การคิดบวกมีข้อเสียบ้างไหม
หลายคนอาจมีประสบการณ์หรือได้รับการบอกกล่าวว่าการมองโลกในแง่ดีและการคิดบวก จะทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น แต่บางคนอาจไม่คิดเช่นนั้น
แดเรน บราวน์ นักเขียนและนักมายากล เป็นคนหนึ่งที่คิดต่าง เขาให้สัมภาษณ์เว็บไซต์บีบีซีไอเดีย เมื่อเร็ว ๆ นี้ ถึงเรื่องของการคิดบวกว่าแท้จริงแล้วส่งผลเสียต่อความผาสุกของคนเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในห้วงเวลาที่เกิดสถานการณ์เลวร้าย
บราวน์ยอมรับว่าการมองสถานการณ์เลวร้ายไปในทางบวกและหาข้อดีของมันนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ ซึ่งก็ไม่ต่างจากการรู้สึกปลง
"แต่เมื่อเรารู้สึกว่าตัวเองกำลังล้มเหลวนั่นคือปัญหา และปัญหาของการมองในแง่ดีมันคือการบอกตัวเรา ว่าหากสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปอย่างที่ควร เท่ากับเราประสบความล้มเหลว เราไม่เชื่อมั่นในตัวเองมากพอ และเราควรตำหนิตัวเองเพราะไม่มีทางอื่น และนี่เองที่เป็นพื้นฐานของความผิดพลาด คุณจะต้องมีระบบ ของตัวเองที่จะจัดการเมื่อสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้ดำเนินไปด้วยดี และนั่นคือบททดสอบที่แท้จริงว่าอะไร ๆ ดำเนินไปด้วยดีหรือไม่"
ไม่เป็นไรจริงหรือ
แดเรน บราวน์ เห็นว่าคนเราต้องกล้าเผชิญกับสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความยุ่งยากใจ และจะต้องคิดให้ตกผลึกอย่างเป็นเหตุเป็นผลก่อนจะเอ่ยคำว่า "ไม่เป็นไร" กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่เกิดผลจริง
"ในชีวิตของคนเรานั้นมีทั้งสิ่งที่เราควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ สิ่งที่คุณควบคุมได้มีอย่างเดียวคือความคิด และการกระทำของตัวคุณเอง ส่วนสิ่งอื่น ๆ ที่คนอื่นทำหรือคิดเกี่ยวกับคุณ เขาจะมีชีวิตอย่างไร ทำงานดีแค่ไหน ทำในสิ่งที่คุณต้องการอย่างไร อะไรก็ตามแต่ คุณควบคุมมันไม่ได้เลย"
กลบเกลื่อนเรื่องลบด้วยมุมมองบวก
สเวน บริคมานน์ นักจิตวิทยาชาวเดนมาร์ก ผู้แต่งหนังสือ Stand Firm: Resisting the Self-Improvement Craze เป็นอีกคนที่เห็นว่าเมื่อใดที่เกิดสิ่งเลวร้ายในชีวิต เขาเห็นว่าคนเราสามารถ มีความรู้สึกโศกเศร้าเสียใจได้ แต่ไม่ถึงกับว่าต้องจมจ่อมอยู่กับความทุกข์ตลอดทั้งวัน ในเวลาเดียวกัน ก็ไม่ต้องเปลี่ยนจากทุกข์เป็นสุขในทันที เพราะการทำเช่นนั้นเท่ากับเป็นการบิดเบือนมุมมอง ต่อความเป็นจริง
แดเรน บราวน์ นักเขียนและนักมายากล เป็นคนหนึ่งที่คิดต่าง เขาให้สัมภาษณ์เว็บไซต์บีบีซีไอเดีย เมื่อเร็ว ๆ นี้ ถึงเรื่องของการคิดบวกว่าแท้จริงแล้วส่งผลเสียต่อความผาสุกของคนเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในห้วงเวลาที่เกิดสถานการณ์เลวร้าย
บราวน์ยอมรับว่าการมองสถานการณ์เลวร้ายไปในทางบวกและหาข้อดีของมันนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ ซึ่งก็ไม่ต่างจากการรู้สึกปลง
"แต่เมื่อเรารู้สึกว่าตัวเองกำลังล้มเหลวนั่นคือปัญหา และปัญหาของการมองในแง่ดีมันคือการบอกตัวเรา ว่าหากสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปอย่างที่ควร เท่ากับเราประสบความล้มเหลว เราไม่เชื่อมั่นในตัวเองมากพอ และเราควรตำหนิตัวเองเพราะไม่มีทางอื่น และนี่เองที่เป็นพื้นฐานของความผิดพลาด คุณจะต้องมีระบบ ของตัวเองที่จะจัดการเมื่อสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้ดำเนินไปด้วยดี และนั่นคือบททดสอบที่แท้จริงว่าอะไร ๆ ดำเนินไปด้วยดีหรือไม่"
ไม่เป็นไรจริงหรือ
แดเรน บราวน์ เห็นว่าคนเราต้องกล้าเผชิญกับสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความยุ่งยากใจ และจะต้องคิดให้ตกผลึกอย่างเป็นเหตุเป็นผลก่อนจะเอ่ยคำว่า "ไม่เป็นไร" กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่เกิดผลจริง
"ในชีวิตของคนเรานั้นมีทั้งสิ่งที่เราควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ สิ่งที่คุณควบคุมได้มีอย่างเดียวคือความคิด และการกระทำของตัวคุณเอง ส่วนสิ่งอื่น ๆ ที่คนอื่นทำหรือคิดเกี่ยวกับคุณ เขาจะมีชีวิตอย่างไร ทำงานดีแค่ไหน ทำในสิ่งที่คุณต้องการอย่างไร อะไรก็ตามแต่ คุณควบคุมมันไม่ได้เลย"
กลบเกลื่อนเรื่องลบด้วยมุมมองบวก
สเวน บริคมานน์ นักจิตวิทยาชาวเดนมาร์ก ผู้แต่งหนังสือ Stand Firm: Resisting the Self-Improvement Craze เป็นอีกคนที่เห็นว่าเมื่อใดที่เกิดสิ่งเลวร้ายในชีวิต เขาเห็นว่าคนเราสามารถ มีความรู้สึกโศกเศร้าเสียใจได้ แต่ไม่ถึงกับว่าต้องจมจ่อมอยู่กับความทุกข์ตลอดทั้งวัน ในเวลาเดียวกัน ก็ไม่ต้องเปลี่ยนจากทุกข์เป็นสุขในทันที เพราะการทำเช่นนั้นเท่ากับเป็นการบิดเบือนมุมมอง ต่อความเป็นจริง
บริคมานน์ เคยให้สัมภาษณ์รายการทูเดย์ ที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุเรดิโอ 4 ของบีบีซี โดยแนะว่าคนเราควรหันมาพูดถึงเรื่องที่เป็นลบบ้าง เพราะในความเป็นจริงแล้วมีสิ่งที่เป็นลบอยู่มากมาย เกิดขึ้นบนโลก การจะทำความเข้าใจสิ่งนี้ได้ก็ด้วยการพูดถึงมันอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ควรกลบเกลื่อน ด้วยความคิดที่เป็นบวก
"ผมว่าการมีความสุขกลายเป็นหน้าที่ใหม่ของคนในสังคมไปแล้ว เราจะต้องคิดบวก เราจะไม่มีความสุขไม่ได้ ถ้าเราไม่มีความสุขเราจะทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ผมว่านี่ (การคิดเช่นนี้) เป็นปัญหาใหญ่"
คิดบวกแล้วอายุจะยืน
"ผมว่าการมีความสุขกลายเป็นหน้าที่ใหม่ของคนในสังคมไปแล้ว เราจะต้องคิดบวก เราจะไม่มีความสุขไม่ได้ ถ้าเราไม่มีความสุขเราจะทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ผมว่านี่ (การคิดเช่นนี้) เป็นปัญหาใหญ่"
คิดบวกแล้วอายุจะยืน
อย่างไรก็ดี เมื่อหลายปีก่อน นักวิทยาศาสตร์เคยพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่าการคิดบวกมีผลดีต่อสุขภาพ
ในปี 2002 นักจิตวิทยาชาวอเมริกันศึกษาพบว่าคนที่มองเรื่องการแก่ตัวลงในเชิงบวก เป็นคนที่มีอายุยืนยาวกว่าคนที่มองชีวิตที่ผ่านมาอย่างผิดหวัง โดยคนกลุ่มแรกจะอายุยืนกว่า โดยเฉลี่ยถึง 7.6 ปีนักจิตวิทยาซึ่งศึกษาเรื่องนี้จากข้อมูลของอาสาสมัครอายุ 55 ปีขึ้นไป จำนวน 660 คน เชื่อว่าความคิดลบ ๆ เกี่ยวกับการมีอายุมากขึ้นมีผลโดยตรงต่อความต้องการจะมีชีวิตอยู่ตอไป
ดร.เบ็คกา เลวี แห่งมหาวิทยาลัยเยล ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะนักวิจัยชุดนี้ อธิบายว่าผลดีของการคิดบวก เกี่ยวกับอายุที่มากขึ้นนั้นมีมากกว่าการที่คนเรามีความดันโลหิตหรือคอเรสเตอรอลต่ำ การลดน้ำหนัก การเลิกบุหรี่และออกกำลังกายเสียอีก
เครดิตแหล่งข้อมูล : bbc.com/thai
ดร.เบ็คกา เลวี แห่งมหาวิทยาลัยเยล ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะนักวิจัยชุดนี้ อธิบายว่าผลดีของการคิดบวก เกี่ยวกับอายุที่มากขึ้นนั้นมีมากกว่าการที่คนเรามีความดันโลหิตหรือคอเรสเตอรอลต่ำ การลดน้ำหนัก การเลิกบุหรี่และออกกำลังกายเสียอีก
เครดิตแหล่งข้อมูล : bbc.com/thai
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น