คันฉ่องและโคมฉาย-สักวันหนึ่ง...ชีวิตจะหาไม่(จบ)วันนี้มีสติหรือยัง



คันฉ่องและโคมฉาย-สักวันหนึ่ง...ชีวิตจะหาไม่(จบ)วันนี้มีสติหรือยัง

ท่านว.วชิรเมธี


ทางพระพุทธศาสนาท่านสอนว่า
ถ้าเราทำดีก็ตาม ทำชั่วก็ตาม เทวดาไม่รู้ คนไม่รู้ แต่เรานั่นเองรู้อยู่แก่ใจ
ไม่มีใครเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรานอกจากตัวเราเอง


ฉะนั้น เวรกรรมที่เราทำเอาไว้ เรานั่นแหละรับ เราทำกรรมใดเอาไว้ เราจะต้องเป็นทายาทของกรรมนั้น
ในเมื่อหลักความจริงเป็นอย่างนี้ เราจึงต้องเลือกสรรทำแต่กรรมที่ดี


แต่ถ้าเผลอไผลทำชั่วเอาไว้ตั้งมากตั้งมาย ก็ต้องถอดถอนตัวเองออกมา
แล้วตั้งหน้าทำความดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งว่า ความชั่วถูกเจือจางด้วยความดี


แต่วิธีที่จะเอาชนะกรรมได้ดีที่สุด ก็คือ การฝึกเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
เพราะเครื่องมือของกรรมก็คืออดีต หรืออารมณ์ที่ล่วงมาแล้ว


ลองสังเกตดูให้ดี คนที่ทุกข์หนักหนาสาหัส
เพราะเขาหลุดเข้าไปในอดีต คิดถึงอดีตแล้วย้ำคิดย้ำทำ
พอย้ำคิดย้ำทำแล้ว ก็หม่นหมองครองทุกข์
แต่ถ้าเขาอยู่กับปัจจุบันขณะ (present moment) หน้าตาจะแช่มชื่นแจ่มใส
เพราะความทุกข์ในอดีตจู่โจมเข้ามาไม่ได้
ความทุกข์จากความกังวลในอนาคตก็ทะลุทะลวงเข้ามาไม่ได้
เมื่ออยู่กับปัจจุบันเป็น ชีวิตก็มีความสุข ผิวพรรณผ่องใส


ฉะนั้น ถ้าเราอยากอยู่เหนือกรรม จงฝึกการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
ซึ่งเป็นศิลปะแห่งการดำรงอยู่อย่างมีสติในปัจจุบันขณะ
ให้กับเราตลอดเวลาทุกลมหายใจเข้า-ออก


ถ้าเราอยู่กับปัจจุบันขณะ ตามดู ตามรู้ ลมหายใจเข้าออกอยู่เสมอ
หรือตื่นรู้อยู่ในทุกเรื่องที่คิด ทุกกิจที่ทำ ทุกคำที่พูด ทุกอิริยาบถที่เคลื่อนไหว
อดีตก็ทำร้ายเราไม่ได้ อนาคตก็ทำร้ายเราไม่ได้
เราไม่ตกเป็นทาสของอดีต เราไม่ถูกล่ามโซ่ด้วยอดีต
เราจะเป็นมนุษย์ที่เป็นนายเหนืออดีต เป็นนายเหนืออนาคต
เราจะอยู่แต่ในปัจจุบันขณะล้วนๆ เลย


ด้วยเหตุนี้ ถ้าเราตระหนักรู้อยู่ในปัจจุบันขณะนี้
เราจะกลายเป็นคนที่เกิดใหม่ทุกลมหายใจเข้า-ออก



หากทำได้อย่างนี้ เราก็สามารถอยู่เหนือกรรม เป็นอิสระจากกรรม
ตัดกรรมได้ด้วยตัวของเราเองในชาตินี้ ในชีวิตนี้
นี่คือ วิธีตัดกรรมตามแนวพุทธแท้ๆ ไม่เห็นยากเย็นตรงไหน
เราทำกรรมเอง ก็ต้องตัดกรรมด้วยตัวเอง
เหมือนที่พระพุทธองค์ตรัสว่า
“ผู้ใดทำกรรมชั่ว เขาย่อมปิดกั้นกรรมชั่วนั้นเสียได้ด้วยกุศล (กรรมดี)
คนที่ทำเช่นนี้ ย่อมยังโลกนี้ให้สว่างไสว ดุจดังจันทราพ้นจากเมฆาอันมืดมิด”


ทันธรรมดา พอทุกข์ (=ธรรมดาทั้ง ๕) เกิดขึ้นมา แต่ไม่ทุกข์
เราทุกคนเมื่อเกิดมาในโลกนี้แล้ว
ขอให้พยายามเรียนรู้กฎ กติกา มารยาทของการเกิดมาเป็นมนุษย์เอาไว้ให้ดี
ถ้าเรารู้กฎ กติกา มารยาทของการเกิดมาเป็นมนุษย์เอาไว้ให้ดีแล้ว
วันหนึ่งความแก่เข้ามาเผชิญ
วันหนึ่งความเจ็บเข้ามาเผชิญ
วันหนึ่งความตายเข้ามาเผชิญ
วันหนึ่งความพลัดพรากเข้ามาเผชิญ
วันหนึ่งกฎแห่งกรรมเข้ามาเผชิญ



เราก็จะไม่ทุกข์ เพราะเรารู้แล้วว่า ความทุกข์ (คือปรากฏการณ์ทั้ง ๕)
เป็นธรรมดาของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "คน"
เมื่อเราให้ราคาของสิ่งเหล่านี้ว่า เป็นปรากฏการณ์ธรรมดาของสิ่งมีชีวิต
ความทุกข์เกิดขึ้นมา ก็มีแต่ปัญญาเท่านั้นเองที่จะเกิดขึ้นกับเรา

ความแก่เกิดขึ้นมา ก็ได้ปัญญาเป็นกำไร
ความเจ็บเกิดขึ้นมา ก็ได้ปัญญาเป็นกำไร
ความตายเกิดขึ้นมา ก็ได้ปัญญาเป็นกำไร
ความพลัดพรากเกิดขึ้นมา ก็ได้ปัญญาเป็นกำไร
ความตายเกิดขึ้นมา ก็ได้ปัญญาเป็นกำไร


ถ้าเราทำใจให้รู้เท่าทันธรรมดาอย่างที่กล่าวมานี้ได้เมื่อไหร่
เราจะอยู่ในโลกโดยที่ไม่ถูกโลกทำร้าย
ใช้ชีวิตอยู่ในโลกไปอย่างคนที่เป็นนายเหอโลก
เผชิญสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นทั้งสุขหรือทุกข์ ก็ไม่หวั่นไม่พรั่นพรึง


ความทุกข์เกิดขึ้นมา ก็เพื่อต่อยอดให้เกิดปัญญาแห่งการเห็นธรรม
ทุกข์จึงเป็นอุปกรณ์ของธรรม มีทุกข์เมื่อไหร่ก็ได้ธรรมเมื่อนั้น
ทุกข์กระทบ ธรรมจึงกระเทือน
ด้วยท่าทีของผู้ที่เข้าใจ และรู้เท่าทันธรรมดาเช่นที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดนี้
เราจะเป็นบุคคลที่รับมือกับความทุกข์ได้อย่างมีปกติภาพ
มีความรู้เท่า รู้ทัน รู้กัน อย่างแยบคาย
กลายเป็นผู้ที่ เห็นทุกข์ แต่ไม่เผลอ เป็นทุกข์ อีกต่อไป



เราจะเป็นเหมือนคนที่กินปลาแล้วไม่ถูกก้างปลาตำคอ
เหมือนคนที่กินทุเรียนแล้วไม่ถูกหนามทุเรียนตำมือ
เหมือนคนที่เดินอยู่บนหนามแล้วไม่ถูกหนามตำเท้า


เพราะฉะนั้น จึงขอให้เราทั้งหลายควรเปิดหู เปิดตา เปิดใจ
เพื่อเรียนรู้กฎ กติกา มารยาทของการอยู่ในโลก ๕ ประการนี้ให้ดี
ใครรู้เท่า ใครรู้ทัน
คนคนนั้นก็มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันขณะ ที่มีแต่ความร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป



อาตมภาพได้ปาฐกถาธรรมมาก็พอสมควรแก่เวลา
ก็หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่ากฎ กติกา มารยาท ทั้ง ๕ ประการนี้
คงจะอำนวยประโยชน์โสตถิผลแก่เราท่านทั้งหลาย ซึ่งยังเป็นอยู่ในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี


กุศลบุญราศีใดที่เกิดขึ้นมาจากการปาฐกถาธรรมในค่ำคืนนี้
อาตมาก็ขออัญเชิญกุศลบุญราศีนี้จงมารวมกันเป็นตบะ เป็นเดชะ เป็นพลวปัจจัย
อำนวยอวยชัยให้แก่ท่านผู้วายชนม์ ให้พ้นจากที่ยาก
ให้พรากจากที่ถึง ขอให้ถึงสุขในสุคติสัมปรายภพด้วย เทอญ


ที่มา...คมชัดลึก

คันฉ่องและโคมฉาย-สักวันหนึ่ง...ชีวิตจะหาไม่(จบ)วันนี้มีสติหรือยัง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์