เสียงจากหีบศพ


เสียงจากหีบศพ

พบความจริงในโอกาสที่มาเนื่องในการบำเพ็ญฌาปนกิจศพ

ขอให้เราได้ยินเสียงนี้ ซึ่งแสดงอยู่ กล่าวอยู่ บอกอยู่ หรือจะเรียกว่าตะโกนอยู่ก็ได้ โดยท่านผู้ที่ล่วงลับไปนี้ ดังก้องออกมาจากหีบศพ ถ้าจะมองอีกแง่หนึ่งก็จะเรียกว่า เป็นการมาฟังคำบรรยายสรุป บรรยายสรุปเรื่องข้อราชการตามความต้องการของพระยามัจจุราช พญามัจจุราชนี้ตรวจสอบความผิดถูก ความดี ความชั่ว ความอะไรที่มันจะต้องตรวจสอบ

ท่านผู้ล่วงลับไปก็จะแสดง สิ่งต่างๆ เหล่านั้นเหมือนกับคำบรรยายสรุปชีวิตให้ฟัง เป็นการประกาศว่า ข้าพเจ้ามีความถูกต้อง ข้าพเจ้าได้ทำหน้าที่ที่ควรจะกระทำเป็นอย่างดีแล้ว สำเร็จเรีบบร้อยท้าทาย และยืนยันต่อพญามัจจุราช เราทุกคนจะต้องสามารถบรรยายในลักษณะที่อาจหาญ ในที่พร้อมหน้าของพญามัจจุราช นี้แหละจะเป็นพุทธบริษัทสมบูรณ์แบบ

ที่นี้ในส่วนตัวเรานั้น เราก็มาดูความจริง ตามหลักของพระพุทธศาสนา ที่เรียกว่า ตถตา ตถตา เป็นคำใหม่ หรือแปลกสำหรับบางคน แต่เป็นคำสรุปความของพระธรรมทั้งหมดที่เป็นคำสอนในพระพุทธศาสนา คือสอนว่ามันเป็นเช่นนั้น มันเป็นเช่นนั้นเอง ตถตา ตถตา แปลว่า ความเป็นเช่นนั้นเอง อวิตถตา ความไม่ผิดไปจากความเป็นเช่นนั้น อนันยตถตา ความไม่เป็นโดยประการอื่น นอกไปจากความเป็นเช่นนั้น

กระทั่งว่า ธัมมัฏจิตตา เป็นการตั้งอยู่ตามธรรมดา ธัมมนิยามตา เป็นกฏตายตัวของธรรมดา อิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปปาโท ความที่มีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น ถ้าตั้งใจดูจะพบ และโอกาสเช่นนี้ ว่าความเป็นเช่นนั้นเอง

ความเป็นเช่นนั้นเอง ปรากฏแสดงอยู่ในลักษณาการต่างๆ ของผู้ล่วงลับไปแล้ว หรือจะถือว่าท่านประกาศก้องซึ่งพระธรรมข้อนี้ ว่า เช่นนั้นเอง เช่นนั้นเอง เช่นนั้นเอง หรือ เช่นนี้เอง เช่นนี้เอง เช่นนี้เอง ท่านทั้งหลายจงดูให้ดี จนเห็นความเป็นเช่นนี้เอง พบความจริงตามหลักพระพุทธศาสนาเรื่องตถตา ในโอกาสที่มาเนื่องในการบำเพ็ญฌาปนกิจศพ

จะพูดให้หนักขึ้นไปอีกหน่อย ก็ว่ามาเป็นพยาน แก่กฏอิทัปปัจจยตา มาศึกษาความจริงที่ว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง มีแต่การเปลี่ยน เปลี่ยน เปลี่ยนไป เปลี่ยนไป เปลี่ยนไป ตามเหตุตามปัจจัยที่มีอยู่ เรามาดูให้เห็นเป็นพยานได้ ว่าสิ่งนี้เป็นเช่นนี้จริง ได้ยินเสมือนหนึ่งได้ยิน เสมือนหนึ่งได้ยิน ท่านผู้อยู่ในหีบนี้ ร้องบอกมาอย่างนี้ หรือแสดงภาพให้เห็นชัดอยู่อย่างนี้

ถ้าใครหูไม่หนวก ตาไม่บอด ย่อมได้ยิน และได้เห็นเป็นแน่นอน เป็นความจริง มาช่วยกันเป็นพยานว่ามันเป็นความจริง กฏนี้เป็นกฏธรรมชาติ เป็นกฏความจริงเหนือสิ่งใด เหนือพระเจ้าอื่นใด เป็นพระเจ้าสูงสุดแห่งสากลจักรวาล คือกฏที่ว่า สิ่งทั้งปวงจะต้องเป็นไปตามกฏนี้ กฏที่ว่าสิ่งทั้งปวงจะต้องเป็นไปตามกฏนี้ คือกฏอิทัปปัจจยตา หรืออย่างหนึ่งก็จะว่าเรามาเรียนปรัชญา ปรัชญาความรู้อันไม่รู้จบ เกี่ยวกับโลกอื่น ฝ่ายร่างกายก็ได้ ฝ่ายจิตใจก็ได้

เรามีภาวะอย่างอื่น มีความเป็นไปโดยประการอื่น จากที่เราเป็นๆ อยู่ เราอยู่ในสภาพที่มีชีวิต แล้วก็กลายเป็นสภาพที่เรียกกันว่าไม่มีชีวิต แล้วก็มีอยู่โดยคุณธรรม มีอยู่โดยภาวะอย่างอื่น ทั้งทางกาย และทางจิตจากที่เคยเป็นอยู่แต่หนหลัง เรียกว่ามาเรียนปรัชญาเกี่ยวกับโลกอื่น แล้วก็จะรู้ว่าโลกอื่นนั้นยังมี ภาวะในโลกอื่นน่าปรารถนา น่าจะถือเอาเป็นหลักสำหรับคนเราประพฤติปฏิบัติให้ดี ให้งาม ให้เป็นที่ตั้งแห่งความพอใจ มันก็มีอยู่ ถ้าเราจะดูเป็น เราก็จะเห็น ข้อสุดท้าย เรามาเตรียมตัว เตรียมตัวกัน เพื่อยิ้มเยาะมัจจุราช มาเตรียมตัวด้วยกันทุกคนเพื่อยิ้มเยาะพญามัจจุราช

ในโอกาส หรือวาระที่เราจะถึงภาวะเช่นนี้บ้าง ขอให้เผชิญหน้าพญามัจจุราชเป็นการท้าทาย ยิ้มเยาะให้สืบสวน สะสาง ให้พินิจพิจารณาความพอใจของพญามัจจุราช แต่ก็พบ แต่ความดี ความงาม ความถูกต้อง จนพญามัจจุราชต้องหงายหลังไป หาความผิดใดๆ ที่จะลงโทษเรามิได้

ขอท่านทั้งหลาย ทุกท่าน ทุกคน จงได้รับอานิสงส์ แห่งการณาปนกิจศพ ตามแบบไทย สัญญลักษณ์แบบไทย ตามแบบพุทธ สัญญลักษณ์แบบพุทธ แบบอริยชนผู้มีวัฒนธรรมทั้งทางวัถตุ และทางจิต อันได้วิวัฒนาขึ้นมาถึงระดับนี้ ระดับนี้ จนอาจจะกล่าวได้ในที่ทุกหนทุกแห่ง ทุกกาลเวลา ในทุกกรณี ถูกต้องแล้ว พอใจ ถูกต้องแล้ว พอใจ ถูกต้องแล้ว พอใจ ดังนี้ ด้วยการจงทุกๆ คนเถิด

พุทธทาสภิกขุ



เสียงจากหีบศพ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์