เปิด 10 ของเล่นอันตรายที่ไม่คาดคิด เสี่ยงก่ออุบัติเหตุทำให้บาดเจ็บ
ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกา หลายประเทศในยุโรป ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น มีระบบการบันทึกการบาดเจ็บจากผลิตภัณฑ์ แต่ไทยยังไม่มี ทำให้การแก้ไขถอดถอนผลิตภัณฑ์ออกจากตลาดหรือชี้และให้เจ้าของผลิตภัณฑ์นำไปแก้ไขในการผลิตจึงยังไม่เกิดขึ้น จากการใช้ข้อมูลสหรัฐฯ เมื่อ 22 พ.ย. 2565 พบอัตราการบาดเจ็บในเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี จากของเล่นถึง 404 คนต่อ 1 แสนคน เป็นของเล่นที่มีขายในไทยแทบทุกชิ้นโดยมี 10 ของเล่นที่ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นเหตุของการก่อการบาดเจ็บ บางชนิดมีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ได้แก่
2.ของเล่นชิ้นเล็ก อุดกั้นทางเดินหายใจ อันตรายต่อเด็กที่อายุน้อยกว่า 3 ปี เพราะเด็กอายุ 4 เดือนจะเริ่มเอามือทั้ง 2 ข้างมาจับกุมกันตรงกลางแล้วเอาเข้าปากดูดอม ของเล่นที่มีความกว้างน้อยกว่า 3.71 ซม.จึงไม่ควรให้เด็กเล่นหรือหยิบได้ถึง
3. ลูกโป่ง เสี่ยงอุดตันทางเดินหายใจ โดยเด็กเป่าลูกโป่งเอง จังหวะที่หายใจเข้า เกิดโอกาสที่ลูกโป่งจะถูกดูดเข้าไปในปากและลงไปในหลอดลม หรือเาลูกโป่งที่ยังไม่ได้เป่าเอามาอมไว้หรือเคี้ยวเล่น เมื่อวิ่ง ปีนป่าย หรือหัวเราะ อาจทำให้สำลักลูกโป่งที่อมไว้ จึงไม่ควรอนุญาตให้เด็กอายุน้อยกว่า 8 ปีเล่น
4.ของเล่นที่มีถ่านแบตเตอรี่กระดุมที่หลุดออกง่าย ทำให้เด็กเอาเข้าปากได้ง่าย หากมีแบตเตอรี่ขนาด 2.5 ขึ้นไปจะติดที่หลอดอาหารได้ง่าย ทำให้สารเคมีในถ่านรั่วซึมออกมาเป็นด่างกัดกร่อนหลอดอาหารทะลุได้
5.ของเล่นที่เป็นแม่เหล็กหลายชิ้นมากกว่า 1 ชิ้นขึ้นไปที่มีขนาดไม่ใหญ่ สามารถกลืนลงได้ง่าย หากกลืนมากกว่า 1 ชิ้น แม่เหล็กที่อยู่กันคนละตำแหน่งในลำไส้จะดูดกันทำให้หนีบผนังลำไส้ไว้แน่นจนขาดเลือด ทำให้ลำไส้ทะลุ หรือภาวะลำไส้บิดเกลียว
7.ของเล่นชนิดปืน เช่น ปืนอัดลม ปืนลูกดอก ปืนเหรียญ ปืนลูกบอล เป็นต้น อาจเป็นอันตรายต่อตาได้จากแรงกระสุน ทำให้เลือดออกในช่องลูกตา บางรายอาจเกิดต้อกระจกตามมา หรือทะลุเข้าฝังในลูกตาหรือกล้ามเนื้อตา บางรายเกิดการแตกของลูกตาและต้องผ่าตัดควักลูกตาทิ้งไป
8.วัตถุระเบิด พลุ ดอกไม้ไฟ ไม่ใช่ของเล่น มักทำให้เกิดการบาดเจ็บที่มือ สูญเสียนิ้วมือ ตาบอด ใบหน้าทำให้เกิดแผลเป็น หรือไฟไหม้ทั้งตัวทำให้สูญเสียชีวิตได้
9.ของเล่นที่มีสารเคมีเป็นพิษ มี slime ที่ใช้กาวเป็นพิษต่อระบบทางเดินหายใจ ทาเลทที่ทำให้พลาสติกอ่อนนิ่มทำให้รบกวนต่อมไร้ท่อมีผลต่อฮอร์โมนร่างกาย สารตะกั่วในสีเคลือบสีพ่นมีผลต่อสมองและเม็ดเลือดแดง
และ 10.ของเล่นในน้ำอุปกรณ์ช่วยลอยตัวทั้งหลายที่มีคำเตือนว่าไม่ป้องกันการจมน้ำ เช่น ห่วงยางเป่าลมที่มักทำให้พ่อแม่เข้าใจผิดว่าสามารถปล่อยลูกตามลำพังในน้ำได้ เพราะเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิต