สกินนี่ยีนส์รัดรูป มาพร้อมกับ 13 อาการป่วยที่คาดไม่ถึง!
กางเกงยีนส์ เป็นการแต่งตัวแฟชั่นที่ง่ายที่สุดสำหรับคนที่ไม่รู้จะแต่งกายอย่างไรออกไปข้างนอก เพียงแค่หยิบเสื้อยืด กางเกงยีนส์เท่านี้ ก็ทำให้คุณดูดีในแบบเท่ๆ ได้แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า ความรัดตึงแนบเนื้อของกางเกงยีนส์ อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายได้โดยที่คุณไม่รู้ตัวเลย
พญ.ชัญวลี ศรีสุโข สูตินรีแพทย์ ได้ให้ข้อมูลสุขภาพเกี่ยวกับการใส่กางเกงยีนส์รัดรูปไว้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว
1.ผู้ชายมีลูกยาก
หลายคนงงว่า "การมีลูกยาก" เกี่ยวอะไรกับการใส่กางเกงยีนส์รัด แต่ในต่างประเทศมีงานวิจัยยืนยันว่าการสวมใส่สกินนี่ยีนส์ทำให้มีลูกยาก เนื่องจากทำให้ลูกอัณฑะร้อนขึ้น และเลือดไหลเวียนไม่สะดวกจึงสร้างอสุจิได้ไม่ดี ในบางประเทศที่อยากให้ประชากรมีลูกมากขึ้น มีคำแนะนำทางด้านสาธารณสุขให้ผู้ชายสวมกางเกงหลวม
2.กดเส้นเลือด เส้นประสาท
การใส่เสื้อผ้ารัดรูป อาจกดเส้นเลือด เส้นประสาท ทำให้รู้สึกชาแถวตะโพก น่องขา ทำให้ขาและเท้าสองข้างบวม หากถอดออก ไม่สวมอีกนาน อาการก็มักจะดีขึ้น โดยมีรายงานทางการแพทย์ถึงเคสผู้หญิงรายหนึ่งที่สวมกางเกงสกินนี่นาน 4 ชั่วโมง จนรู้สึกว่าขาชา แต่ยังอดทนต่อจนทำให้ล้มลง และต้องเข้าพักฟื้นในโรงพยาบาล เพราะน่องสองข้างบวมเป่ง เนื่องจากมีเลือดคั่งจากการกดการไหลเวียนของเลือด
3.ติดเชื้อรา
หากสวมเสื้อผ้ารัดรูปนานๆ จะเพิ่มความอับชื้น เกิดการติดเชื้อราจนมีอาการคัน แสบ ขึ้นผื่นตามผิวหนัง ใต้ราวนม หน้าท้อง ขาหนีบ และจุดซ่อนเร้น
4.เป็นฝีที่ผิวหนัง อวัยวะเพศ หัวหน่าว และก้น
พบได้มากในคนที่สวมเสื้อผ้าคับนานๆ บางอาชีพที่ต้องสวมกางเกงนั่งนานๆ ท่ามกลางอากาศร้อน อับ ชื้น เช่น อาชีพขายกล้วยทอด พนักงานเก็บตั๋ว นั่งรถทางไกล ฯลฯ ก็เป็นฝีที่ในส่วนสงวนได้บ่อย
5.ผื่นแพ้
ร่างกายคนเราหากมีอะไรรัดไว้แน่นหรือถูแรงๆ ทำให้เม็ดเลือดขาว (Mast cell) ปล่อยสารฮีสตามีนออกมา เกิดเป็นผื่นแดง ผื่นลมพิษ เกิดอาการคัน แสบ หรือเจ็บ ในบริเวณที่ถูกรัดได้
6.กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
การสวมกางเกงรัดและคับ ทำให้เชื้อโรคจากทวารหนัก หรือจากช่องคลอด ปนเปื้อนรูปัสสาวะ เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ ในบางรายที่ภูมิต้านทานไม่ดีหรือกำลังตั้งครรภ์ จากอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบอาจลุกลามเป็นกรวยไตอักเสบ ซึ่งมีอาการเป็นไข้ หนาวสั่น ปวดหลัง และอาจเกิดอันตรายต่อชีวิตได้
การสวมเสื้อผ้ารัดทำให้เคลื่อนไหวร่างกายไม่สะดวก กระดูกสันหลังเกร็ง และไม่สามารถเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ และเกิดอาการปวดหลังตามมาได้
8.ปวดท้อง
อาการปวดท้องเป็นผลจากการกดหรือรัดของกางเกง จนส่งผลให้อวัยวะภายใน เช่น กระเพาะอาหาร และลำไส้ ไม่สามารถเคลื่อนไหวไปตามธรรมชาติ เกิดอาการแน่นท้อง อาหารไม่ย่อยกรดไหลย้อน ท้องผูกและปวดท้อง
9.ปวดประจำเดือน
ผู้ที่สวมกางเกงรัดมากขณะเป็นประจำเดือน ทำให้ประจำเดือนไหลไม่สะดวกส่งผลให้มดลูกบีบตัวแรงขึ้น ทำให้ปวดประจำเดือนหรือประจำเดือนมากะปริดกระปรอยได้
10.โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือ ช็อกโกแลตซีสต์
การไหลออกไม่สะดวกของประจำเดือนจากการสวมเสื้อผ้ารัด อาจทำให้ประจำเดือนไหลย้อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูก ท่อนำไข่ หรืออวัยวะในอุ้งเชิงกราน เกิดเป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือช็อกโกแลตซีสต์ทำให้ปวดประจำเดือนมาก และมีภาวะมีลูกยากได้
ประเทศไทยเป็นเมืองที่มีอากาศร้อน ดังนั้น หากสวมเสื้อผ้าคับจนเลือดไหลเวียนไม่สะดวกอาจทำให้เป็นลมหมดสติได้ ด้วยเหตุนี้เวลามีคนเป็นลม วิธีปฐมพยาบาลที่ต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือ คลายเสื้อผ้าที่รัดแน่นออก
12.ปวดกล้ามเนื้อ ปวดชายโครง
สูตินรีแพทย์เคยเจอเคสที่เป็นผู้หญิงหลายคนมาพบแพทย์ด้วยเรื่องอาการปวดชายโครง เวลาหายใจเสียวชายโครงมาก เมื่อตรวจก็พบว่าเธอสวมชุดชั้นในที่โฆษณาว่าช่วยลดน้ำหนัก การรัดมากๆ เช่นนั้น ทำให้เกิดชายโครงอักเสบ บางคนเจ็บบริเวณใต้เต้านม ไหล่ และปวดศีรษะอีกด้วย
13.เกิดภาวะฉุกเฉิน
การสวมเสื้อผ้ารัดนั้น หากเกิดอุบัติเหตุ เช่น ตกน้ำ ไฟดูด มีบาดแผล ฯลฯจะมีอันตรายกว่าการสวมใส่ธรรมดา เพราะการเคลื่อนไหวหรือช่วยตนเองไม่สะดวก ทั้งเวลาเปียก โดนน้ำ เสื้อผ้าเหล่านี้จะยิ่งรัดมากขึ้น ยิ่งถอดออกได้ยาก
ถึงเวลาเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมและไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงเจ็บป่วยจากเสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไป เพื่อสุขภาพที่ดีของเรา