“พบสารทาเลต” เกินค่ามาตรฐานใน “ตุ๊กตายางบีบ” ส่งผลต่อฮอร์โมนเด็กผู้ชาย


“พบสารทาเลต” เกินค่ามาตรฐานใน “ตุ๊กตายางบีบ” ส่งผลต่อฮอร์โมนเด็กผู้ชาย


มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมกับ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว และ ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก เปิดเผยผลการสุ่มตรวจของเล่นเด็กที่เป็นพลาสติกพีวีซี พบว่ามีสารทาเลตเกินมาตรฐาน ส่งผลให้ฮอร์โมนเด็กผู้ชายผิดปกติ



“พบสารทาเลต” เกินค่ามาตรฐานใน “ตุ๊กตายางบีบ” ส่งผลต่อฮอร์โมนเด็กผู้ชาย


วันที่ 30 ต.ค. 62 ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมกับ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล และ ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี จัดโครงการเฝ้าระวังสินค้าและบริการด้านสุขภาพ สุ่มเก็บตัวอย่างของเล่น และ ของใช้ประเภทพลาสติกพีวีซี จำนวน 51 ตัวอย่าง จากร้านค้าในห้างสรรพสินค้า ท้องตลาด และบริเวณหน้าโรงเรียน ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และในเว็บไซต์ออนไลน์ ในเดือนพฤษภาคม 2562 ส่งตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนของสารทาเลต (phthalates) 6 ชนิด ที่สกัดได้จากพลาสติก ยาง และสารเคลือบจากผิวของเล่นที่เด็กอาจสัมผัสถึง



“พบสารทาเลต” เกินค่ามาตรฐานใน “ตุ๊กตายางบีบ” ส่งผลต่อฮอร์โมนเด็กผู้ชาย


นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยผลทดสอบของเล่นที่สุ่มตรวจสารทาเลต ทั้งหมด 51 ตัวอย่าง พบว่า กลุ่มที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์มาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ มอก. จำนวน 19 ตัวอย่าง พบทาเลตเกินเกณฑ์ 7 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 36.84 จาก 19 ตัวอย่าง และ กลุ่มที่ไม่มีเครื่องหมาย มอก. 32 ตัวอย่าง พบทาเลตเกินเกณฑ์ 11 ตัวอย่าง (คิดเป็นร้อยละ 34.38 จาก 11 ตัวอย่าง โดยรวมผลตรวจของเล่นที่พบทาเลตเกินมาตรฐาน คิดเป็นร้อยละ 35 จากทั้งหมด 51 ตัวอย่าง



“พบสารทาเลต” เกินค่ามาตรฐานใน “ตุ๊กตายางบีบ” ส่งผลต่อฮอร์โมนเด็กผู้ชาย


ซึ่งผลการตรวจวิเคราะห์พบว่า ของเล่นและของคล้ายของเล่น ที่เด็กอาจนำมาเล่น ทั้งหมดจำนวน 51 ตัวอย่าง พบปริมาณสารทาเลตเกินกว่าค่ามาตรฐานสากล 18 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 35 โดยชนิดของทาเลตที่ตรวจพบมากที่สุดคือ บิส-2-เอทิลเฮกซิลทาเลต หรือ bis-(2-ethylhexyl phthalate) หรือ DEHP



“พบสารทาเลต” เกินค่ามาตรฐานใน “ตุ๊กตายางบีบ” ส่งผลต่อฮอร์โมนเด็กผู้ชาย


โดยเฉพาะของเล่นประเภทตุ๊กตาบีบได้รูปสัตว์ชนิดต่างๆ พบว่ามีค่าทาเลตสูงมาก เช่น ยางบีบหมู ซึ่งตรวจพบปริมาณทาเลตรวม เท่ากับ 37.86 (หน่วยเป็นร้อยละเศษส่วนโดยมวล) แรคคูณสีเหลือง ตรวจพบปริมาณทาเลตรวม เท่ากับ 36.42 และ พะยูนสีเขียว ตรวจพบปริมาณทาเลตรวม เท่ากับ 35.74 ซึ่งมาตรฐานของเล่นสหภาพยุโรป มีเกณฑ์กำหนดสูงสุดของปริมาณรวมของอนุพันธ์ทาเลตในของเล่นทั่วไป และของเล่นสำหรับเด็กอายุ 3 ขวบ และมีส่วนที่นำเข้าปากได้ ไว้ไม่เกิน 0.1% โดยมวล



“พบสารทาเลต” เกินค่ามาตรฐานใน “ตุ๊กตายางบีบ” ส่งผลต่อฮอร์โมนเด็กผู้ชาย


รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวนการศูนย์วิจัยเพื่อความปลอดภัยในเด็ก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ทาเลต เป็นกลุ่มของสารที่ส่วนใหญ่ใช้เป็นสารที่ผสมในพลาสติกชนิดพีวีซีเพื่อเพิ่มภาวะการคืนรูป ทาเลตไม่มีพันธะทางเคมีที่เชื่อมต่อกับพลาสติก ดังนั้นสารนี้จึงสามารถเคลื่อนย้ายออกจากผลิตภัณฑ์ไปเกาะติดกับสิ่งอื่นเช่นมือเมื่อมีการสัมผัสได้ ทาเลตมีหลายชนิด บางชนิดจัดว่าเป็นพิษต่อระบบการสืบพันธุ์และระบบต่อมไร้ท่อของร่างกาย โดยกลไกการออกฤทธิ์จะต้านแอนโดรเจนหรือฮอร์โมนเพศชาย ดังนั้นในมาตรฐานสากลและในหลายประเทศได้มีการควบคุมสารทาเลต



“พบสารทาเลต” เกินค่ามาตรฐานใน “ตุ๊กตายางบีบ” ส่งผลต่อฮอร์โมนเด็กผู้ชาย


ส่วนประเทศไทย สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมได้ติดตามเรื่องนี้มานาน ได้จัดทำร่างแก้ไขมาตรฐานของเล่น มอก. 685/2540 ซึ่งมีอายุอานามเก่ากว่า 22 ปี ในฉบับร่างได้บรรจุเรื่องการควบคุมการใช้สารทาเลตไว้ 6 ชนิด โดยไม่ให้เกิน 0.1% พร้อมกับการเตรียมห้องทดสอบไว้พร้อมทำการตรวจเมื่อมีการประกาศใช้มาตรฐานนี้ ฉบับร่างนี้มีกระบวนการจัดทำมาอย่างละเอียดและใช้เวลานานหลายปี คาดว่าในปลายปีนี้จะประกาศใช้ ในฉบับร่างแก้ไขยังมีการเพิ่มเติมมาตรฐานความปลอดภัยของเล่นเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่อง ดังนั้นไม่ควรให้มีปัญหาใดที่จะทำให้การประกาศใช้ล่าช้าไปนานกว่านี้ เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ ทุกคน


เครดิตแหล่งข้อมูล : workpointnews.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์