ตำนานได้กล่าวไว้ว่า อียิปต์ไม่เคยสร้างหญิงใดงามได้เท่าพระนางเนเฟอร์ติติซึ่งเป็นผู้สม บูรณ์แบบด้วยพระสิริโฉมอันงดงาม สวมมงกุฎสูง และโกนพระเกศาเพื่อป้องกันเหาโรคร้าย และความร้อนของอียิปต์ เรื่องราวชีวิตของพระนางเนเฟอร์ติติ อาจเริ่มต้นจากในยุครุ่งเรือง ณ พระราชวังมัลกาต้าที่ งดงามที่สุดในอียิปต์โบราณและเป็นที่ประทับของฟาโรห์ เนเฟอร์ติติเติบโตในพื้นที่แห่งนี้ ท่ามกลางนางสนมประมาณ 500 คน ฮาเร็มอันกว้างใหญ่ของอะเมนโฮเทปที่สอง หนึ่งใน ฟาโรห์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอียิปต์ซึ่งพระมเหสีราชินีไทยี่เลือกหญิงสาวจากฮาเร็มแห่งนี้มาเป็น พระชายาให้พระโอรสและผู้ที่ถูกเลือกนั้นคือเนเฟอร์ติติ ส่วนทุทโมซิส องค์รัชทายาท สิ้นพระชนม์ตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้อัคนาเต็นพระสวามีของ พระนางเนเฟอร์ติติกลายมาเป็นผู้สืบทอดบัลลังค์อียิปต์ จากวันที่พระองค์ขึ้นครองราชย์ ความ เครียดเริ่มเพิ่มมากขึ้นในหมู่นักบวชชั้นสูงซึ่งพวกเขาเปรียบเสมือนผู้ปกป้องเทพที่สำคัญที่สุด ของอียิปต์ที่เรียกว่า ลัทธิอามุน และอำนาจของพวกเขายิ่งใหญ่เทียบได้กับฟาโรห์ พวกเขาคือชนชั้นสูงแต่เดิม มีหัวอนุรักษ์ เป็นเพศชาย มีระเบียบวิธีคิดและมีฐานะร่ำรวยมาก
ซึ่งในขณะนั้นฟาโรห์และพระชายาเนเฟอร์ติติสาบานว่าจะลิดรอนอำนาจของพวกเขาและดำเนิน การต่อสู้ที่ใจกลางฐานอำนาจของลัทธิอามุนในวิหารคาร์นัค โดยการสร้างอนุสาวรีย์ให้ยืนตระหง่านบดบังวิหารคาร์นัค สำหรับนักบวชอามุนการสร้างสิ่งนี้ ถือเป็นการละเมิดกฎที่ร้ายแรงที่สุด นอกจากนั้นเนเฟอร์ติติยังสร้างวิหารแห่งดวงอาทิตย์ถวาย แด่เทพอะเต็น นักบวชมองว่าวิหารแห่งดวงอาทิตย์เป็นการลบหลู่ และเป็นภัยต่ออำนาจของเขา ทำให้พวกนักบวชเริ่มคิดแผนเพื่อทำลายแผนโค่นอำนาจของฟาโรห์และราชินี พระองค์ทรงตัดสินใจดำเนินการในสิ่งที่แปลกใหม่ ทั้งคู่ตัดสินใจละทิ้งธีบส์ ซึ่งเคยเป็นเมือง หลวงของอียิปต์มานานหลายร้อยปี และออกมุ่งหน้าไปในทะเลทราย พระองค์ทรงแสวงหาที่ ี่สร้างเมืองหลวงแห่งใหม่ ที่ปลอดภัยและห่างไกลศัตรู มันคือฐานสำหรับการปฏิวัติ ซึ่งการ ปฏิวัติครั้งนั้นทำให้พระนางเนเฟอร์ติติกลายเป็นหญิงผู้มีอำนาจสูงสุดในโลกพวกเขาเริ่มต้น วางผังเมืองแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์อียิปต์ เมืองที่ออกแบบมาเพื่อบูชา ดวงอาทิตย์ คนนับพันหลั่งไหลตามฟาโรห์และพระชายาเข้ามาในที่แห่งนี้ มันถูกเรียกว่า "อะมาร์น่า" และเมืองแห่งนี้ถือว่าเป็นเป็นเมืองที่ถูกวางแผนไว้อย่างดีแห่งแรกของโลก พระนางเนเฟอร์ติติเป็นคนที่มีระยะห่าง เย็นชาและโดดเดี่ยว ใช้คนรอบตัวตามวิธีที่พระนาง มองว่าเหมาะสม ความสามารถของเนเฟอร์ติติในการใช้ประโยชน์จากสถานการณ์รอบตัวดู เหมือนจะได้รับการยืนยันหลังจากปีที่คิย่าหายตัวไป การตอบสนองของพระนางต่อวิกฤตินั้น มาในจังหวะเหมาะ ในปีที่ 12 ของการครองราชย์ของอัคนาเต็น มีเหตุการณ์พิเศษเกิดขึ้น ในอะมาร์น่า งานฉลองครั้งยิ่งใหญ่ เรียกว่า เดอร์บาร์ ภาพที่แขกได้เห็นนั้น ไม่เคยปรากฏ มาก่อนเนเฟอร์ติติเคียงข้างพระสวามี มิใช่เยี่ยงราชินี หากเป็นผู้ปกครองร่วม เสมอภาคกัน พระนางกลายเป็นหญิงที่ทรงอำนาจที่สุดในโลก
ในปีที่ 14 พระนางเนเฟอร์ติติก็หายไปจากบันทึก นักอียิปต์วิทยาบางคนเชื่อว่าพระนางสิ้น พระชนม์เพราะโรคระบาด หลายคนคิดว่าพระนางพ่ายแพ้ให้กับศัตรูเพศชาย ที่มีชื่อว่า สเมนคาเร่ ซึ่งมีชื่อมาแทนที่พระนางในบันทึก และตัวละครลึกลับผู้นี้ได้กลายมาเป็นผู้ครอง บัลลังค์ร่วมกับอัคนาเต็น และสืบทอดตำแหน่งฟาโรห์องค์ถัดมา พระองค์สิ้นพระชนม์อย่างไร เราคงทำได้เพียงคาดเดา นักบวชแห่งอามุนปลงพระชนม์ หรือไม่เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเนเฟอร์ติติในตอนนั้น มันเป็นปริศนาที่อาจใกล้ถึงเวลาไข