เรื่องบิณฑบาตไม่ใช่การเบียดเบียน
ทรงตรัสตอบ..เรื่องบิณฑบาตไม่ใช่การเบียดเบียน
.
[นายคามณี อสิพันธกบุตรกราบ ทูลถามพระพุทธองค์ตามคำแนะนำของ นิครนถ์นาฏบุตร ว่า
ขณะที่หมู่บ้านนาฬันทคาม เกิดข้าวยากหมากแพง ประชาชนเลี้ยงชีพโดยฝืดเคือง ต้องจับจ่ายด้วยบัตรปันส่วน
ไฉนพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ จึงยังคงจาริกไปเพื่อภิกษาในนาฬันทคาม จะไม่เป็นการเบียดเบียนชาวบ้านหรือ ? ]
.
ดูก่อนนายคามณี แต่ภัทรกัปนี้ไป ๙๑ กัปที่เราระลึกได้
เราไม่รู้สึกว่า เคยเบียดเบียนครอบครัวไหนๆ ด้วยการถือเอาภักษาที่สุกแล้วเลย
อนึ่งเล่า ครอบครัวใดมีฐานะมั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก มีเงินและทองมาก
มีทรัพย์ คือ อุปกรณ์มาก
มีทรัพย์ คือ ข้าวเปลือกมาก
ครอบครัวทั้งปวงนั้นเจริญขึ้นเพราะการให้ทาน
เพราะมีสัจจะ เพราะมีสำรวมระวัง
ดูก่อนนายคามณี มีเหตุปัจจัย ๘ อย่าง เพื่อความคับแค้นแห่งครอบครัวทั้งหลาย คือ
สกุลทั้งหลายถึงความคับแค้นจากพระราชา ๑
จากโจร ๑
จากไฟ ๑
จากน้ำ ๑
ทรัพย์ที่เก็บไว้เคลื่อนไปจากที่ ๑
ทรัพย์วิบัติไปเพราะประกอบการงานชั่ว ๑
คนทำลายทรัพย์แห่งสกุล ผู้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยทำลาย กำจัดโภคะเหล่านั้น เกิดขึ้นในครอบครัว ๑
ความไม่เที่ยงแท้แน่นอนเป็นปัจจัย ๑
ดูก่อนนายคามณี ทั้งที่เหตุปัจจัย ๘ อย่างเหล่านี้มีอยู่ ผู้ใดพึงกล่าวหาเราอย่างนี้ว่า
พระผู้มีพระภาคปฏิบัติเพื่อให้ครอบครัวขาดสูญ เพื่อให้ครอบครัวเสื่อม เพื่อให้ครอบครัวคับแค้น ดังนี้
ผู้นั้น หากไม่ละวาจานั้น ไม่ละความคิดนั้น ไม่ละความเห็นนั้น ต้องดิ่งลงในนรกแน่แท้...”
.
-กุลสูตร สฬา. สํ. (๖๒๑-๖๒๒)
ที่มาจาก พระพุทธพจน์: แก่นแท้พระพุทธศาสนา
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!