รู้จักภาวะ มิสซี อาการที่พบมากขึ้นในเด็กหลังติดเชื้อโควิด-19
เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา คนไข้เด็กวัย 13 ปี เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ด้วยอาการไข้สูงและท้องเสีย กุมารแพทย์ตรวจและให้การรักษาตามอาการและคาดว่าผู้ป่วยจะอาการดีขึ้นในไม่กี่วัน
แต่ผ่านไป 2-3 วัน ผู้ป่วยเริ่มมีระบบการหายใจผิดปกติ หลายอาการเทียบเคียงได้กับภาวะหัวใจล้มเหลว และพบค่าการอักเสบสูง
ผู้ป่วยเด็กรายนี้ไม่มีประวัติติดเชื้อโควิด-19 มาก่อน แต่กลับตรวจพบสารภูมิคุ้มกันหรือแอนติบอดีโควิด-19 เช่นเดียวกับที่ตรวจเจอในพ่อและแม่ เกณฑ์ต่าง ๆ ที่พบเหล่านี้ ทำให้ทีมแพทย์วินิจฉัยว่า เด็กรายนี้ กำลังป่วยด้วยภาวะอาการ "มิสซี" MIS-C (Multisystem inflammatory syndrome in children) หรือกลุ่มอาการอักเสบของหลาย ๆ ระบบในร่างกาย
นี่เป็นกรณีของผู้ป่วยเด็กที่ อ.ดร.พญ.สุวพร อนุกูลเรืองกิตติ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าให้บีบีซีไทยฟัง และบอกว่า กุมารแพทย์หรือหมอเด็กเริ่มเจอภาวะนี้ในกลุ่มเด็กโตที่หายป่วยจากโควิดมากขึ้น
ล่าสุด วันที่ 5 ต.ค. กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในประเทศไทยพบผู้ป่วย MIS-C แล้วประมาณ 30-40 ราย ทั่วประเทศ
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า MIS-C เป็นกลุ่มอาการอุบัติใหม่ที่พบในเด็กซึ่งร่างกายมีการอักเสบหลายระบบหลังจากมีการติดเชื้อโควิด-19 สาเหตุเชื่อว่าเกิดจากการตอบสนองของภูมิคุ้มกันในร่างกายต่อเชื้อไวรัสนี้ที่มากเกินไป ทำให้เกิดความผิดปกติของร่างกายหลายระบบตามมา
ภาวะนี้พบได้ในเด็กทุกกลุ่มอายุ อุบัติการณ์ประมาณ 0.02% ของผู้ป่วยเด็กที่เป็นโควิด โดยผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ผื่น ตาแดง อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลว อาจมีภาวะช็อคที่เกิดจากการอักเสบที่หัวใจ หรือหลอดเลือดหัวใจโป่งพองซึ่งเป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้ ร่วมกับการตรวจพบเชื้อหรือภูมิคุ้มกันหรือประวัติสัมผัสเชื้อโควิด
ส่วนการอักเสบของหัวใจพบได้ 35-100% อาจมีอาการรุนแรงจนจำเป็นต้องรักษาในหอผู้ป่วยวิกฤต ภาวะนี้ควรได้รับการรักษาด้วยอิมมูโนโกลบูลินและยากดภูมิคุ้มกัน
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ได้มีแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในเด็ก ระบุว่า "การที่มีเด็กและวัยรุ่นติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น คาดว่าจะมีการพบผู้ป่วย MIS-C มากขึ้น ซึ่งเป็นภาวะที่มีความรุนแรงตามหลังโควิด-19 ในเด็กและวัยรุ่น ซึ่งอาจรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้"
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มอายุตั้งแต่ 0-18 ปีในการระบาดระลอกเดือน เม.ย. 2564 (1 เม.ย.- 11 ก.ย.) มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 174,645 ราย แบ่งเป็นเด็กวัยเรียนและวัยรุ่น (อายุ 6-18 ปี) 129,165 ราย เสียชีวิต 15 ราย และ เด็กปฐมวัย (อายุ 0-5 ปี) ติดเชื้อสะสม 45,480 ราย เสียชีวิต 14 ราย
อ.ดร.พญ.สุวพรกล่าวว่า ภาวะ MIS-C เป็นอาการที่เกิดตามหลังการเป็นโควิด-19 ในเด็ก ซึ่งแตกต่างจากอาการที่เกิดหลังป่วยโควิดหรือ "โพสต์โควิด" ที่ไม่เป็นอันตราย แต่เป็นเพียงอาการที่หลงเหลือหลังจากหายจากโควิดแล้ว
"MIS-C เป็นอาการที่เกิดหลังจากหายโควิดไปแล้ว 2-8 สัปดาห์ โดยมีอาการรุนแรงในหลาย ๆ ระบบของร่างกาย ซึ่งอาการที่ควรสังเกตจะเป็นพวก ไข้สูงเกิน 38 องศา นานเกิน 1 วัน หรือมีอาการระบบอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ท้องเสียรุนแรงไม่ดีขึ้น หรือบางคนมีอาการทางระบบหัวใจ และระบบหายใจ ต่อไปเราอาจจะเจอภาวะนี้เยอะขึ้นในเด็ก เพราะว่าเรามีเด็กเป็นโควิดเยอะขึ้น ภาวะ MIS-C ก็จะเจอเยอะขึ้นด้วย แต่ภาวะ MIS-C จะเป็นในเด็กโตมากกว่าเด็กเล็ก"
กุมารแพทย์โรคติดเชื้อจาก รพ.จุฬาลงกรณ์ เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่าจากการเก็บข้อมูลของกลุ่มแพทย์ในไทยที่ติดตามอาการนี้ พบว่ามีผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะ MIS-C ประมาณ 20-25 ราย
"กุมารแพทย์จะระวังและตระหนักถึงจุดนี้มากขึ้น และมีเกณฑ์ในการวินิจฉัยเพื่อที่จะรักษาได้ทัน ไม่อยากให้พ่อแม่ผู้ปกครองตื่นตกใจ แต่ให้อยากให้รู้ว่าอาจจะเจอภาวะนี้ได้เยอะขึ้นในเด็กที่หายจากโควิดแล้วในประเทศไทย โดยเฉพาะในเด็กโต"
ในสถานการณ์ระบาดปัจจุบัน อ.ดร.พญ.สุวพรกล่าวว่า การระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายได้ง่าย ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในทุกกลุ่มอายุ เพราะฉะนั้นกลุ่มผู้ป่วยเด็กก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
กุมารแพทย์ไทยเจออะไรในการรักษาเด็กที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 บ้าง และอาการ MIS-C หรือกลุ่มอาการอักเสบของอวัยวะหลายระบบร่างกายในเด็กโตที่หายป่วยแล้วเป็นอย่างไร
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น