ย้อนไปเมื่อ 25 ปีที่แล้ว เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 1991 เลาดาแอร์ เที่ยวบิน 004 บินจากฮ่องกงสู่ออสเตรีย ได้จอดแวะรับ-ส่งผู้โดยสารที่สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ (ตอนนั้นยังไม่มีสุวรรณภูมิ) ในเที่ยวบินนั้นมีผู้โดยสารทั้งหมด 213 ราย และ ลูกเรือ 10 ราย โดยผู้โดยสารส่วนมากเป็นชาวออสเตรียน ฮ่องกง และไทย
เครื่องบินขึ้นในเวลา 23.02 น. แต่หลังจากขึ้นบินได้เพียง 10 นาที กลับเกิดความผิดปกติกับเที่ยวบินนี้ ซึ่งกำลังจะคร่าชีวิตผู้โดยสารทั้งลำในอีกไม่กี่หน้าทีข้างหน้า....
มีสัญญาณเตือนขึ้นในห้องโดยสารว่า มีความผิดปกติเกิดขึ้นที่จะทำให้ Thrust Reverser ทำงานกลางอากาศในขณะกำลังบิน!!
Thrust Reverser คืออะไร? มันคือ ตัวกลับแรงดันไอพ่น ซึ่งเป็นอุปกรณ์ชิ้นส่วนของเครื่องบินที่มีหน้าที่ชะลอความเร็วเมื่อเครื่องบินร่อนลงจอด และ 'มันจะทำงานเมื่อเครื่องลงเท่านั้น"
ในสภาพการทำงานปกติ เครื่องยนต์จะดูดอากาศจากด้านหน้า แล้วก็พ่นออกทางด้านหลังเพื่อขับเคลื่อนเครื่องบินให้เครื่องบินบินไปข้างหน้า แต่ Thrust Reverser หรือตัวกลับแรงดันไอพ่น จะทำหน้าที่ตรงข้าม โดยมันจะทำให้แรงขับอากาศที่จะพ่นออกจากด้านหลังนั้น ย้อนกลับไปข้างหน้าแทน เพื่อชะลอความเร็วของเครื่องยนต์ขณะลงจอด
แต่นี่ Thrust Reverser ข้างซ้าย มันกำลังจะทำงานกลางอากาศ!!
นักบินทั้งสองคนเปิดคู่มือการบินอ่าน แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร จึงนิ่งนอนใจ
จนเวลา 23:17 น. เกิดเสียงดังขึ้น!
Thrust Reverser ข้างซ้ายที่ทำงานกลางอากาศมันทำให้เครื่องบินเริ่มร่วงหล่น ลองคิดดูสิว่า ในขณะที่ข้างหนึ่งทำงานปกติ(ไม่ทำงานขณะบินบนฟ้า)กำลังพ่นอากาศออกด้านหลังให้เครื่องบินบินทะยานไปข้างหน้า แต่อีกข้างกลับทำงานไม่ปกติ(ทำงานขณะบินบนฟ้า)กำลังขับอากาศย้อนไปข้างหน้าเพื่อให้เครื่องยนต์ชะลอความเร็ว
ลองนึกภาพง่ายๆ เมื่อเครื่องยนต์สองข้างทำงานแบบไม่ประสานงานกัน ข้างนึงจะพุ่งหน้า ข้างนึงจะถอยหลัง อะไรจะเกิดขึ้น! มันทำให้เครื่องสูญเสียแรงการบังคับมากขึ้นเรื่อยๆ จนเครื่องรับไม่ไหว
23:07:48 : กัปตันพูดกับนักบินผู้ช่วยเมื่อเห็นข้อความแจ้งเตือนปรากฏบนจอ EICAS (Electronic Indication and Cockpit Alertin System...จอประมวลผลการบินและแจ้งเตือนสภาพเครื่องบิน)
"That keeps that's come on [again]!!!" (ข้อความเตือนได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง)
23:08:52 : นักบินผู้ช่วย "So we past transition altitude - 1013" (เขาแจ้งกัปตันว่า ขณะนี้เครื่องบินได้ผ่านระยะสูงที่จะเปลี่ยนค่าความกดอากาศให้ เป็นมาตรฐาน (1013 มิลลิบาร์) แล้ว)
23:08:54 : กัปตัน "OK"
23:10:21 : กัปตัน "What's it say in there about that? Just ah..." (คาดว่านักบินผู้ช่วยกำลังเปิดคู่มือฉุกเฉินที่เรียกว่า Boeing 767 Quick Reference Handbook อยู่ประมาณ 1 นาทีเศษ จึงถามว่าได้ความอะไรหรือไม่)
23:10:27 : นักบินผู้ช่วยอ่านข้อความในคู่มือด้วยเสียงดัง "Additional system failures may cause in-flight deployment - expect normal reverse operation after landing" (ระบบนี้อาจจะทำงานผิดพลาดโดยจะทำงานในอากาศ - หวังว่าปกติจะทำการ Reverse หลังจากลงสนามบินแล้ว)
23:10:35 : กัปตัน "OK - just....ah let's see...." (กัปตันเอาคู่มือจากนักบินผู้ช่วยไปเปิดดูเอง)
23:11:00 : กัปตัน "OK" (ส่งคู่มือคืนกลับไป)
23:11:43 : นักบินผู้ช่วย (ยังกังวลกับข้อความที่ขึ้นบนจอ EICAS) "Shall I ask the ground staff?" (เขาถามกัปตันว่าเขาควรจะติดต่อสอบถามหน่วยภาคพื้นดินไหม)
23:11:46 : กัปตัน "What's that?" (ถามอะไรหรือ?)
23:11:47 : นักบินผู้ช่วย "Shall I ask the technical men?" (ผมจะถามเจ้าหน้าที่เทคนิคช่างดีไหม)
23:11:50 : กัปตัน (ด้วยความไม่แน่ใจ) "Ah... you can tell'em about it... it's just... Ah no... it's probably... ah water or moisture or something. Because it's just on... it's coming on and off." (เขาคาดเดาว่าบางทีอาจจะมีน้ำหรืออะไรซักอย่างเข้าไปกวนระบบ เพราะข้อความที่ปรากฏบน EICAS มันติดๆ ดับๆ) กรณีไฟเตือน Reverse Isolation Valves ที่ติดขึ้นบนแผงหน้าปัด หรือข้อความ L หรือ R REV ISLN VAL ปรากฏขึ้นบนจอ EICAS ที่นักบินทั้งคู่หารือกัน ปกติไฟเตือนฯ จะเตือนขณะบินก็ได้ ถ้าตัว Sensor จับสัญญาณการไหลของน้ำมันไฮดรอลิกด้านหลังของวาล์ว HIVได้ ซึ่งในคู่มือไม่ได้ระบุว่าต้องแก้ไขอย่างไรบ้าง แค่บอกว่าเป็นไปได้ที่ Thrust Reverser อาจจะกางออกเองขณะบิน โดยไม่ได้ให้คำแนะนำว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป)
23:12:04 : กัปตัน "But... you know it's a ... it's doesn't really... it's just an advisory thing..." (แต่คุณก็รู้ว่ามันไม่จริง มันเป็นเพียงแค่คำแนะนำเท่านั้น)
23:12:19 : กัปตัน (ซึ่งในใจยังกังวลเกี่ยวกับข้อความที่บน EICAS) "Could be some moisture in there or something." (น่าจะมีความชื้นหรืออะไรบางอย่างน่ะ)
23:12:27 : นักบินผู้ช่วย "think you need a little bit of rudder trim to left, eh?" (เขาแนะนำกัปตันจำเป็นต้องปรับพื้นบังคับช่วยของหางเสือเลี้ยวไปทางซ้ายไปเล็กน้อย)
23:12:30 : กัปตัน "What's that?" (อะไรหรือ?)
23:12:32 : นักบินผู้ช่วย "You need a little bit of rudder trim to the left."
23:12:34 : กัปตัน "OK"
อาจเป็นไปได้ว่า เครื่องบินมีอาการเซไปทางขวาเล็กน้อย ซึ่งอาจต้องปรับพื้นบังคับช่วยหางเสือเลี้ยงไปทางซ้ายเล็กน้อย เป็นเรื่องปกติของการบิน และอาจไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ Thrust Reverser กางในอากาศ
23:13:14 : นักบินผู้ช่วยบวกเลขเป็นภาษาเยอรมันเสียงดังอย่างไม่มีความหมายเป็นเวลา 3 นาที 19 วินาที
23:17:01 : นักบินผู้ช่วย "Ah... Reverser's deployed!" (นักบินผู้ช่วยพูดในทันที)
23:17:02 : เสียงโครงสร้างเครื่องบินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
23:17:04 : เสียงโลหะฉีกขาด
23:17:05 : กัปตันส่งเสียงสบถ
23:17:06 : เสียงโลหะฉีกขาด
23:17:08 : เสียงสัญญาณแจ้งเตือนอันตราย 4 โทนเสียง
23:17:11 : เสียงไซเรนอันตรายดัง 1 วินาทีแล้วหยุด
23:17:16 : เสียงไซเรนอันตรายดังอีกครั้ง และดังไปจนสิ้นสุดเทป
23:17:17 : กัปตัน "Here - wait a minute!" (พูดน้ำเสียงท้อแท้สิ้นหวัง ท่ามกลางเสียงโลหะฉีกขาดดังต่อเนื่อง)
23:17:19 : เสียงโลหะฉีกขาด 2 โทนเสียง
23:17:22 : กัปตันสบถ
23:17:23 : เสียงลมรุนแรง และดังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
23:17:25 : เสียงเทปสั่นระรัว ไม่สามารถได้ใจความ
23:17:27 : กัปตันส่งเสียงที่ไม่เข้าใจความหมาย
23:17:28 : เสียงดังหลายเสียงเกิดขึ้นจนสิ้นสุดเทป
23:17:30 : สิ้นสุดเทป
ไม่กี่วินาทีต่อจากนั้น เครื่องบินหมุนพลิกตัว ก่อนจะฉีกออกเป็นส่วนๆ กลางอากาศที่ระดับความสูง 1,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ระเบิดกลางอากาศ และตกลงเหนือพื้นที่ป่าและภูเขาบริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัดอุทัยธานีและจังหวัดสุพรรณบุรี ปัจจุบันคืออุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี
ไม่มีผู้รอดชีวิตแม้แต่รายเดียวจากเหตุการณ์นี้
การค้นหาร่างผู้เสียชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบากมาก เนื่องจากพื้นที่ตรงนั้นเป็นป่าทึบ การจะเข้าถึงต้องใช้เวลานานและเป็นไปอย่างยากลำบาก และเมื่อได้ยินข่าวร้ายนี้ นิกิ เลาดา เจ้าของสายการบินก็บินมาดูเหตุการณ์ด้วยตัวเอง