เรื่องราวเกิดขึ้นในในปี 1914 ที่สงครามโลกครั้งที่หนึ่งยังครุกรุ่นอยู่ทั่วยุโรป กองทหารอังกฤษและกองทหารเยอรมันกำลังปะทะกันอย่างหนักหน่วง ณ สมรภูมิ Ploegsteert ที่ประเทศเบลเยี่ยม การสู้รบของทั้งสองฝ่ายต่างผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ จนการสู้รบยืดยื้อมาจนถึงช่วงวันคริสต์มาส
สำหรับชาวตะวันตกแล้ว วันคริสต์มาสคือวันที่พวกเขาควรจะได้อยู่เฉลิมฉลองกับครอบครัวอย่างมีความสุข แต่นายทหารเหล่านั้นกลับต้องสู้รบกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำให้จิตใจของพวกเขาห่อเหี่ยวเป็นอย่างยิ่ง
แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นในวันคริสต์มาสนั้นเอง จากคำบอกเล่าของร้อยเอก A.D. Chater ที่เขียนจดหมายกลับไปเล่าเรื่องราวให้กับมารดาของตนเองฟังว่า
ในช่วงเวลาประมาณสิบโมงเช้า ทหารอังกฤษสังเกตเห็นทหารเยอรมันคนหนึ่ง โบกไม้โบกมืออยู่ฝั่งตรงข้ามของบังเกอร์ จากนั้นเขาก็เห็นทหารเยอรมันอีกสองคนเดินมุ่งตรงมาที่พวกเขา
ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมต่อสู้นั้นเอง พวกเขาก็สังเกตเห็นว่าทหารเยอรมันนั้นสองนั้นไม่ได้พกอาวุธมาด้วย นายทหารอังกฤษคนหนึ่งจึงตัดสินใจเดินออกไปพบกับทหารฝ่ายศัตรูทั้งสอง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ทหารทั้งฝ่ายต่างจับมือและอวยพรวันคริสต์มาสให้แก่กันและกัน
หลังจากนั้นนายทหารคนอื่นๆ ก็ออกไปร่วมแจมด้วย พวกเขาต่างอวยพรให้สามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย จากนั้นก็ถ่ายภาพและเปลี่ยนบุหรี่ซึ่งกันและกัน ราวกับจำไม่ได้ว่าวันก่อนหน้านั้น พวกเขายังมุ่งร้ายต่อกันอยู่
พอช่วงบ่ายพวกเขาก็จัดทีมเตะฟุตบอลกันเพื่อผ่อนคลายจากความตึงเครียดในสงคราม ความสงบสุขที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ก็เกิดขึ้นจริงๆ แม้จะมีทหารอังกฤษคนหนึ่งทำปืนลั่นขึ้นฟ้า แต่ความตึงเครียดก็คลี่คลายลงอย่างรวดเร็ว
สุดท้ายวันแห่งความสงบสุขก็หมดลงไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาต่างหวังว่าสงครามจะจบในวันถัดมาเลย แต่อย่างไรก็ตาม สงครามดำเนินต่อไปอีกเกือบ 4 ปี จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 37 ล้านคนทั่วโลก
ในปี 2014 ห้าง Sainsbury ของอังกฤษได้นำเหตุการณ์ดังกล่าวมาทำเป็นโฆษณาช่วงวันคริสต์มาส