เปิดตำนาน ฮาโลวีน เทศกาลปล่อยผี ตุลาหลอนของชาวตะวันตก
แต่ที่มาเกี่ยวกับเรื่องผีๆ สางๆ ได้ คาดว่าน่าจะมาจากตำนานที่มีมากว่าสองพันปีครับ จากความเชื่อของชาวเซลติก (ชนพื้นเมืองตอนเหนือของยุโรป) ระบุเอาไว้ว่า ช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นเทศกาลบูชาเทพเจ้าแห่งความตาย ก่อนจะเข้าสู่ฤดูหนาว โดยจะนำเหล้าและอาหารออกมาวางนอกบ้าน เพื่อให้เทพเจ้าแห่งความตายได้ดื่มกิน แต่บ้างก็ว่า วันที่ 31 ตุลาคม เป็น วันปล่อยผี (คงคล้ายๆ กับวันทำบุญเดือนสิบของไทย)
ในวันปล่อยผีนี้เหล่าวิญญาณจะกลับมายังโลก เพื่อเข้าสิงร่างของคนที่มีชีวิตอยู่ ชาวบ้านที่กลัวว่าจะถูกวิญญาณเข้าสิงก็จะทำการดับเตาไฟในบ้าน เพื่อบ้านจะได้หนาวเย็น วิญญาณจะได้ไม่อยากเข้ามา และต่อจากนั้น ก็จะออกไปรวมตัวกัน ก่อกองไฟเพื่อให้วิญญาณกลัว นอกจากนี้ยังแต่งตัวให้เหมือนผี เดินขบวนส่งเสียงร้องไปรอบๆ หมู่บ้าน เพื่อให้วิญญาณเข้าใจผิดว่าเป็นพวกเดียวกัน
หนึ่งปีผ่านไป ซาตานก็กลับมาหาแจ็คอีก คราวนี้ แจ็คก็ออกอุบายหลอกอีกครั้ง บอกให้ซาตานปีนต้นไม้ไปเก็บผลไม้ให้หน่อย เมื่อซาตานสุดซื่อ ปีนขึ้นไป แจ็คก็จัดการแกะเปลือกไม้ เป็นรูปไม้กางเขน ทำให้ซาตานไม่สามารถปีนลงมาได้ แล้วแจ็คก็ยื่นเงื่อนไขว่า ถ้าซาตานอยากลงจากต้นไม้ จะต้องสัญญาว่าภายใน 10 ปีจะไม่มาเอาวิญญาณของแจ็คไป ซึ่งซาตานก็จำต้องตกลงให้คำสัญญาอีกจนได้
ต่อมาคนในไอร์แลนด์ และสก็อตแลนด์ ได้ทำ Jack O'Lantern เอง โดยการแกะสลัก หัวมันแกวหรือหัวมันฝรั่งให้ดูน่ากลัวแล้ววางไว้ที่หน้าต่าง เพื่อให้ผีแจ็คและผีอื่นๆ กลัว และเมื่อชาวอังกฤษ เดินทางอพยพไปอยู่อเมริกา ก็ได้นำธรรมเนียมนี้ติดไปด้วย แต่ที่อเมริกานั้นฟักทองหาง่าย อีกทั้งยังแกะสลักง่ายกว่ามันแกวกับมันฝรั่งด้วย ผู้คนจึงเปลี่ยนจาก การแกะสลักมันแกวมาเป็นฟักทองแทน โดยเนื้อฟักทองที่คว้านออกมาได้ ก็นำไปทำเป็นพายฟักทองกินกันในเทศกาลนี้ไปเลยล่ะครับ