เรื่องของเฟย เรื่องของหม่อมห้าม

หลายท่านฟังตำแหน่งนางในสมัยราชวงศ์ชิงอาจจะสงสัยว่า ทำไมยศบางยศที่คุ้นหูคุ้นตาดูมีอำนาจมาก กลายเป็นยศเล็กๆ ดังยศ "เฟย" ดูละครจีนอำนาจใหญ่มาก เหตุไฉนในราชวงศ์ชิงจึงดูไม่ได้พิเศษอะไรเท่าไร

เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของจีนมีการเปลี่ยนแปลงคำเรียกยศนางในเรื่อยๆ

ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่างตำแหน่ง "เฟย" (妃:fei) เพราะคนไทยคุ้นหูกับคำนี้มาก เหตุคำๆนี้คนไทยคุ้นหูคงเป็นเพราะเราได้ยินมาทั้งจากนิยายจีนและละครจีน โดยมากจะได้ยินจากคำว่าเรื่องราวของ "หยางกุ้ยเฟย" (杨贵妃) ซึ่งคนเขากล่าวโทษว่าเป็นนางงามล่มชาติแห่งราชวงศ์ถัง


ภาพหยางกุ้ยเฟยในจินตนาการ


เรื่องของเฟย เรื่องของหม่อมห้าม

ตำแหน่ง "เฟย" นี้บางยุคก็เป็นรองแค่ฮองเฮาเท่านั้น แต่บางยุคก็ใช้เรียกนางในทั่วทุกตัวคนว่า "เฟย" แล้วแต่กาลสมัยที่เปลี่ยนไป ขณะเดียวกันก็ใช้เรียกพระชายาเอกของโอรสฮ่องเต้ ซึ่งมียศเป็นหวาง อันหมายถึงกษัตริย์ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

๑. ราชวงศ์โจว มีฮ่องเฮา ๑ พระองค์ เรียกว่า "โฮว่" รองลงมาคือพระสนมยศ "เฟย" สามพระองค์

๒. ราชวงศ์ฉิน คำว่า "เฟย" ใช้เรียกชายาเอกของพระยุพราช ซึ่งพระยุพราชนี้ภาษาจีนเรียกว่า "ไท่จึ" ชายาเอกเรียกว่า "ไทจึเฟย" (太子妃:tai zi fei) หรือบางทีอาจจะเรียกพระยุพราชว่า "ชูจุน" (储君:chu jun) แปลว่า "ว่าที่กษัตริย์" ก็จะเรียกชายาเอกว่า "ชูเฟย" (储妃:chu fei)

นอกจากนี้ ยังใช้เรียกชายาเอกของพระโอรสตำแหน่ง "ชินหวาง" (亲王:qin wang) อันเป็นตำแหน่งเจ้านายพี่น้องร่วมพระมารดากับฮ่องเต้ หรือพระโอรสที่เกิดแต่ฮ่องเฮา หรือพระโอรสของพระยุพราชก็ใช้ได้ พระชายาเอกจะเรียกว่าเฟย

๓. ราชวงศ์เว่ย (魏:wei) ในรัชสมัยพระเจ้าเว่ยหมิงตี้ ตำแหน่งเฟย ตกกระป๋องลง โดยมีการตั้งตำแหน่ง "ซูเฟย" (淑妃:shu fei) มาเป็นยศอันดับ ๔ โดยเป็นรองจากตำแหน่งฮวงโฮว ฟู้เหริน (夫人) และ กุ่ยผิน (贵嫔)และราชวงศ์ จิ้น (晋:jin)

๔. ล่วงมาสู่สมัยราชวงศ์ซ่งและถัง มีการบัญญัติตำแหน่ง "เฟย" ทั้งสี่ อันได้แก่ "กุ่ยเฟย" (贵妃:gui fei) "ซูเฟย" (淑妃:shu fei) "เต๋อเฟย" (德妃:de fei) และ "เสียนเฟย" (贤妃: xian fei) ยศทั้งสี่มีศักดิ์เท่ากัน เป็นรองเพียงฮองเฮาเท่านั้น แต่ก็แน่ละ ใช่ว่าจะเป็นที่โปรดปรานเท่าๆ ไม่เชื่อก็ดูหยางกุ่ยเฟยนั้นเป็นไร แซ่หยาง ยศกุ่ยเฟย แต่บารมีแผ่ทั้งแผ่นดิน (แม้สุดท้ายจะผูกคอตายก็ตาม)

๕. สมัยราชวงศ์หมิง ตำแหน่งเฟย ไม่ได้มีจะมีได้หลายองค์ แต่ละองค์จะมีนามพระราชทาน ลดหลั่นลนลงไปเรื่อยๆ แต่ว่า โดยตำแหน่ง "ฮวงกุ่ยเฟย" (皇贵妃:huang gui fei) เป็นใหญ่ที่สุด มีศักดิ์รองเพียงฮองเฮา เป็นใหญ่เหนือสนมทั้งปวง ลองลงมาก็เป็นตำแหน่ง กุ่ยเฟย แล้ว รองจากตำแหน่งกุ่ยเฟย ยังมีตำแหน่ง "เฟย" อีกเก้าตำแหน่งโดยมีนามพระราชทานให้ทั้งเก้าตำแหน่ง แล้วค่อยลดหลั่นลงเป็นตำแหน่งผิน (嫔) อีกเก้าตำแหน่งซึ่งก็มีนามพระราชทานให้เช่นกัน โดยนามพระราชทานนี้เป็นนามเฉพาะ ตราไว้ในกฎมณเฑียรบาล ไม่ได้ตั้งตามพระราชอัธยาศัย

๖. พอเข้าสู่ราชวงศ์ชิง ในช่วงแรกยศฝ่ายในยังไม่ค่อยแน่นอน แต่พอสู่ยุคพระเจ้าคังซี ยศก็ถูกว่างแน่นอน โดยรองจากตำแหน่งพระจักรพรรดินี "ฮวงโฮว่" คือตำแหน่ง "ฮวงกุ่ยเฟย" โดยมีแค่องค์เดียว ถัดลงมาเป็น "กุ่ยเฟย" มีสองตำแหน่ง ถัดมาจึงเป็นตำแหน่ง "เฟย" สี่ตำแหน่งส่วนนามพระราชทานจะเป็นนามอะไรไม่ได้บังคับไว้ ตั้งได้ตามพระประสงค์

ภาพบน การแต่งการของฮวงกุ้ยเฟยในสมัยราชวงศ์หมิง และภาพล่าง การแต่งกายของฮวงกุ้ยเฟยในสมัยราชวงศ์ชิง


เรื่องของเฟย เรื่องของหม่อมห้าม


เรื่องของเฟย เรื่องของหม่อมห้าม

จากตัวอย่างขั้นต้นจะเห็นได้ว่า ตำแหน่งเฟยในประวัติศาสตร์จีนจะมีขึ้นมีลง แต่อย่างไรก็ตามให้พึงสังเกตุว่า แม้ในประวัติศาสตร์จีนยศเฟยจะขึ้นๆลงๆตลอด แต่ว่ายศนี้จะเป็นยศที่จีนใช้เรียกพระราชินีของกษัตริย์ของประเทศในระบอบบรรณาการของจีนบางประเทศ และประเทศในระบอบบรรณาการเหล่านี้ ก็เรียกพระราชินีของตนว่าเฟยเช่นกัน ตำหลักการกำหนดยศของจีน ไม่ได้เรียกว่า "ฮองเฮา" หรือพระจักรพรรดินีแต่อย่างใด ดังประเทศเกาหลี แต่เดิมเรียกมเหสีเอกของตนว่า "หวางโฮ่ว" (王后: wang hou) แต่พอเข้าสู่ยุคราชวงศ์หยวน เนื่องจากตกอยู่ใต้อำนาจของจีน จึงเรียกพระมเหสีเอกของตนว่า "หวางเฟย" (王妃: wang fei)และเรียกเช่นนี้เรื่อยมา และตามกฎของราชวงศ์หยวนจะสถาปนาให้เป็น "หวางโฮ่ว" ได้ก็ต่อเมื่อพระราชินีพระองค์นั้นสวรรคตแล้ว แล้วถ้าได้รับอนุญาติจากจีน ก็จะสถาปนาใช้ยศ "ฮ่องเฮา" แบบมเหสีของพระจักรพรรดิได้เลย เกาหลีใช้เช่นนี้สืบมาพึ่งมาเปลี่ยนเรียกว่า "ฮวงโฮว่" อันแปลว่าจักรพรรดินีจริงๆจังๆในปี ๑๘๙๕ หลังจากจีนอ่อนอำนาจ และเกาหลีต้องการประกาศตนว่าไม่ขึ้นกับจีน (แต่ถูกยึดครองโดยญี่ปุ่นแทน - และพึ่งสถาปนาตามหลังหลังจากพระนางถูกลอบปลงพระชนม์)

ภาพพระจักพรรดินีของเกาหลี


เรื่องของเฟย เรื่องของหม่อมห้าม

อย่างไรก็ตาม ประเทศในระบอบบรรณาการใช่ว่าทุกประเทศจะไม่กล้าเรียกมเหสีเอกของตนว่า "ฮวงโฮว่" หรือพระจักรพรรดินี มีเรียกอยู่เหมือนกัน แต่ว่าถ้าจะเรียก เรียกกันเองในประเทศ ไม่ได้ใช้เวลาติดต่อกับจีน ดังเช่นประเทศเวียดนาม จะเรียกพระมเหสีเอกว่า "ฮวงโฮว่" อันหมายถึงพระจักรพรรดินีนี แต่เมื่อติดต่อกับจีนจะเรียกว่า "หวางโฮว่"

ภาพพระจักรพรรดินีของเวียดนาม


เรื่องของเฟย เรื่องของหม่อมห้าม

นอกจากคำว่าเฟยจะใช้เรียกพระราชินีของประเทศในระบอบบรรณาการทั้งปวง ยศนี้ยังใช้เรียกตำแหน่งนางห้ามเอกของเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงระดับอ๋อง ด้วย ถ้าสงสัยว่าเป็นเพราะเหตุใด กษัตริย์ครองแผ่นดินก็ไม่ใช่ เป็นแค่เจ้านายธรรมดา ไฉนจึงใช้เยี่ยงกษัตริย์ผู้ครองแคว้นเล่า คำตอบง่ายๆคือ ในแนวความคิดของจีน (รวมถึงในภาคปฏิบัติของราชวงศ์ยุคแรกๆ) เจ้านายผู้เป็นโอรสฮ่องเต้นั้นจะออกไปครองเมือง เป็นกษัตริย์ของแต่ละเมือง แม้ภายหลังจะไม่ได้ออกไปครองเมืองแต่อย่างใด เสด็จประทับอยู่แต่ในเมืองหลวง ก็ยังถือว่าเป็นโอรสของฮ่องเต้นั้นกษัตริย์ครองแผ่นดินอยู่เหมือนเดิม แม้จะครองแค่ในภาคทฤษฎี เรื่องนี้ไม่ได้ต้องกลัวว่าจะแย่งความยิ่งใหญ่ของฮ่องเต้ เพราะฮ่องเต้นี้เป็นราชาธิราช เป็นจอมจักรพรรดิผู้อยู่เหนือกษัตริย์ทั้งปวงอีกที

ภาพการแต่งกายของเจ้านายชั้นสูง และพระชายาเอกในสมัยราชวงศ์ชิง


เรื่องของเฟย เรื่องของหม่อมห้าม

ในสมัยราชวงศ์ชิง จะมีคำเรียกนางห้ามของเจ้านายชั้นอ๋อง นอกเหนือจากคำว่าเฟยแล้วยังเรียกว่า "ฟูจิ่น" (福晋:fu jin) คำนี้แปลว่าภรรยา เป็นภาษาแมนจู ที่เลียนแบบเสียงคำว่าภรรยาในภาษาจีนที่เรียกว่า "ฟูเหริน" (夫人:fu ren) แต่เดิมเรียกเป็นยศนางสนมของฮ่องเต้ด้วย แต่ว่าภายหลังพระเจ้าคังซีกำหนดให้เรียกเฉพาะนางห้ามของเจ้านายโดยจะเรียกตามลำดับความสำคัญดังนี้

๑. ผู้ที่ดำรงตำแหน่งพระภรรยาเอกของเจ้านายจะเรียกง่ายๆว่า "ฟูจิ่น" หรือจะเน้นย้ำให้มันชัดเจนยิ่งขึ้นว่าฉันนั้นเป็นภรรยาเอก แต่งงานเข้ามาโดยถูกกฎหมาย มีศักดิ์ศรีเหนือใคร ก็จะเรียกว่า "ตี๋ฟูจิ่น" (嫡福晋:di fu jin) โดยคำว่า "ตี๋" มาจากคำว่า "ตี๋ชี"(嫡妻:di qi) แปลว่าภรรยาหลวง

๒. พระภรรยารอง เรียกว่า "เช่อฟูจิ่น" (侧福晋:ce fu jin) จริงๆจะพูดตรงๆเรียกว่าอนุภรรยาก็ไม่ผิด แต่พระภรรยารองนี้แม้จะมีได้หลายคน แต่ก็มีศักดิ์สูง เป็นอนุภรรยาที่เป็นที่เกรงอกเกรงใจ มาจากสตรีมีตระกูลที่บังเอิญพบรักแล้วตามกันมาทีหลัง หรือบางทีแต่งกันก่อนแต่ยศไม่สูงเท่าคนมาทีหลังเลยได้เป็นแค่ภรรยารอง คำว่า "เช่อ" มาจากคำว่า เช่อซื่อ(侧室: ce shi) แปลว่าห้องข้างๆ สื่อนัยยะว่าเป็นภรรยารอง ไม่ใช่ห้องประธาน ที่เรียกว่า "เจิ้งซื่อ" (正室: zheng shi)

๓. พระภรรยาบ่าว หรือจะเรียกว่าหม่อมเล็กๆก็ได้ สตรีเหล่านี้เรียกว่า "สู้ฟูจิ่น" (庶福晋: shu fu jin) แปลตรงๆว่า พระภรรยาไพร่ เพราะคำว่า (庶:shu)แปลว่าสามัญชนคนธรรมดา หรือไพร่นั้นเอง หม่อมเหล่านี้พูดจริงๆก็คือเมียบ่าวในบ้าน มีฐานะสูงกว่าบ่าวในวังนิดหน่อย สตรีในตำแหน่งนี้จะได้ตำแหน่งมาเนื่องจาก...ได้ถวายการรับใช้จนโปรดปราน แต่ไม่ได้มีการสถาปนายศแต่อย่างใด ผิดกับสองตำแหน่งแรก ฐานะก็ผิดกันมาก ตำแหน่งพระภรรยาเอกกับพระภรรยารองต่างกันนิดเดียว แต่ตำแหน่งพระภรรยารองกับตำแหน่งหม่อมน้อยๆเหล่านี้ห่างกันสุดฟ้าเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม หากพระภรรยาบ่าวเหล่านี้มีบุญได้เป็นหม่อมเล็กๆของเจ้านายพระยศสูงสุดที่เรียกว่า "ชินหวาง" (亲王:qin wang) ซึ่งจะเป็นเป็นเจ้านายพี่น้องร่วมพระอุทรกับฮ่องเต้ มีพระมารดาเป็นฮ่องเฮา (หรือถ้าพระมารดาไม่ได้เป็นฮ่องเฮาแต่ภายหลังพี่ตัวเองได้เป็นฮ่องเต้ก็โอเค ก็ถูกสถาปนาได้เหมือนกัน) ก็จะมีคำเรียกดีหน่อยว่า "เก๋อเกอ" (格格:ge ge) อันเป็นคำเรียกพระธิดาของเจ้านาย หรือสตรีชั้นสูง

ภาพครอบครัวเชื้อพระวงศ์สมัยราชวงศ์ชิง โดยสตรีใส่ชุดสีเข้มเป็นพระชายาเอก


เรื่องของเฟย เรื่องของหม่อมห้าม

อนึ่ง ในปัจจุบันนี้ ในภาษาจีน เรียกพระราชินีอันเป็นภรรยาของกษัตริย์ว่า "หวางโฮว่" แต่เรียกชายาของพระยุพราช ว่า "ไทจึเฟย" หรือ "ชูเฟย" (储妃: chu fei) ส่วนชายาของโอรสพระยุพราช หรือชายาของเจ้าชายจะเรียกว่า "หวางเฟย" ดังเคท มิดเดลทัน (Kate Middleton )ดัชเชสแห่งเครมบริท ชายาของเจ้าชายวิลเลี่ยม จีนก็เรียกว่า "หวางเฟย" เช่นกัน โดยเรียกว่า "ข่ายเท่อ หมี เต๋อ เอ๋อร์ ตุน หวางเฟย" (凯特•米德尔顿:kai te - mi de er dun wang fei)

อ่านแล้วอย่าพึ่งตกใจ "ข่าย เท่อ - หมี เต๋อ เอ๋อร์ ตุน" เป็นชื่อที่คนจีนเรียกดัชเชสจริงๆ

ยศเฟยนี้ถ้าเป็นคนคงเหนื่อยใจ เพราะขึ้นๆลงๆ ไม่เคยหยุดหย่อน

แต่ส่วนตัวข้าพเจ้าคิดว่า คนดำรงตำแหน่งน่าจะเหนื่อยที่สุด

จริงไหม

ภาพ"ข่ายเท่อ หมี เต๋อ เอ๋อร์ ตุน หวางเฟย" (凯特•米德尔顿:kai te - mi de er dun wang fei)หรือที่ภาษาอังกฤษชื่อว่า Kate Middleton


เรื่องของเฟย เรื่องของหม่อมห้าม


เรื่องของเฟย เรื่องของหม่อมห้าม

ขอบคุณบทความดีดีจาก คุณ han_bing เรือนไทยดอทคอม


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์