ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการเกิดหรือการตายก็ล้วนแต่เป็นสาเหตุให้มีโลหิตตกต้องพระบรมมหาราชวัง เมื่อเป็นเช่นนี้ในอดีตเจ้าพนักงาน ข้าหลวงฝ่ายในหากท้องได้5เดือนแล้วจะต้องทูลลาออกจากวังหลวงทันที หรือหากพบว่าป่วยหนัก ชราภาพมากก็จะต้องทูลลาออกจากวังหลวงในทันทีเช่นกัน หากมีการเกิดและการตาย เกิดขึ้นภายในวังหลวงแล้วจะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่จะต้องมีพิธีทางไสยศาสตร์ใหญ่โตเลยทีเดียว โดยพิธีนี้มีชื่อว่า"พิธีกลบบัตรสุมเพลิง" โดยพราหมณ์ในราชสำนักเป็นผู้ทำพิธี เพื่อเป็นการแก้เสนียดจัญไรหรืออัปมงคล เพื่อเป็นการถอดถอนดวงวิญญาณของผู้ตายที่สิงสถิตอยู่ให้ออกไปจากเขตวังหลวง
จดหมายเหตุในสมัยรัชกาลที่4 กล่าวถึงเรื่องการกลบบัตรสุมเพลิงไว้ว่า การวิวาทตบตีฟันแทงกันจนตายให้โลหิตตกในพระราชวังก็ดี แลหญิงสาวใช้ทาสผู้ใดคลอดแท้งลูกในพระราชวังก็ดี ให้ตั้งโรงพิธี4 ประตู บายศรี4สำรับ ไก่ประตูละคู่ โยงด้ายให้รอบพระบรมหาราชวัง นิมนต์พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์3วัน ให้มีระบำ พิณพาทย์ ฆ้อง กลอง ดุริยางค์ประโคมทั้ง4ประตู ครั้นเสร็จพิธีแล้วให้จัดมหรสพ วงละครเสีย ให้เอาไก่นั้นไปปล่อยนอกกำแพงเมือง ให้มันพาเสนียด จัญไร ภัย อุบาทว์ ชั่ว ไปพ้นพระนคร
ตัวอย่างการตายของสามัญชนตามจดหมายเหตุสมัยรัชกาลที่6 ตอนหนึ่งที่ว่าเวลา 2.00เป็นเวลาฝนตก นายจ่าตรีเขียนจากกรมยุทธศึกษาทหารเรือ เดินเลียบกำแพงวังเข้ามาเกรงว่าตนจะเปียกฝนจึงถอดเครื่องแบบออกแล้วเข้าไปหลบอยู่ใกล้ซุ้มประตูสวัสดิโสภา แต่บังเอิญฟ้าผ่าลงมาที่ซุ้มประตูนั้นจนแตกออกเป็น3เสี่ยง บางส่วนตกลงมาทับจ่าเขียนจนตายรุ่งขึ้น"เวลา6.00พราหมณ์ได้ตั้งพิธีกลบบัตรสุมเพลิงที่หน้าประตูสวัสดิโสภาตามประเพณี ณ วันนี้ที่12พฤษภาคม พ.ศ.2462