เตือน!! คนที่ชอบกลั้นตด ระวังเสี่ยงเป็นโรคร้ายไม่รู้ตัว


เตือน!! คนที่ชอบกลั้นตด ระวังเสี่ยงเป็นโรคร้ายไม่รู้ตัว

การผายลม (Fart) หรือการขับออกของแก๊สผ่านทางทวารหนัก เป็นกระบวนการทางชีวภาพที่เกิดขึ้นกับร่างกายเป็นปกติ โดยแก๊สที่เกิดจากการผายลมเป็นแก๊สที่เกิดจากการรวมตัวกันของอากาศประกอบด้วยแก๊สไนโตรเจนและออกซิเจนที่ถูกกลืนเข้าไปโดยบังเอิญพร้อมกับอาหารที่รับประทานและเดินทางผ่านเข้าไปในระบบทางเดินอาหาร กับแก๊สที่ผลิตโดยแบคทีเรียภายในลำไส้เล็กตอนล่างและลำไส้ใหญ่อย่างแก๊สไฮโดรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ และมีเทน ซึ่งแก๊สทั้งหมดต้องการหาทางออก และร่างกายกำจัดแก๊สเหล่านี้ออกมาในรูปของการผายลม แต่หากว่าใครตกอยู่ทุกในสถานการณ์ที่ต้องกลั้นผายลมเป็นเวลานาน อาจนำไปสู่การสร้างแรงดันและความรู้สึกอึดอัดขึ้นภายในร่างกาย

การกลั้นผายลม อาจทำให้เกิดการสะสมแก๊สในทางเดินอาหารซึ่งสามารถกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของช่องท้อง (Distention) และทำให้เกิดอาการแน่นท้อง ปวดมวนในท้อง และทำให้เกิดอาการท้องอืด (Flatulence) ตามมาได้ และอาจเพิ่มโอกาสในการพัฒนาไปเป็นปัญหาสุขภาพที่เรียกว่า ถุงผนังลำไส้อักเสบ (Diverticulitis)


เตือน!! คนที่ชอบกลั้นตด ระวังเสี่ยงเป็นโรคร้ายไม่รู้ตัว

ถุงผนังลำไส้อักเสบ (Diverticulitis) เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากการอักเสบที่กระเปาะที่มีลักษณะคอแคบที่ยื่นออกมาจากผนังลำไส้ ( Diverticula) มักเกิดขึ้นบริเวณเยื่อบุลำไส้ใหญ่ แต่สามารถพัฒนาเกิดขึ้นในส่วนต่าง ๆ ของลำไส้ได้ โดยในปัจจุบันแพทย์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของภาวะถุงผนังลำไส้อักเสบได้อย่างชัดเจน แต่สันนิษฐานว่า มีความสัมพันธ์กับความดันที่เพิ่มขึ้นภายในลำไส้ใหญ่ 

โดยแรงดันจะทำให้บริเวณที่อ่อนแอของผนังลำไส้ใหญ่โป่งออกและสร้างเป็นกระเปาะที่ผนังลำไส้ ทั้งนี้หากว่ามีปัญหาในเรื่องของการขับถ่าย อาจทำให้มีอุจจาระตกค้างในกระเปาะเหล่านั้น เกิดการสะสมของเชื้อโรคจนทำให้เกิดการอักเสบ ส่งผลให้เป็นไข้ คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องอย่างรุนแรง รวมทั้งอาจมีเลือดออกทางทวารหนักร่วมด้วย อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการเกิดถุงผนังลำไส้ เช่น อายุมาก รับประทานอาหารที่มีเส้นใยไม่เพียงพอ ออกกำลังกายน้อย เป็นต้น

แม้การกลั้นผายลมเพื่อไม่ให้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ทำร้ายเพื่อนร่วมขบวนรถไฟฟ้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะให้ปล่อยลมออกมาอย่างไม่ต้องสนใจผู้อื่น ซึ่งในครั้งต่อไปที่เริ่มรู้สึกว่ามีแก๊สจำนวนมากเกิดขึ้นในลำไส้ ควรหาสถานที่ที่สามารถปล่อยให้มันผ่านออกมาได้ โดยไม่ทำร้ายผู้อื่นจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด


เครดิตแหล่งข้อมูล : scimath


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์