ขนมทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง สังขยา หม้อแกง มักเป็นขนมอันดับแรกๆ ในความคิดของหลายคนว่าเป็นขนมไทยแท้แต่โบราณ จดหมายเหตุฝรั่งเศสฉบับหนึ่งบันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า "...ภรรยาเป็นท้าวทองกีบม้า ได้เป็นผู้กำกับการชาวเครื่องพนักงานหวาน ท่านท้าวทองกีบม้าผู้นี้เป็นต้นสั่งสอนให้ชาวสยามทำของหวานคือ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ทองโปร่ง ทองพลุ ขนมผิง ขนมฝรั่ง ขนมขิง ขนมไข่เต่า ขนมทองม้วน ขนมสัมปันนี ขนมหม้อแกงและสังขยา..." อะไรที่ทำให้ท้าวทองกีบม้าหันมาทำขนมหวาน?
เผยสาเหตุที่ทำให้ ‘ท้าวทองกีบม้า’ ต้องทำ ‘ขนมหวาน’ ทั้งทองหยิบ-ทองหยอด-ฝอยทอง
อีกบันทึกของอเล็กซานเดอร์ แฮมมิลตัน อ้างว่าได้พบกับมาดามฟอลคอนในปี พ.ศ. ๒๒๖๒ ขณะนั้นได้รับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการห้องเครื่องต้นแผนกหวาน มีผู้คนรักใคร่นับถือ ซึ่งสอดคล้องกับบันทึกของ มองสิเออร์โซมองต์ อ้างว่ามาดามก็องสตังซ์ เป็นผู้ดูแลเครื่องเงินเครื่องทองของหวาน เป็นหัวหน้าเก็บภูษา และฉลองพระองค์และยังเป็นผู้เก็บผลไม้เสวยด้วย
"ต้องทำงานถวายตรากตรำด้วยความเหนื่อยยาก และระกำช้ำใจ มืดมนธ์อัธการไปด้วยความทุกข์ยาก ตั้งหน้าแต่จะคอยว่าเมื่อใดพระเจ้าจะโปรดให้ได้รับแสงสว่าง ตอนกลางคืนนางก็ไม่มีที่นอนที่พิเศษอย่างใด คงแอบพักที่มุมห้องเครื่องต้น บนดินที่ชื้น ต้องคอยระวังรักษาเฝ้าห้องเครื่องนั้น"
แม้ประวัติช่วงนี้ของท้าวทองกีบม้าจะไม่ตรงนัก แต่ก็รับได้ว่า ท้าวทองกีบม้าเคยไปทำงานในวังจริง และเป็นคนทำขนมหวานตำรับโปรตุเกส เช่น ทองหยิบ ฝอยทอง จนเป็นสูตรให้คนทำสืบเนื่องต่อมาถึงปัจจุบัน