เเพทย์เเนะ 7 ข้อปฎิบัติ อยู่รอดปลอดภัยจากไวรัสโควิด19
สถานการณ์ทั่วโลก 3 มิถุนายน 2564...
ทะลุ 172 ล้านไปแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 467,466 คน รวมแล้วตอนนี้ 172,384,887 คน ตายเพิ่มอีก 10,172 คน ยอดตายรวม 3,705,192 คน
5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุด คือ อินเดีย บราซิล อาร์เจนตินา โคลอมเบีย และอเมริกา
อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 13,521 คน รวม 34,150,907 คน ตายเพิ่ม 456 คน ยอดเสียชีวิตรวม 610,946 คน อัตราตาย 1.8%
บราซิล ติดเพิ่ม 94,509 คน รวม 16,720,081 คน ตายเพิ่มถึง 2,394 คน ยอดเสียชีวิตรวม 467,706 คน อัตราตาย 2.8% สถานการณ์การระบาดของบราซิลยังทรงๆ ไม่ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง จำนวนติดเชื้อต่อวันยังเฉียดแสน จึงยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 8,743 คน ยอดรวม 5,685,915 คน ตายเพิ่ม 96 คน ยอดเสียชีวิตรวม 109,758 คน อัตราตาย 1.9%
ตุรกี ติดเพิ่ม 7,181 คน รวม 5,263,697 คน ตายเพิ่ม 112 คน ยอดเสียชีวิตรวม 47,768 คน อัตราตาย 0.9%
อันดับ 6-10 เป็น รัสเซีย สหราชอาณาจักร อิตาลี อาร์เจนติน่า และเยอรมัน ติดกันหลักพันถึงหลักหมื่น
แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย ชิลี เม็กซิโก เนเธอร์แลนด์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ศรีลังกา ญี่ปุ่น เนปาล และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น
แอฟริกาใต้นั้นติดเชื้อเพิ่มอีก 5,782 คน แนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าช่วงต้นเมษายนถึง 4 เท่า น่าจะเป็นสัญญาณของการระบาดระลอกที่สามของเค้า คงต้องเอาใจช่วยให้คุมได้โดยเร็ว
แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่อยู่หลักร้อย ยกเว้นคาซักสถาน มองโกเลีย และยูเครน ที่ยังหลักพัน
แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ส่วนอิหร่านหมื่นกว่าๆ
เกาหลีใต้ ไต้หวัน เวียดนาม และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน และสิงคโปร์ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
...หากดูภาพรวมของโลกเช้านี้ จาก Worldometer
มีอยู่ 6 ประเทศที่ติดเชื้อเพิ่มหลักหมื่นต่อวัน
มี 39 ประเทศที่ติดเพิ่มหลักพันต่อวัน โดยประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในกลุ่มนี้ และเป็นอันดับที่ 15 ของกลุ่มนี้
โดยถ้าดูจำนวนเคสติดเชื้อใหม่ในรอบสัปดาห์ ไทยจะมีจำนวนมากเป็นอันดับที่ 28 ของโลก จำนวนติดเชื้อเพิ่มขึ้น 21% และจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
...วิถีชีวิตคนเรานั้น ไม่ว่าจะยากดีมีจน เชื้อชาติใด ก็มีลักษณะหลักๆ ที่คล้ายคลึงกัน
โรคโควิด-19 เกิดจากไวรัสที่จู่โจมจุดอ่อนในวิถีชีวิตของคนเรา
หากใครระแวดระวังการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเคร่งครัดเข้มงวด โอกาสเป็นเหยื่อก็จะน้อยลง โอกาสอยู่รอดปลอดภัยก็จะสูงกว่า
หนึ่ง "การพบปะกันในสังคม" เจอกันให้น้อยลง อยู่ห่างๆ ระยะเวลาสั้นๆ
สอง "การจับจ่ายใช้สอยสินค้า บริการ และเดินทาง" ไปซื้อของแบบมุ่งเป้า ใช้เวลาสั้นๆ ใช้ถุงหรือภาชนะของตนเอง ล้างมือทุกครั้งที่จับต้องสิ่งของสาธารณะ เลี่ยงการใช้บริการที่แตะเนื้อต้องตัวกันหรือใกล้กัน รวมถึงระมัดระวังการใช้ขนส่งสาธารณะ
สาม "การกินการดื่ม" กินของสุก เลี่ยงของดิบ หากใช้วัตถุดิบต่างๆ ปรุงอาหาร ก็ล้างมือเสมอหลังจับต้อง เลี่ยงการกินดื่มในร้านอาหาร โรงอาหาร ศูนย์อาหาร ซื้อกลับจะปลอดภัยกว่า
สี่ "ที่อยู่อาศัย" พยายามทำความสะอาดเป็นประจำ ปรับให้มีการระบายอากาศได้ดี จัดที่ทางเผื่อไว้สำหรับสมาชิกในครอบครัวเพื่อแยกกักตัวออกจากคนอื่นเวลาไม่สบาย คอยสังเกตอาการหากใครไม่สบายให้รีบไปตรวจรักษา
ห้า "การพักผ่อนหย่อนใจ" นี่เป็นช่วงเวลาที่ควรพักผ่อนหย่อนใจแบบเงียบๆ ออกกำลังกายตามสมควรแบบเดี่ยวๆ ไม่ควรนัดปาร์ตี้สังสรรค์รวมกลุ่ม เลี่ยงที่อโคจรที่มีคนจำนวนมากแออัด อบายมุข สิ่งเสพติด
หก "การทำงาน" ปรับรูปแบบการทำงานที่เน้นความปลอดภัย ทำที่บ้านได้ก็ควรทำ แต่หากต้องไปที่ทำงาน ก็จำเป็นต้องมีระบบการคัดกรองตามมาตรฐานที่รัฐกำหนด ประชุมออนไลน์ไม่รวมกลุ่มกันในห้องจะดีกว่า พักเที่ยงต่างคนต่างกินไม่รวมกลุ่มกัน และลองหมั่นวิเคราะห์จุดอ่อนของระบบที่มีอยู่ว่ายังมีจุดเสี่ยงบ้างหรือไม่ จะได้แก้ไขปรับปรุง
เจ็ด "การเรียนรู้ รับฟังข้อมูลข่าวสาร" หมั่นอัพเดตความรู้ที่ถูกต้องจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ฝึกตนเองให้มีต่อม"เอ๊ะ" สงสัยเวลาเห็นข้อมูลข่าวสารที่แปลกๆ และตรวจสอบให้เแน่ใจว่าถูกต้องหรือไม่ ก่อนจะปักใจเชื่อและปฏิบัติ ใช้ความรู้เป็นแสงส่องทาง นำไปสู่การตัดสินใจตามหลักเหตุผล
ขอให้พวกเรามีกำลังใจในการปกป้องตนเองและครอบครัวให้พ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
...ใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า...
ด้วยรักและห่วงใย