การไหว้พระจันทร์ในราชสำนักชิง

ยามถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ หรือภาษาจีนเรียกว่า "จงชิวเจี่ย" (中秋节) เป็นช่วงที่ประชาชนครึกครื่นทั่วทั้งเมือง มีการทำขนมไหว้พระจันทร์ขายไปทั่วเมืองตั้งแต่ก่อนวันไหว้พระจันทร์ พอถึงวันไหว้พระจันทร์นอกจากจะมีการไหว้บูชาดวงจันทร์แล้ว ยังมีการเลี้ยงฉลองในครอบครัวเป็นหมู่เหล่า ใครๆที่อยู่ไกลบ้านก็เดินทางกลับมาพบหน้ากัน ถือเป็นเทศกาลครอบครัวอันอบอุ่น ถ้าชีวิตนอกวังครึกครื่นถึงขนาดนี้ ราชสำนักแห่งราชวงศ์ชิงมีหรือจะไม่รื่นเริงตาม ในช่วงเทศกาลไว้พระจันทร์ ราชสำนักจีนจะครึกครื่นไม่แพ้นอกวังเลยทีเดียว

ธรรมเนียมการไหว้พระจันทร์ในราชสำนักชิงจะจัดกันอย่างยิ่งใหญ่ และฉลองสนุกสนาน กล่าวจะมีพระราชพิธีบวงสรวงพระจันทร์ หลังจากพิธีหลวงอันขึงขังนี้แล้วก็จะเป็นความสนุกสนานของราชสำนักที่จะ กินขนมไหว้พระจันทร์ ดื่มสุราชมจันทร์ เรียกได้ว่าเบิกบานทั่วทั้งวังเลยทีเดียว

ขนมไหว้พระจันทร์และขนมชนิดอื่นที่ใช้ในพิธีการบวงสรวงต่างๆ


การไหว้พระจันทร์ในราชสำนักชิง

พระราชพิธีบวงสรวงดวงจันทร์นั้นไม่ได้ทำในพระราชวังต้องห้าม แต่จะเสด็จออกไปบูชานอกกำแพงเมือง ตรงประตู ฟู่เฉิงเหมิน (阜成门) ซึ่งเป็นประตูด้านทิศตะวันตกของเมือง โดยจะมีแท่นประรำใหญ่โตบูชาพระจันทร์ตั้งอยู่ ฮ่องเต้จะสวมฉลองพระองค์สีขาวนวล พระประคำรอบพระศอเป็นหินเทอคอยส์ เข็มขัดรัดพระองค์ก็เป็นหยกขาว โดยการบูชาพระจันทร์นั้นจะเสด็จพระราชดำเนินไปยามค่ำ ประมาณ ๖ โมงเย็น ถึง ๑ ทุ่ม การบูชาพระจันทร์นอกจากจะมีของบูชาจำพวกธูปเทียนแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดในวังคือขนมไหว้พระจันทร์จำนวนมาก

ประตู ฟู่เฉิงเหมิน (阜成门)


การไหว้พระจันทร์ในราชสำนักชิง

หลังจากมีการบวงสรวงพระจันทร์เรียบร้อย สิ่งสำคัญที่ทุกคนทั้งวังรอคอยก็มาถึง นั้นคือ รับพระราชทานแจกขนมไหว้พระจันทร์ การทำขนมไหว้พระจันทร์ในวังนั้นเริ่มทำตั้งแต่ก่อนวันงานพระราชพิธีเสียอีก เป็นช่วงเวลาที่กลิ่นหอมจากห้องเครื่องหลวงจะโชยไปทั่วทั้งวัง ผู้ที่จะได้รับพระราชทานขนมไหว้พระจันทร์มีตั้งแต่พระสนมชั้นสูง พระโอรสธิดา เจ้าจอมหม่อมห้ามทั้งปวง เรื่อยไปจนนางข้าหลวงขันทีชั้นล่าง รับกันไปกินอย่างปรีเปรมทั้งวังเลยทีเดียว นอกจากจะกินขนมไหว้พระจันทร์แล้วยังอาจจะมีปูนึ่งแถมมาอีกด้วย เพราะช่วงเวลานี้ปูกำลังตัวโต ดังนั้นจึงเป็นช่วงที่ชาววังทั้งปวงกินขนมไหว้พระจันทร์ไป กินปูไป พร้อมร่ำสุราและชมจันทร์ไป นับว่าเป็นเทศกาลที่ทั้งวังคึกคักที่สุดเทศกาลหนึ่งเลยทีเดียว

การไหว้พระจันทร์ในราชสำนักชิง

พระราชพิธีบวงสรวงพระจันทร์นี้ปรกติแล้วว่าคึกคักสนุกสนานทั่วทั้งวัง พอเข้ามาถึงรัชสมัยพระเจ้าเฉียนหลง ความสนุกสนานนี้ก็ยิ่งทวีคูณ เพราะปรกติแล้ววันไหว้พระจันทร์คือวันที่ ๑๕ เดือน ๘ ตามปฏิทินจันทรคติของจีน แล้วด้วยความที่พระเจ้าเฉียนหลงทรงมีพระราชสมภพในวันที่ ๑๓ เดือน ๘ ก่อนวันไหว้พระจันทร์แค่สองวัน ดังนั้นพระเจ้าเฉียน หลงจึงทรงจัดงานฉลองพระราชสมภพที่ภาษาจีนเรียกว่า "หว่านโซ่วเจี่ย" (万寿节) ควบไปกับงานพระราชพิธีบวงสรวงพระจันทร์เลย ความคึกคักของงานเลยยิ่งทวีคูณขึ้นไปเพราะมีการจัดงานใหญ่พร้อมกันสองงาน โดยจะมีพระราชทานเลี้ยงเชื้อพระวงศ์ ขุนนางข้าราชการทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายใน

พระเจ้าเฉียนหลง


การไหว้พระจันทร์ในราชสำนักชิง

งานพระราชทานเลี้ยงนี้จะว่าไปผู้ที่น่าจะสนุกที่สุดน่าจะเป็นข้าราชสำนักฝ่ายใน เพราะว่าการจัดงานเลี้ยงพระราชทานนี้ พระเจ้าเฉียนหลงทรงจัดเลี้ยงเพื่อถวายพระพรพระมารดาเป็นหลัก มิได้ถวายพระองค์เอง นับตั้งแต่วันพระราชสมภพ จนถึงวันพระราชพิธีบวงสรวงพระจันทร์ พระเจ้าเฉียนหลงจะเสด็จไปถวายพระพรพระมารดาเป็นการพิเศษ หลังจากนั้นก็จะมีการพระราชทานเลี้ยงเชื้อพระวงศ์ ขุนนางข้าราชการทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายใน เพื่อร่วมถวายพระเกียรติแก่พระมารดา มีการรจนากลอนถวายพระพระพันปีหลวง ในราชสำนักชิงการจัดเลี้ยงพระราชทานนี้จะแยกฝ่ายหน้าและฝ่ายในไม่เลี้ยงปะปนกัน แต่ถึงจะไปเลี้ยงปนกัน เหล่านางในก็สนุกสนานได้เต็มที่ เพราะอย่างน้อยนอกจากนางในด้วยกัน อาจจะได้เจอเหล่าหม่อมห้าม พระชายาที่ตามเสด็จพระสามีเข้ามาในวัง ช่วยแต่งเติมสีสันให้คึกคักยิ่งขึ้น ดีไม่ดีใครจะรู้ มารดาหรือญาติพี่น้องผู้หญิงของตนอาจจะเข้ามาในวังด้วยก็ได้ จะได้หายคิดถึงบ้าน

การไหว้พระจันทร์ในราชสำนักชิง

นอกจากจะสนุกตื่นเต้นเพราะการจัดงานควบกันถึงสองงานหลวง ความตื่นเต้นยังมาจากอีกสาเหตุหนึ่งคือการจัดพระราชพิธีในรัชสมัยพระเจ้าเฉียนหลง จะทรงจัดที่นอกกรุงปักกิ่ง โดยจัดในพระราชวังฤดูร้อนเฉิงเต๋อ (承德避暑山庄)ไกลจากกรุงปักกิ่ง โดยพระราชวังจะตั้งอยู่ในมณฑลเหอเป่ยในปัจจุบัน ราชสำนักชิงในช่วงฤดูร้อนมักจะเสด็จย้ายราชสำนักไปประทับในเมืองเฉิงเต๋อซึ่งมีอากาศเย็นสบายกว่ากรุงปักกิ่ง พอถึงรัชสมัยพระเจ้าเฉียนหลงการไปประทับที่พระราชวังแห่งนี้กลายเป็นการเสด็จแปรพระราชฐานทุกปี โดยเริ่มเสด็จไปนับตั้งแต่ปีที่ ๖ ของรัชกาล พระองค์เสด็จไปที่พระราชวังแห่งนี้แทบจะทุกปี กล่าวคือ นับแต่ปีที่ ๖ ของรัชกาลถึงปีที่ ๖๐ ของรัชกาล ในช่วงฤดูร้อนทรงเสด็จไปประทับที่พระราชวังเฉิงเต๋อนี้ถึง ๔๙ ครั้ง และประทับเรื่อยไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วงก่อนที่จะเสด็จไปล่าสัตว์ที่ลานล่าสัตว์หลวงมู่หลาน (木兰围场)

พระราชวังฤดูร้อนเฉิงเต๋อ (承德避暑山庄)


การไหว้พระจันทร์ในราชสำนักชิง

ในระยะเวลา ๔๙ ครั้งที่ทรงประทับในพระราชวังแห่งนี้ ทรงจัดพระราชพิธีเฉลิมพระชนม์พรรษา และพระราชพิธีบวงสรวงดวงจันทร์ในพระราชวังเฉิงเต๋อถึง ๔๘ ครั้ง เรียกได้ว่าช่วงรัชสมัยพระเจ้าเฉียนหลง พระราชวังเฉิงเต๋อกับการไหว้พระจันทร์ดูเป็นของคู่กัน เหล่านางในทั้งหลายทั้งปวงที่อุดอู้อยู่ในวังหลายเดือนหลายปี การได้ตามเสด็จแปรพระราชทานมานอกวังชมนกชมไม้ ชมเทือกเขาลำธารที่เฉิงเต๋อถือว่าเป็นโอกาสอันแสนพิเศษสุด ยิ่งมีการจัดงานฉลองใหญ่ในพระราชวังฤดูร้อนเช่นนี้แล้วสีสันของการไปเที่ยวก็ยิ่งสนุกขึ้นเป็นทวีคูณ

แต่ท่ามกลางความสนุกสนานนี้ก็อาจจะมีความห่อเหี่ยวแฝงอยู่บ้าง เพราะว่าเหล่านางในที่ล้อมรอบด้วยพระราชพิธีและงานฉลองครั้งยิ่งใหญ่ แต่สิ่งหนึ่งที่เหล่านางในไม่ค่อยจะมีโอกาสได้พบนั้นคือคนในครอบครัว ด้วยปรกติเทศกาลไหว้พระจันทร์จะเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า รับประทานอาหารด้วยกัน กระทั่งลูกสาวที่แต่งงานออกไป ก็มีโอกาสกลับไปเยี่ยมบ้านครอบครัวของตน แต่เหล่านางในโดยมากนั้นแทบจะไม่มีโอกาสได้กลับไปพบเจอ


ใครจะรู้ ท่ามกลางงานฉลองมโหราฬของราชสำนัก อาจจะมีใครบางคนน้ำตาตกเพราะคิดถึงบ้านก็ได้

 


การไหว้พระจันทร์ในราชสำนักชิง

ขอบคุณเรื่องราวสาระดีดี จาก คุณ han_bing  สมาชิก >> reurnthai


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์