงิน" มาเทียบเคียงดูแล้วทำให้เห็นว่าเป็นสร้อยเส้นเดียวกันทุกภาพ ไม่ได้มีการจัดซื้อสร้อยพระศอเส้นใหม่หรือใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือยตามที่สื่อต่างชาติโจมตีแต่อย่างใด
ไม่ไช่แค่ราชวงศ์ไทยเท่านั้นที่มี "สร้อยไพลินสีนำเงิน" แต่ใน ราชวงศ์อังกฤษเองก็มีสร้อยพระศอไพลินสีนำเงิน อย่างที่เจ้าหญิงไดอานา ฟรานเซส ผู้ล่วงลับ (เจ้าหญิงแห่งเวลส์) ก็เคยสวมใส่ ร่วมกับรัดเกล้าประจำครอบครัวสเปนเซอร์ ในงานราชพิธี เมื่อ 11 เมษายน พ.ศ. 2526
ขอบคุณเนื้อหาจาก http://kaeake.blogspot.com/
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!