เรื่องเล่าชีวิตในวังหลวงของ**พระราชชายาเจ้าดารารัศมี**
อย่างต่ำต้อยด้อยหน้าเมื่อพูดถึง "ลาว" แล้ว เจ้าจอมหม่อมห้ามคงเข้าใจว่า สมเด็จพระปิยมหาราชก็คงจะทางเห็นด้วยกับการกระทำกลั่นแกล้งหยามเหยียดต่างๆ ที่พวกเธอทั้งหลาย
มีต่อพระราชชายาหรือ "อึ่ง" ของพระองค์ ซึ่งวิธีการเล่นสกปรกต่างๆ ก็ทำให้พระราชชายาทรงรู้สึกกลัดกลุ้มรุ่มร้อนพระทัยเป็นยิ่งนัก
พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ทรงมีขันติอดทนอย่างน่าชมเชย พระองค์ท่านมิได้ทรงแพร่งพราเรื่องราวอะไรต่างๆ นานาให้สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงทราบเลย นอกจากบุคคลที่ใกล้ชิดยุคลบาทเพียงไม่กี่คน อาทิ คุณประภาส สุขุม ธิดาของเจ้าพระยายมราช เป็นต้น ข้ารับใช้จากฝ่ายเหนือก็มี แม่เขียว - เจ้าบึ้งหรือเจ้าหญิงบัวระวรรณ ณ เชียงใหม่ ผู้เป็นคู่ทุกข์คู่ยากของพระองค์แท้จริง
หลายครั้งที่พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ทรงเหนื่อยหน่ายต่อชีวิตอันไม่เที่ยงแท้แน่นอนพระองค์ท่านมิได้ทรงคาดคิดมาก่อนว่า ขนาดพระองคท่านเป็นถึงพระธิดาของเจ้าผู้ครองนครที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ เป็นพระธิดาองค์เดียวที่เจ้าพ่อโปรดปรานที่สุด จะเรียกร้องต้องการสิ่งใดเป็นได้สมพระประสงค์ทุกสิ่งอัน ทรงจับจ่ายใช้สอยเงินทองได้อย่างเต็มที่ และทรงมีข้าราชบริพารรับใช้ปราศจากอนาทรร้อนใจ เหตุไฉนพระองค์จึงต้องทรงตกระกำลำบากเมื่อมาประทับในพระราชวังหลวง ซึ่งควรจะอบอุ่นหฤหรรษ์ ด้วยความรักยิ่งยวดที่สมเด็จพระปิยมหาราช ราชสวามีทรงมีต่อพระองค์
พระราชชายาบ่นกับผู้ใกล้ชิดว่า พระองค์ใคร่จะเสวยลำโพง (มะเขือบ้า) เป็นคนวิกลจริต แล้วทางกรุงเทพฯจะได้ส่งกลับนครเชียงใหม่บ้านเกิดให้รู้แล้วรู้รอด จะได้พ้นจากความลำบากยากแค้นเสียที และผู้ใกล้ชิดของพระองค์ได้ทัดทานไว้ว่าขอให้อดใจรอจนกว่าเหตุร้ายจะกลายเป็นดีในวันหนึ่ง ว่ากันว่าเจ้าจอมแส (ข้าหลวงของพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์หรือพระนางเรือล่ม) ที่โดยลำดับเครือญาติเป็นน้องหม่อมของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เคยยั่วเย้าพระราชชายาเจ้าดารารัศมว่าหน้าอกไม่สวย ซึ่งพระองค์ท่านก็มิได้ทรงตอบโต้ว่ากล่าวประการใด
ถูกอังกฤษฮุปเอาเพราะประเทศอังกฤษในเวลานั้น ได้กลืนเอาภาคเหนือของประเทศพม่าเข้าไว้โดยเรียบร้อยยกให้เป็มณฑลหนึ่งของอินเดีย นักการเมืองของอังกฤษผู้แสวงประโยชน์จากความเป็นทาสของชาวเอเชียกำลังจ้องมองดูหัวเมืองฝ่ายเหนือด้วยความพิสมัยใคร่ตะครุบเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้เองสมเด็จพระปิยมหาราชจึงทรงว่ากล่าวตักเตือนบรรดเจ้าจอม หม่อมห้ามพระสนมกำนัลให้ยุติการกลั่นแกล้งทำพิเรนต่างๆ กระทบกระเทือนพระทัยพระราชชายาโดยเด็ดขาด
แล้วก็โดยไม่นึกไม่ฝันเช่นเดียวกัน ดังภาษิตอังกฤษว่า " ภายหลังพายุร้ายก็ถึงซึ่งความสงบ" พระราชชายาเจ้าดารารัศมีก็ผ่านยุคเข็ญทารุณทางจิตใจและไม่มีผู้ใดกล้ากลั่นแกล้งทำให้เสียชื่อเสียงอีกเลย บุคคลที่ตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับท่านกลับยิ้มแย้มแจ่มใสผูกสนิทชิดชอบและเป็นญาติดี ทั้งนี้รวมทั้งเจ้าจอมแสอีกคนหนึ่ง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 นับว่าทรงมีพระคุณต่อพระราชชายาอย่างยิ่ง เป็นที่ทราบกันภายหลังว่า พระองค์มิได้ทรงเชื่อหรือสนพระทัยกับการยุยงส่งเสริมจากพระสนมกำนัลเลย พระองค์ท่าทรงทราบดีว่าคุณธรรมของเจ้านายฝ่ายเหนือนั้นสูงส่งเกินกว่าที่จะมาทำเสื่อมเสียเกียรติยศชื่อเสียงของราชวงศ์ ลักขโมยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ดุจดังที่พระราชชายาโดนกล่าวหามาแต่แรก