สธ.แจงข้อมูลวิจัยฉีดวัคซีน mRNA บ่อย เสี่ยงติดโควิดซ้ำจริงไหม?


สธ.แจงข้อมูลวิจัยฉีดวัคซีน mRNA บ่อย เสี่ยงติดโควิดซ้ำจริงไหม?


เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2566 นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากกรณีมีข่าวรายงานข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ระบุเรื่องการรับวัคซีน mRNA หลายครั้ง เพิ่มความเสี่ยงติดโรค โควิด-19 ซ้ำนั้น

จากการตรวจสอบพบว่าเป็นข้อมูลงานวิจัยของแผนกโรคติดเชื้อ คลีฟแลนด์คลินิก สหรัฐอเมริกา ซึ่งยังไม่ได้รับการประเมินรับรองจากผู้เชี่ยวชาญก่อนการเผยแพร่ในวารสารวิชาการ และยังไม่ได้รับการยอมรับให้เผยแพร่ตามมาตรฐานวิชาการ ประเด็นที่พบเป็นเพียงการนำเสนอจากข้อมูลที่มีอยู่ ขาดการวิเคราะห์และสรุปข้อมูล




สธ.แจงข้อมูลวิจัยฉีดวัคซีน mRNA บ่อย เสี่ยงติดโควิดซ้ำจริงไหม?


โดยเฉพาะข้อมูลด้านระบาดวิทยาที่สำคัญ พฤติกรรมเสี่ยง พฤติกรรมการป้องกันโรค และประวัติการติดเชื้อร่วมกับการฉีดวัคซีน เนื่องจากการฉีดวัคซีน โควิด-19 เพียงอย่างเดียวไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อหรือการติดเชื้อได้อย่างมีนัยสำคัญ ต้องร่วมกับพฤติกรรมป้องกันโรค เช่น สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะหรือมีผู้คนแออัด ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ดังนั้น ผลวิจัยดังกล่าวจึงขาดความน่าเชื่อถืออย่างมาก

"ที่สำคัญ ข้อมูลงานวิจัยดังกล่าวไม่สามารถนำมาใช้กับไทยได้ เนื่องจากมีความแตกต่างกันในด้านสถานการณ์ มาตรการป้องกันควบคุมโรค ด้านระบาดวิทยา และพฤติกรรมสุขภาพของประชากร โดยสหรัฐอเมริกาไม่ได้เน้นมาตรการ

เช่น การสวมหน้ากากอนามัยเหมือนไทย ระบบการรักษาพยาบาล การควบคุมโรค และสายพันธุ์ของเชื้อที่ระบาดมีความแตกต่างกัน อีกทั้งผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นมากกว่า 3 เข็มในสหรัฐฯ เป็นกลุ่มผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงสูง จึงมีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้มากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับเข็มกระตุ้น"




นพ.รุ่งเรือง กล่าวต่อว่า ผลศึกษาดังกล่าวมีประโยชน์ในแง่สนับสนุนให้มีการศึกษาเพิ่มเติมเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นอย่างรอบด้านมากขึ้น เพื่อเป็นข้อสรุปที่สำคัญในการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัว เช่น จำนวนเข็มกระตุ้นที่เหมาะสม ระยะห่างที่จะเกิดประโยชน์สูงสุด เช่นเดียวกับกรณีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ปัจจุบันแนะนำให้ฉีดกระตุ้นทุกปี

โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว สตรีตั้งครรภ์และเด็ก ทั้งนี้ ข้อมูลทางวิชาการที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก คือ วัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นช่วยลดโอกาสเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ชัดเจน จึงขอเชิญชวนประชาชนให้ฉีดวัคซีนโควิดทั้งเข็มปกติและเข็มกระตุ้นอย่างน้อย 4 เข็ม หากเข็มสุดท้ายนานเกิน 4 เดือน ตามข้อแนะนำด้านวิชาการในปัจจุบันของไทย



เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : THE STANDARD
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 58.10.221.108

58.10.221.108,,cm-58-10-221-108.revip7.asianet.co.th ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]
ท่องเที่ยวญี่ปุ่นเข้มเกณฑ์คุมโควิด หวังลดความเสี่ยงโควิดระบาดเพิ่ม หลังติดโผประเทศยอดฮิตที่ชาวจีนแห่ท่องเที่ยวหลังการเปิดประเทศครั้งแรกรอบ 3 ปี โดยญี่ปุ่นจะกำหนดให้นักท่องเที่ยวที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ หรือผู้มีประวัติเดินทางไปจีนแผ่นดินใหญ่ภายใน 7 วัน ต้องทดสอบหาเชื้อไวรัสเมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่น เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคมนี้


[ วันพุธ ที่ 4 มกราคม 2566 เวลา 20:48 น. ]
คุณ : โอมเพี้ยง
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 1.1.165.253

1.1.165.253,,node-7i5.pool-1-1.dynamic.totinternet.net ความคิดเห็นที่ 2 [อ้างอิง]
ใครที่มีปอดขาว ไม่ควรให้เข้ามาเลย คนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนก็ต้องดูแลตัวเองใากขึ้น ครับ


[ วันศุกร์ ที่ 6 มกราคม 2566 เวลา 09:00 น. ]
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์