1. นักกีฬายิงธนูที่ดี ต้องยิงให้ตรงเป้าหมายฉันใด
คนที่ดีที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต ก็ต้องมีเป้าหมายที่ดี
ในการดำเนินชีวิตฉันนั้นเหมือนกัน
2. ลองมองวิบากกรรมที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ด้วยสายตาของปราชญ์สิ
แล้วเราจะพบว่า ทุกการกระทำของเรา ล้วนส่งผลถึงชีวิตของเราอย่างถึงพริกถึงขิงจริงๆ
3. ลองมองความพลัดพราก ด้วยสายตาของปราชญ์สิ แล้วเราจะพบว่า
ความพลัดพรากกำลังสอนให้เรา หันกลับมาเรียนรู้ที่จะอยู่กับคนที่เรารักอย่างคุ้มค่า
4. ลองมองความตาย ด้วยสายตาของปราชญ์สิ แล้วเราจะพบว่า
ความตายกำลังสอนให้เรา เพียรทำวันนี้ให้ดีที่สุด
5. “ผู้บริหาร” ที่ประสบความสำเร็จ มักจะถือคติ…
ทำ ๑ แต่ได้ ๑๐๐ ทำน้อยแต่ได้มาก
6. ลองมองความเจ็บด้วยสายตาของปราชญ์สิ แล้วเราจะพบว่า
ความเจ็บกำลังสอนให้เรา หับกลับมาดูแลสุขภาพของตัวเอง
7. ลองมองความแก่ ด้วยสายตาของปราชญ์สิ แล้วเราจะพบว่า
ความแก่กำลังจะสอนให้เรา ไม่ประมาทในวันเวลา
8. อ่อนโยนดั่งผีเสื้อ แกร่งเหลือดั่งเหล็กไหล
คือสองคุณสมบัติวิวัฒน์ไว ผลิบานอยู่กลางใจของเธอเอง
9. สิ่งที่เรามีอยู่ จะหลุดลอยจากเราไปทีละสิ่ง ไม่เร็ว ก็ช้า
สัจธรรมเช่นนี้จะเกิดกับเราทุกคน
กล่าวตามความเป็นจริงแล้ว ไม่มีอะไรเลย ที่เป็นของเราอย่างแน่แท้ สรรพสิ่งล้วนเป็น “ของมัน” อย่างนั้นเอง ไม่มีอะไรที่ “เป็นของเรา” อย่างแท้จริง
สรรพสิ่งประดามี คือ “ความชั่วคราว” ที่ดูเหมือนมั่นคงแค่นั้นเอง
10. หากเธอศรัทธาในผู้ใด ก็จงซึมซับในคุณธรรมของเขา
11. ทุกครั้งที่เราใช้ Facebook จงถามตัวเองเสมอว่า เราใช้ในเชิง “สร้างสรรค์” หรือมุ่งมั่นใช้ในทาง “ทำลาย”
12. การมีกัลยาณมิตรก็เหมือนมีดวงอาทิตย์ประจำตัว
13. น สิยา โลก วฑฺฒโน “อย่าทำตนเป็นคนรกโลก” (พุทธภาษิต-ขุ.ธ. ๒๕/๓๓)
14. ชีวิต คือ งานศิลปะ
15. ศิลปะใช่แค่วาดกระดาษแก้ว ใช้รูปแพรวพราวพรายในเส้นสี ใช่แค่ปั้นประติมาประดามี ใช่จัดวางอย่างพอดีรุจีรัตน์
16. แต่ชีวิตคืองานศิลปะ รู้จักละรู้จักเติมเสริมสวัสดิ์ รู้จักก้าวรู้จักถอยพลอยพิพัฒน์ รู้จักมัดใจคนไม่จนใจ
17. รู้จักวาดวิสัยทัศน์อันชัดชี้ รู้จักมีเครดิตรู้จิตใส รู้จักบาปรู้จักบุญสุนทรไท รู้จักไม่ท้อแท้แม้อ่อนแรง
18. รู้ว่ารู้หรือไม่รู้อยู่บางเรื่อง รู้จักเปลื้องความหลงผิดความคิดแผลง รู้จักนำชีวิตวิจิตรแจง รู้จักแปลงตัวตนให้พ้นทุกข์!
19. จงเอาชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ จงเอาชนะความชั่วด้วยความดี จงเอาชนะความตระหนี่ด้วยการให้ จงเอาชนะความเท็จด้วยความสัตย์
20. หากเธอไม่เห็นคุณค่าของประวัติศาสตร์ ก็จะไม่สามารถสร้างอนาคตที่รุ่งโรจน์
21. ในเมื่อเวลาและวารี ไม่เคยคอยใคร ดังนั้น เราจะมาเป็นคนที่เอาแต่ผัดวันประกันพรุ่งอยู่ไม่ได้
22. เด็กทุกคนล้วนมีดี ครูต้องหาวิธี ค้นหาดีในตัวเด็กให้พบ
23. ยึดมากก็ทุกข์มาก ยึดน้อยก็ทุกข์น้อย ไม่ยึดก็ไม่ทุกข์
24. ทองแท้ไม่กลัวไฟ คนจริงไม่กลัวอุปสรรค
25. เมื่อเราอยู่ ณ ปัจจุบันขณะ “ความฟุ้งซ่าน” ซึ่งอาศัยอดีตเป็นอารมณ์ ก็จะเกิดขึ้นหรือจะก่อตัวขึ้นมาไม่ได้เลย
26. อย่าเอาของสูงค่า ไปมอบให้แก่.. คนที่ไม่เห็นคุณค่า อย่าใช้คนที่มีความรู้ความสามารถ โดยไม่สอดคล้องกับความสามารถที่แท้จริงของเขา
27. แก้วที่เต็มไปด้วยน้ำ ไม่อาจรองรับน้ำได้อีกฉันใด คนที่เต็มไปด้วย “ทิฐิมานะ” ก็ไม่อาจรองรับภูมิปัญญาได้อีกฉันนั้น
28. ผู้หญิง ผู้ชาย ถ้าสนใจปฏิบัติธรรม ก็บรรลุนิพพานได้เสมอหน้ากัน
29. ชีวิตจะเป็นอย่างไร… ขึ้นอยู่กับว่า เราเลือกเส้นทางไหน ให้ตัวเองดำเนิน
30. แพ้ชนะในกีฬาเป็นสิ่งสมมติ สิ่งสำคัญสูงสุดคือมิตรภาพ
31. ความทุกข์เกิดขึ้นมาไม่ใช่เพื่อให้เราท้อ แต่เกิดขึ้นมาเพื่อให้เราก้าวต่อไปจนพบความสุข
The experience of suffering
is not meant to discourage us.
It is meant to guide us towards happiness.
32. “ความสุข” สำคัญที่คุณภาพของชีวิต ไม่ได้สำคัญที่ปริมาณของวัตถุที่คุณถือครอง
33. เจ็ด สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ถึงแม้เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ก็นับว่าเป็นสิ่งไกลตัว สู้ 7 สิ่งมหัศจรรย์ภายใน ซึ่งเป็นเรื่องในตัวของเราเองไม่ได้..
34. อย่ารักจนเสียการเรียน อย่าวนเวียนแต่เรื่องความรัก
35. สรรพสิ่งล้วนอิงอาศัยกัน
36. หากคุณขยันเหมือนมด รับประกันว่าชาตินี้ “ไม่มีวันอดตาย”
37. ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว คือ คำกล่าวของผู้นำที่ล้มเหลว
38. คนรักกันต้องยอมทิ้ง “พยศ” ลด “มานะ” ละ “ทิฐิ” หรือทิ้งความเป็น “เธอ” ความเป็น “ฉัน” เพื่อหลอมกันเป็น “เรา”
39. อย่ารักจนหน้ามืดตามัว กระทั่งมองไม่เห็นหัวของมารดาบิดาบังเกิดเกล้า
40. ความรักไม่ง่ายเหมือนลวกก๋วยเตี๋ยว ทุกครั้งที่มีความรักและคนรัก ต้องใช้สติให้ทันอารมณ์ ต้องรักด้วยสมอง อย่าให้รักขึ้นสมอง
41. ทุกครั้งที่มีความรัก ควรเผื่อใจไว้สำหรับการอกหักที่อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ ทุกคนที่มีความรัก ควรภาวนาคาถากันน้ำตาไหลที่ว่า “ไม่แน่ ไม่ได้ดั่งใจ ไม่มีอะไรสมบูรณ์” เอาไว้เสมอ
42. No one in this world can escape gossip. คนไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก นตฺถิ โลเก อนินฺทิโต (๒๕/๒๗)
43. จินตนาการ คือ สถาปนิกชั้นยอด ความล้มเหลว คือ นั่งร้านของความสำเร็จ และความเพียร คือ นายช่างผู้มากฝีมือ
44. “โลกนี้มีพอสำหรับทุกคน แต่ยังคงขัดสนสำหรับผู้ไม่พอ”
45. คนดีที่ซื่อสัตย์ทั้งหลายก็ควรจะเชื่อมั่นว่า ความดีที่ตนทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริตที่แม้จะถูกมองว่าเชย ไม่ฉลาดในสายตาของคนโง่นั้น ย่อมเป็นเหมือนรอยจารึกบนศิลาที่จะไม่มีวันลบหายไปด้วยแรงลม น้ำเซาะหรือเพราะถูกแดดเผา ฝนสาด ความดีที่สุจริตโปร่งใสนี้แหละจะเป็นเงาตามตัวของเราตลอดไป เราอยากให้เงาของตัวเองดีงามหรืออัปลักษณ์ก็ควรจะเลือกถามใจตัวเองดู
(ที่มา..หนังสือ กำลังใจแด่ชีวิต โดย ว.วชิรเมธี)
46. ถ้ายอมกะเทาะเปลือกแห่งทิฐิ ความยึดถือติดมั่น รั้นดื้อถือในความคิดเห็นของตน หรือสลัดอัตตาตัวตนทิ้งไป ทำตนเป็นคนเล็กคนน้อย อ่อนน้อมถ่อมตน วางตนเป็นคนธรรมดาสามัญ ไม่ยโสโอหัง ปล่อยวางหัวโขนอย่างรู้เท่าทันโลกธรรม เดินอยู่บนวิถีทางแห่งปัญญาและความเรียบง่ายแล้ว คนเช่นนี้ก็จะสามารถค้นพบ “ทองคำแท้” ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในตัวตนของตนได้เสมอ โดยมิพักต้องรอให้ใครต่อใครช่วยกะเทาะแต่อย่างใด
47. Attachment to material things of this world leads to encounters with the devil.
“ยึดติดถือมั่นสิ่งใดใดในโลกนี้ ย่อมจะมีมารผจญเป็นผลพวง ยํ ยํ หิ โลกสฺมึ อุปาทิยนฺติ เตเนว มาโร อนฺเวติ ชนฺตุ
48. รถทุกคันล้วนมีเบรก รถทุกคันล้วนมีท่อไอเสีย คนทุกคนต้องมีเบรกคือสติ ต้องมีท่อไอเสียคือการปล่อยวาง
49. หากเมื่อใดที่เราสามารถฝึกสติให้เข้มแข็งจนสามารถเลิกคิดฟุ้งซ่านได้ตามที่ต้องการ ชีวิตจะเบาสบายเหมือนขนนก สภาพจิตอาจอยู่ในลักษณะ ฝนตกไม่ต้อง ฟ้าร้องไม่ถึง สามารถหยัดยืนอยู่ในโลกได้อย่างชนิดที่ไม่ต้องขึ้นต่อใครในทางความรู้สึกอีกเลย
50. รักอย่างลืมตัว “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์” แต่ถ้ารักอย่างรู้ตัว “ที่ใดมีรัก ที่นั่นก็มีสุข” ที่มา..หนังสือ “ก้าวไปให้ถึงรักแท้” ว.วชิรเมธี
51. โลกนี้มีพอสำหรับทุกคน แต่ยังคงขัดสนสำหรับผู้ไม่พอ >>ที่มา…หนังสือ “มองไม่เห็นฝั่ง” ว.วชิรเมธี
52. สุภาษิตของอินเดียกล่าวว่า เวลามองผู้หญิง ให้มองทะลุไปถึงความเป็นแม่ ถ้าเธอมีความเป็นแม่ในตัวนั่นแสดงว่า เธอมีคุณสมบัติความเป็นภรรยาของคุณได้ในอนาคต ขณะเดียวกัน ผู้หญิงถ้ามองผู้ชาย ก็ต้องมองให้ทะลุไปถึงความเป็นพ่อที่มีในตัวของเขา ถ้าคุณเห็นค
53. วามเป็นพ่อที่มีอยู่ในตัวเขา นั่นก็หมายความว่า เขาพร้อมแล้วที่จะมาเป็นสามีของคุณได้ในอนาคต
บางครั้งในวัฒนธรรมอินเดียโบราณก็กล่าวว่า ผู้ชายและผู้หญิงที่แต่งงานกัน ต่างกันเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันท่านใช้คำว่า “อรธางคินี” (ผู้เป็นครึ่งหนึ่งของสามี, ครึ่งหนึ่งของภรรยาเสมอมา) หมายความว่า ทั้งเธอและฉันต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
ด้วยเหตุนี้ เมื่อคู่สมรสมาแต่งงานกันก็ขอให้คิดอยู่เสมอว่า ชีวิตของเรานั้นมีสัดส่วนของเธออยู่ครึ่งหนึ่ง ผู้หญิงก็ขอให้คิดอยู่เสมอว่า ชีวิตนี้มีสัดส่วนของสามีอยู่ครึ่งหนึ่งด้วยวิธีคิดแบบนี้ เวลาภรรยาหรือสามีจะทำอะไรก็ตาม ก็จะเกรงอกเกรงใจซึ่งกันและกัน ก็จะเคารพ นับถือ ให้เกียรติไว้วางใจซึ่งกันและกัน ถ้าเรามองว่า ทั้งเธอและฉันต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน เราก็จะระมัดระวังในการดำเนินชีวิต ไม่ละเมิดจริยธรรมทางเพศต่อคู่สมรส สิ่งนี้นับว่าเป็นคติธรรมทางวัฒนธรรมอินเดียที่งดงามและน่าหยิบยกมาเป็นแบบอย่างมาก
>>ที่มา… หนังสือ SoulMate&Marriage คู่รัก&คู่ชีวิต โดย ว.วชิรเมธี
54. เมื่อเครียดมากๆ ด้วยเรื่องใดก็ตาม ถ้าเรามองตนเองเทียบกับคนที่สูงกว่า เราจะรู้สึกแย่มากที่สู้เขาไม่ได้ แต่ถ้ามองเทียบกับคนที่ต่ำกว่า เราจะรู้สึกลำพองอหังการ ขณะเดียวกันถ้าเรามองตัวเองเทียบกับคนทั่วไป ก็จะพบว่ายังมีคนอีกมากมายที่เขาก็พบกับปัญหา มีความทุกข์มากมายในชีวิตเหมือนกันกับเรา และนั่นจะทำให้เราค้นพบความจริงว่า เรายังคงมีเพื่อนทุกข์อีกมากมายในโลกใบนี้
55. เกิดเป็นคนทั้งที อย่าเป็นคนชนิดที่เหมือน “ต้นไม้ยืนต้นตาย” แต่ควรเป็นคนที่ “มีชีวิตชีวา” อยู่ที่ไหนก็ก่อให้เกิดการพัฒนาขึ้น แก่ที่แห่งนั้นเสมอไป
56. อยู่กับคน จงอยู่ในใจของคนที่ตนอยู่ด้วย
57. ความทุกข์ทุกชนิดที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา ก็เหมือนกับกระดาษทรายที่จะทำหน้าที่ช่วย “เจียระไน” ให้ชีวิตของเราลงตัวอย่างงดงาม
58. ในโลกใบนี้มีใครบ้างที่ดีพร้อมไปหมดเสียทุกอย่าง หรือมีใครบ้างที่เลวพร้อมไปเสียทั้งหมดจนหาดีไม่ได้เอาเสียเลย
หากเธอกวาดตามองไปจนทั่วจาตุรทิศ เธอก็จะค้นพบสัจธรรมว่า.. คนทุกคนต่างก็มีดีมีเลวมากบ้างน้อยบ้างคละเคล้าปะปนกันไปในตัวเหมือน ๆ กัน
59. เราควรบอกตนเองว่า.. ปีนี้ต้องดีกว่าปีที่ผ่านมา และปีหน้าที่จะมาถึงต้องดีกว่าปีนี้ ใครทำได้เช่นนี้เมื่อไหร่ วันตรุษจีน จะไม่ใช่เพียงวันหนึ่งในเทศกาลเท่านั้น แต่จะเป็นวันตั้งตนชีวิตใหม่อย่างแท้จริง
60. คนฉลาดชอบแกล้งโง่ คนโง่ชอบเสแสร้งว่าฉลาด ส่วนนักปราชญ์เรียนรู้ที่จะฉลาดและเรียนรู้ที่จะโง่
61. ศีลไม่ได้อยู่ที่พระ ธรรมะไม่ได้อยู่ที่วัด เงินไม่ได้อยู่ที่เศรษฐี แต่ศีลอยู่ที่กายใจของเรา ธรรมะอยู่ที่สติ เงินอยู่ทุกที่ที่มีความขยัน
62. การยอมให้ตนเองอ่อนแอด้วยการร้องไห้อย่างเปิดเผย มองในอีกมุมหนึ่งก็นับเป็นความเข้มแข็งได้เหมือนกัน
63. จงดึงเอาความรู้สึกผิดที่เรามี มาเป็นแรงบันดาลใจให้ทำดียิ่งๆขึ้น อย่าจมอยู่กับอดีตมีแต่การสร้างตัวเองใหม่เท่านั้นที่จะหลุดพ้นจากความรู้สึกผิด
64. คนที่เข้าใจโลกถึงขั้นมองเห็นอะไร ๆ ที่คนอื่นเขาเครียดกันจะเป็นจะตายเป็นเรื่องขำขันได้ก็จะอายุยืน อยู่ในโลกแต่ไม่หลงโลก อยู่ในโลกเพื่อเหยียบโลกเล่น ไม่ใช่แบกโลกไว้บนบ่า คนอย่างนี้หายาก แต่มีอยู่ที่ไหนคนอยู่ใกล้ก็มีความสุข
65. ความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับความมี แต่อยู่ที่เราค้นพบว่าอะไร คือ แก่นแท้ของชีวิต แล้วอยู่กับสิ่งนั้นด้วยความรัก คนนั้นคือคนมีความสุข
66. จงมุ่งมั่นต่อเป้าหมาย ที่เป็นความใฝ่ฝันแห่งชีวิต อย่าเสียเวลากับเรื่องน้อยนิด ที่ไม่เกี่ยวกับเป้าหมายในชีวิตของเราเอง
67. >>เรามีเวลาจำกัด<< เวลาของเราไม่ยาวนัก ควรรู้จักจัดวางอย่างเหมาะสม อย่ามัวพร่าเวลาเพราะคารม อย่าโง่งมแส่ทุกเรื่องชวนเปลืองใจ
68. เวลาสั้นดั่งน้ำค่างที่พร่างพรม สั้นดั่งลมพัดพรูวาบวู่ไหว สั้นดั่งสายฟ้าแลบแปลบปลาบไป สั้นดั่งไฟวอมวับแล้วดับลง ชีวิตกระจิริดเพียงนิดหน่อย เฉกน้ำน้อยในหน้าแล้งต้องแห้งผง ความยิ่งใหญ่มากมีที่ดำรง ไม่นานคงร่วงรุ้งฟุ้งกระจาย ทุกนาทีมีค่ากว่าเพชรพลอย ไม่ควรปล่อยเปล่าเปลืองเรื่องหลากหลาย สิ่งใดเป็นแก่นสารอันไม่ตาย ควรท้าทายทำเรื่องนี้ให้ดีพอ โมนาลิซ่าคือดวงตาดาวินชี่ มิเคลันเจโลดีเดวิดหนอ สุนทรภู่ครูกวีแม้ชีกอ ก็ยังต่อชีวิตใหม่อภัยมณี ก่อนนาทีสุดท้ายจะวายวาง สิ่งใดสร้างจำหลักเป็นศักดิ์ศรี สมบัติทิพย์ประจำยุคทุกนาที สิ่งใดที่ประดับไว้โลกไม่ลืม ? >>ว.วชิรเมธี
๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๔
วิมุตตยารามอังกฤษ สหราชอาณาจักร
ที่มา… “กวีนิพนธ์ดลธรรม” จากปฏิทิน “ธรรมะผลิบาน”
69. ในเมื่อไม่มีสิ่งที่เราชอบ เราก็ควรชอบสิ่งที่เรามี เพราะในโลกนี้ไม่มีใครได้ทุกสิ่งอย่างใจหวัง และจะไม่มีใครพลาดหวังทุกอย่างไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราจะทำมีแง่ดีแง่งามอยู่เสมอขอให้เรามองให้เห็น ถ้ามองเห็นเราก็จะเป็นสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า…”
>>ที่มา.. E-Book “ทำงานอย่างไรให้มีความสุข” โดย ว.วชิรเมธี
70. ใครที่ทำงานและมักตั้งคำถามในใจว่า ทำไมงานเราเงินเดือนน้อยจัง หรือทำไปทำไมเนี่ย ไม่ได้รักไม่ได้ชอบงานนี้เลย แถมล่าสุด ตัวเลขโบนัสออกมายังไม่ได้ดั่งใจอีก คำถามเหล่านี้ คงจะทำให้คนวัยทำงาน หน้านิ่วคิ้วขมวดได้ทั้งวัน และในวันนี้ทุกคำถามมีคำตอบ พร้อมทั้งกำลังใจดีๆ โดย ท่าน ว.วชิรเมธี
71. “ลมปาก” ผ่านเข้ามาแล้าก็ผ่านไป ถ้าเราไม่ให้ความสำคัญมากเกินไป ก็ไม่ทำให้เป็นทุกข์
72. ครูที่ดี จะเป็นภาพพิมพ์ใจที่หยัดยงคงอยู่ในใจของศิษย์ หรือเป็นแรงดลใจที่ไม่เคยมอดไหม้ในใจของศิษย์ไม่เสื่อมคลาย ศิษย์ที่ดี คือ เกียรติยศที่แท้จริงของครู คนที่เป็นครูทั้งตัวและหัวใจ ศิษย์นึกถึงเมื่อไรก็ให้ความรู้สึกเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต [ว.วชิรเมธี]
73. อย่าแบกอะไรที่เกินกำลังของตัวเอง เพราะไม่เพียงแต่มันจะทำให้เราเป็นทุกข์ แต่บางทีอาจมีผลต่อการยืนตรง ๆ อย่างยาวนานของเราด้วย
74. “สติ” คำเดียว ก็เกินพอ
75. “ต่อให้ฝนตกลงมาเป็นเงินทอง ความต้องการของคนทั้งผองก็ไม่เคยเต็มอิ่ม” น กหาปณวสฺเสน ติตฺติ กาเมสุ วิชฺชติ [ขุ.ธ.๒๕/๔๐]
76. “ทำดีเวลาใด เวลานั้นไซร้คือฤกษ์ดี มงคลดี เช้าดี รุ่งอรุณดี” สุนกฺขตฺตํ สุมงฺคลํ สุปภาตํ สุหุฏฺฐิตํ [๒๐/๕๙๕]
77. >>เงินงาม สังขารงอม<< “ทำงานมากี่ปีแล้วที่รัก” ดูแล้วหนักเหมือนแบกโลกทั้งโลกอยู่ ตาเคยวาวผิวเคยผ่องชวนมองดู วันนี้Youแปลกไปมากจากที่เป็น
78. ก็เข้าใจความจำเป็นเช่นที่บอก คนมีปลอกย่อมลำบากย่อมยากเข็น จะให้ปลดปลอกทิ้งกลิ้งกระเด็น มองไม่เห็นวันเช่นนั้นฉันจะมี คนทำงานงานทำคนเสียย่นแย่ บางคนแก่ก่อนกาลปานเป็นผี อายุเฉกของโบราณหลายล้านปี เพราะไม่มีเวลาเหลือมาเผื่อพัก บางคนกะนอนยาวคราวดับจิต ใช้ชีวิตเหมือนทาสถ่อยท่วมรอยสัก ทำทำทำอยู่อย่างนั้นงานทะลัก เสพงานหนักเป็นนิสัยไม่รู้ตัว อาจมีเงินมากมายในบัญชี แต่ก็มีโรคแถมมาแซมหัว เงินทุกบาทใช้เต็มที่ไม่มีกลัว จ่ายระรัวเป็นค่าหมอต่อลมปราณ วันที่มีเงินมากล้นพ้นประมาณ แต่สังขารไม่อำนวยให้โดยสาร เธอจะโทษใครกันเล่าเฝ้าบ้างาน ใครเล่าผลาญชีพใช้ให้ม้วยมรณ์ ? ว.วชิรเมธี ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๔ ที่มา… “กวีนิพนธ์ดลธรรม” จากปฏิทิน “ธรรมะผลิบาน” 79. อย่าให้รอยเปื้อนเสื้อผ้าของคนอื่นกลายมาเป็นรอยเปื้อนบนเสื้อผ้าของเราเลย ถ้าเรารู้ว่าคนอื่นเปื้อนเปรอะ ก็บอกให้เขาซักร้อยเปื้อนนั้นออกเสีย หากเขาไม่ฟังก็จงอยู่ห่างๆ เขาไว้ แต่อย่าทำร้ายเขา คนที่ใส่เสื้อผ้าเปื้อนนั้น ถึงอย่างไรก็ไมอาจนอนหลับได้อย่างมีความสุขไปได้ตลอดคืน 80. “อะไรก็ตามที่เราทำเพราะใจศรัทราที่จะทำ แม้เป็นกิจกรรมเล็ก ๆ แต่สิ่งนั้นก็ทำให้เรามีความสุขที่ยิ่งใหญ่ได้” >> ที่มา.. หนังสือ “ปาฏิหาริย์แห่งการให้” โดย ว.วชิรเมธี
81. เมื่อเครียดมากๆ ด้วยเรื่องใดก็ตาม ถ้าเรามองตนเองเทียบกับคนที่สูงกว่า เราจะรู้สึกแย่มากที่สู้เขาไม่ได้ แต่ถ้ามองเทียบกับคนที่ต่ำกว่า เราจะรู้สึกลำพองอหังการ ขณะเดียวกันถ้าเรามองตัวเองเทียบกับคนทั่วไป ก็จะพบว่ายังมีคนอีกมากมายที่เขาก็พบกับปัญหา มีความทุกข์มากมายในชีวิตเหมือนกันกับเรา และนั่นจะทำให้เราค้นพบความจริงว่า เรายังคงมีเพื่อนทุกข์อีกมากมายในโลกใบนี้
82. “จงเป็นดั่งปลาที่พร้อมว่ายทวนน้ำ ปลาที่เป็นย่อมว่ายทวนกระบวนน้ำ คนเลิศล้ำย่อมว่ายทวนกระบวนทุกข์”
83. ลองมองความตาย ด้วยสายตาของปราชญ์สิ แล้วเราจะพบว่า ความตายกำลังสอนให้เรา เพียรทำวันนี้ให้ดีที่สุด
84. ปลอดปม
หากใจเธอหนักแน่นดังแผ่นผา
ใครจะปาถ้อยคำขอยำใหญ่
เธอย่อมนิ่งสนิทไม่ติดใจ
เพราะเธอไม่มีตัวให้มัวมน
……………………………..
จาก สมุดแผนงานประจำปี (Year Planner) สุขทั้งปี โดย ท่าน ว.วชิรเมธี
85. เรามีเวลาจำกัด
เวลาของเราไม่ยาวนัก
ควรรู้จักจัดวางอย่างเหมาะสม
อย่ามัวพร่าเวลาเพราะคารม
อย่าโง่งมแส่ทุกเรื่องชวนเปลืองใจ
……………………..
จาก สมุดแผนงานประจำปี (Year Planner) สุขทั้งปี โดย ท่าน ว.วชิรเมธี
86. จักรวาลในถ้วยชา
…
เราต่างมีกันและกันในสรรพ์สิ่ง
เราต่างอิงองค์อื่นอีกหมื่นหมาย
เราต่างถ้อยธำรงจึงทรงกาย
เราต่างคล้ายเป็นส่วนหนึ่งที่ถึงกัน
…
จาก สมุดแผนงานประจำปี (Year Planner) สุขทั้งปี โดย ท่าน ว.วชิรเมธี
87. ลองมองวิบากกรรมที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ด้วยสายตาของปราชญ์สิ
แล้วเราจะพบว่า ทุกการกระทำของเรา
ล้วนส่งผลถึงชีวิตของเราอย่างถึงพริกถึงขิงจริงๆ
88. กลัวลูกมีเซ็กส์ในวัยเรียน?
ไม่อยากให้เกิด ต้องเอาปัญญาใส่ในมือลูก
ให้เงินลูกน้อยๆ ให้ความรู้แก่ลูกมากๆ ด่าลูกน้อยๆ ให้คำสอนลูกมากๆ
89. ไหว้พระขอพรอะไรดี?
(๑) ขออย่าให้โลภจนหน้ามืด
(๒) ขออย่าให้โกรธจนทำร้ายตัวเอง
(๓) ขออย่าให้หลงจนไม่รู้ดีรู้ชั่ว
(๔) ขออย่าให้ตายในสงครามระหว่างคนไทยด้วยกันเอง
90. ท้อแท้กับปัญหามากมายทำอย่างไรดี?
ปลาที่ยังเป็นอยู่ ล้วนเรียนรู้ที่จะว่ายทวนน้ำ
ส่วนปลาตาย มักไหลตามน้