ตามหา“โชค”ให้ตนเอง


ตามหา“โชค”ให้ตนเอง

คนที่ดำเนินชีวิต หรือทำงานแล้วไม่ค่อยบรรลุผลสำเร็จตามที่ตนเองคาดหวังไว้มักจะโทษว่าตนเองโชคร้าย ไม่โชคดีเหมือนคนอื่น ๆ เขา หรือแม้แต่โทษกรรมเก่า อย่างที่พวกเราหลายๆ คนคงเคยได้ยินเพื่อนฝูง หรือเคยมีความรู้สึกว่า ไม่พอใจในงานหรือในอาชีพที่ตนทำอยู่ เขาคิดว่าเขาอาจมีโชคดีขึ้น อาจมีความร่ำรวย และสุขสบายขึ้น ถ้าหากเขาได้ทำงานอย่างที่คนโน้นทำอยู่ เพราะคิดว่าถ้าได้ทำงานเช่นนั้นเขาคงจะมีโชคดีขึ้น คนขายของก็อยากเป็นดาราภาพยนตร์ คนครัวก็อยากเป็นสมุห์บัญชี ทนายความก็อยากเป็นแพทย์ นายแพทย์ก็อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ อะไรทำนองนี้ ดูยุ่งเหยิงไปหมด สรุปก็คือ แต่ละคนมักจะดูหมิ่นเหยียดหยามอาชีพของตนเองว่าไม่มีความก้าวหน้า สู้อาชีพของคนอื่นไม่ได้ จริงอยู่บางครั้งการเปลี่ยนอาจจะทำให้ประสบความสำเร็จได้ แต่การเริ่มต้นใหม่ในอาชีพที่ไม่ชำนาญนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

 ผู้ที่เห็นว่าอาชีพใดรุ่งเรืองและอยากจะประกอบอาชีพนั้น ๆ บ้าง ล้วนแต่เป็นพวกคิดสั้น เพราะนอกจากปัญหาความถนัดในอาชีพแล้ว ถ้าหากเขาได้ศึกษาให้ลึกลงไปอย่างแท้จริง เขาจะพบว่า ผู้ที่ประสบโชคดีในอาชีพที่เขาปรารถนาอยู่นั้น ต้องต่อสู้ ผจญกับความลำบาก และต้องผ่านปัญหาอุปสรรค ด้วยความมานะอดทนมาแล้วไม่น้อยไปกว่าอาชีพของเขาเลย

ในทำนองเดียวกันพวกเราหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่าเป็นเพราะกรรมเก่าของเขาจึงทำให้เขาต้องเผชิญชีวิตเลวร้ายซ้ำแล้วซ้ำอีก ที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ ผมไม่ได้บอกว่าไม่ให้เชื่อในกฎแห่งกรรม แต่การคิดแบบนี้จะไม่เกิดประโยชน์อะไรกับการดำเนินชีวิต

การคิดว่าเกิดมาเพื่อใช้กรรมเก่าหรือเป็นเพราะกรรมเก่าชีวิตจึงเป็นเช่นนี้โดยไม่พยายามขวนขวายต่อสู้ดิ้นรนพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นเป็นความคิดที่ไม่สร้างสรรค์ การคิดโทษว่าเป็นเรื่องของกรรมเก่านั้นเท่ากับคุณยอมให้กรรมเก่ามาเป็นตัวกำหนดชีวิตของคุณ ชีวิตเกิดมาเพื่อการต่อสู้และต้องพัฒนาสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้กับสังคมและคนรุ่นต่อไป ถึงแม้ว่ามนุษย์อาจจะมีกรรมเก่าที่ติดตามตัวมาเพราะกรรมเป็นเรื่องเฉพาะตน ไม่สามารถไปฝากหรือผลักภาระให้ใครมาชดใช้ได้ก็ตาม การชดใช้กรรมเก่าไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของการเกิดมาเป็นมนุษย์ ถ้าถึงเวลาต้องชดใช้กรรมก็ชดใช้ไปและไม่สร้างกรรมชั่วใหม่ขึ้นมาอีก ขณะเดียวกันการพยายามสร้างกรรมดีขึ้นมาก็เป็นหน้าที่ของมนุษย์ที่ควรจะทำด้วยเช่นกัน กรรมดีที่สร้างขึ้นในปัจจุบันก็จะเป็นเหตุต่อผลลัพธ์ที่ดีที่จะเกิดตามมา

 

ยกตัวอย่างเจ้าของร้านขายของชำแห่งหนึ่ง แต่เดิมมีห้อง ๆ เดียวขายของเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ คน ๆ นี้ แต่เดิมเขาก็รู้สึกท้อแท้เบื่อหน่ายในกิจการของตนเองนอกจากเห็นว่าไม่มีโชคแล้วดูเหมือนกรรมยังมาบังอีก เขาคิดจะเปลี่ยนไปเป็นร้านขายยาบ้าง ร้านขายเครื่องดื่มบ้าง แต่ว่าบังเอิญชายผู้นี้มีภรรยาเป็นคนฉลาดและมีมานะอดทน ภรรยาไม่เห็นด้วย ต่อการที่จะเปลี่ยนอาชีพเป็นอย่างอื่น เธอบอกกับสามีว่า เหตุใดเราจึงไม่พยายามปรับปรุงร้านเล็ก ๆ ของเราให้ดีขึ้นเพราะการที่จะปรับปรุงนั้นยังสามารถทำได้และง่ายกว่า สามีเลยได้คิด จึงลงมือปรับปรุงกิจการของเขาขนานใหญ่เลิกหวังโชค เลิกโทษกรรม บัดนี้เขาจึงกลายเป็นเจ้าของร้านขายของเบ็ดเตล็ดถึง 3 ห้อง คนเช่นนี้เองที่รู้จักนำเอาโชคที่เขาเคยนึกไม่ถึงมาสร้างให้เป็นตัวเป็นตนขึ้น

เพราะฉะนั้นคนเราจงใช้โอกาสที่มีอยู่แล้ว ทำการงานของเราให้ดีที่สุด จงใช้เวลาเสาะแสวงหาช่องทางที่จะปรับปรุงส่งเสริมการงานที่ทำอยู่ให้เจริญงอกงามเท่าที่จะทำได้ ฐานะที่เราเป็นอยู่นี้ จะดีจะเลว หรือจะยากจนเข็ญใจอย่างไร ก็จงทำให้ดีที่สุด ชีวิตเป็นเรื่องไม่แน่นอน มีรุ่งเรืองและร่วงโรย ความทุกข์และความสุขเป็นเหมือนเหรียญสองด้านที่ผลัดกันเข้ามาทักทายเรา ผ่านเข้ามาไม่นานก็ผ่านจากไป
โชคมีอยู่ทั่วไปทุกหน ทุกแห่ง ในดิน ในอากาศ ในโรงงาน ในร้านค้า ในบ้าน ในเรือกสวน ในไร่นา มีใน ทุก ๆ สถานที่ เราอาจเคยได้ยินหลายคนบ่นว่า เมื่อไรหนอโชคจะมาหาเราสักที ผมขอบอกว่าโชคไม่ได้ อยู่ที่อื่น แต่อยู่ที่ตัวเราเอง โชคมาหา เราไม่ได้ แต่เราจะต้องสร้างโชคขึ้นมาด้วยพละกำลังของเรา โชคอาจจะอยู่ที่การคิดของเราเอง คือการคิดโดยพิจารณาจากข้อมูลหลายด้าน และมีข้อเท็จจริงหลายอย่าง มีการตรวจสอบความคิดและมีสติรู้ตัวขณะพูดและทำ การกระทำและการพูดที่คิดแล้วจะไม่ผิดพลาด นั่นก็คือกรรมดี เมื่อกรรมดี คิดดี จิตใจและชีวิตก็จะเป็นสุข แสดงว่ากรรมดี ทำให้ประสบผลสำเร็จจงจำไว้ว่าไม่มีใครที่ทุกข์ยากลำบากอยู่คนเดียวในโลก

ทุกคนต่างมีทุกข์ มากบ้างน้อยบ้างเท่านั้นเอง เรามักจะคิดเสมอว่าทุกข์ของเรานั้นเป็นที่สุด แต่จริงๆแล้วยังมีคนอีกมากที่มีความทุกข์ที่ยิ่งใหญ่กว่าเรา จงอย่าใช้กำลังสมองของเราให้สิ้นเปลืองและไม่ก่อประโยชน์เพราะความคิดเช่นนี้เลยนะครับ

 

เป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งนัก
มีผู้คนมากมายฝากชีวิตไว้กับโชคชะตา
ให้โชคชะตารักษาชีวิตและโอกาสของตนเอาไว้
โอกาสบางอย่างเสียไปยังเริ่มใหม่ได้
แต่บางเรื่องบางอย่างไม่มีโอกาสที่จะเริ่มใหม่ได้
บางคนอาจจะคิดได้ตอนใกล้ตาย
แต่ถึงคิดได้ก็ไม่มีใครให้โอกาสได้อีก

Cr::: http://dpadipa.org


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
รวมข่าวในกระแส คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์