ตำนานวัดพนัญเชิง พระเจ้าสายน้ำผึ้งและเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก
ครั้นเมื่อเด้กชายหัวหน้าสั่งการใด ๆ เด็กคนอื่น ๆ ก็จะปฏิบัติตาม ราวกับว่าเป็นคำสั่งจากกษัตริย์จริง ๆ วันหนึ่งเด็กชายหัวหน้าใหญ่โกรธเพื่อนคนหนึ่งมาก ได้ออกคำสั่งให้ทหารนำตัวไปประหาร ซึ่งทหารปลอมทั้งหลายก็นำเด็กคนนั้นไปประหารจริง ๆ โดยใช้ไม้ไผ่ฟันเข้าที่คอ ปรากฏว่า.....เมื่อฟันแล้ว คอของเด็กคนนั้นขาดจริง ๆ เป็นที่อัศจรรย์ เด็ก ๆ ทุกคนเลยยิ่งเชื่อกันว่าตัวหัวหน้านั้นมีบุญญาธิการและ บารมีจริง ๆ
ขณะนั้น เสนาอำมาตย์จากกรุงศรีอยุธยาได้นำเรือสุพรรณหงส์ซึ่งบรรทุกเครื่องราชกกุธภัณฑ์ผ่านมาที่แม่น้ำใกล้ ๆ บริเวณนั้น ปรากฏว่าเรือสุพรรณหงส์ได้หยุดนิ่ง ไม่ยอมแล่นต่อ ไม่ว่าจะแก้ไขปรการใด ดังนั้นเหล่าเสนาอำมาตย์จึงได้เชิญ โหรหลวงที่เดินทางมาในเรือด้วย ให้ช่วยทำนายเสี่ยงทายดู ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น
นัยว่าในเวลานั้น กรุงศรีอยุธยา ได้ขาดกษัตริย์ปกครอง เรือที่แล่นมานั้นก็ได้อันเชิญเครื่องราชกกุธภัณฑ์เพื่อมาอัญเชิญผู้มีบุญญาธิการขึ้นเป็นกษัตริย์ โหรหลวงจึงได้ให้ทหารออกเดินดูบริเวณริมท่าน้ำโดยรอบเรือสุพรรณหงส์นั้น
ซึ่งก็ปรากฏแต่เหล่าเด็กเลี้ยงวัว ที่มีหัวหน้าแสดงเป็นกษัตริย์อยู่หมู่เดียวเท่านั้น เสนา อำมาตย์ และโหรหลวงจึงได้อัญเชิญ หัวหน้าเด็กเลี้ยงวัวนั้นขึ้นเป็นกษัตริย์ และเหล่าบรรดาเพื่อนที่เล่นเป็นเสนา อำมาตย์นั้น ให้เป็นเสนา อำมาตย์ ตามตำแหน่งที่เล่นทุกคน บริเวณนั้น จึงได้ชื่อว่า " บ้านเด็กเล่น " นับแต่นั้นมา
เวลาล่วงมาอีกหลายปี พระเจ้ากรุงจีน มีธิดาซึ่งมีพระศิริโฉมงดงามมากอยู่องค์หนึ่ง ชื่อ พระนางสร้อยดอกหมาก ครั้นล่วงเข้าสู่วัยที่ควรออกเรือน พระเจ้ากรุงจีนจึงให้โหรหลวงมาตรวจสอบดวงชะตาของพระธิดา ได้ความว่า เนื้อคู่ของพระนางนั้น อยู่ทางทิศตะวันตก คือ ทางกรุงศรีอยุธยา พระเจ้ากรุงจีนจึงได้ส่งราชทูตและเครื่องบรรณาการมายังกรุงศรีอยุธยาเพื่อประสานพระราชไมตรี และมีพระราชสาสน์ยกพระธิดา พระนางสร้อยดอกหมาก ให้เป็นพระชายา
ครั้นพระเจ้ากรุงศรีอยุธยา ทรงทราบความก็ทรงดีพระทัย พร้อมกับได้ส่งสาสน์ตอบรับและส่งเครื่องราชบรรณาการตอบแทนเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งกล่าวว่าจะทรงเสด็จไปรับ พระนางสร้อยดอกหมาก ด้วยพระองค์เอง
เมื่อราชทูตจีนกลับไปแล้ว พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา ได้ทรงสั่งให้จัดเตรียมขบวนเสด็จพยุหยาตราทางชลมารค แล้วทรงลงเรือพระที่นั่งเสด็จไปรับ พระนางสร้อยดอกหมาก
ครั้นเรือพระที่นั่งแล่นมาถึงแหลมวัดปากคลอง พระองค์ได้ทรงทอดพระเนตรเห็นรังผึ้ง จับอยู่ที่อกไก่หน้าบันพระอุโบสถ พระองค์จึงทรงตั้งจิตอธิฐานต่อพระประธานในอุโบสถว่า ถ้าหากพระองค์มีบุญญาธิการและพระบารมีที่จะทรงปกครองไพร่ฟ้าประชาชนให้อยู่เย็นเป็นสุ๘ได้ ก็ขอให้น้ำผึ้งนั้นได้ไหลย้อยลงมาสู่เรือพระที่นั่งด้วย ครั้นสิ้นพระสุรเสียงตรัส น้ำผึ้งก็ไหลย้อยลงสู่เรือพระที่นั่งเป็นที่อัศจรรย์แก่เหล่าบรรดาเสนา อำมาตย์ และพระเถราจารย์ทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง จึงพร้อมใจกันสวด
พระเจ้ากรุงจีนทรงเห็นว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้งนั้นช่างมีบุญบารมีมากจริง ๆ จึงทรงจัดขบวนแห่แหน มารับเสด็จ พระเจ้าสายน้ำผึ้ง อย่างยิ่งใหญ่ และทรงจัดงานอภิเษกสมรสให้ พระเจ้าสายน้ำผึ้ง และ พระนางสร้อยดอกหมาก พร้อมทั้งจัดขบวนเรือติดตามและเรือสำเภาใหญ่ บรรทุกเครื่องอุปโภกบริโภคจำนวนมาก เพื่อติดตาม พระ
พระเจ้าสายน้ำผึ้ง นั้นได้เดินทางหลายสิบวันพร้อมด้วย พระนางสร้อยดอกหมาก จนมาถึงกรุงศรีอยุธยา ด้วยพระบารมีจึงทรงเดินทางได้สะดวกเรียบร้อย พระสงฆ์และเหล่าเสนาบดีพร้อมทั้งพสกนิกรต่างพากันยินดี ออกมารับเสด็จจำนาวนมาก ก่อนที่ พระเจ้าสายน้ำผึ้ง จะเสด็จ จากเรือพระที่นั่งเข้าสู่พระราชวังหลวง พระองค์ทรงรับสั่งให้ พระนางสร้อยดอกหมากประทับคอยที่เรือพระที่นั่งกลางน้ำ เพื่อว่าพระองค์จะได้ตกแต่ง จัดเตรียมพระตำหนักให้สวยงามก่อน
เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระเจ้าสายน้ำผึ้ง ทรงรับสั่งให้เสนาอำมาตย์ เข้าไปทูลเชิญเสด็จ พระนางสร้อยดอกหมาก เข้าสู่พระราชวัง แต่พระนางสร้อยดอกหมาก นั้นมีความน้อยพระทัย ที่ทรงรอนแรมมาจากเมืองจีนหลายสิบวันด้วยความยากลำบาก และทรงประทับแรม รออยู่ในเรือพระที่นั่งอีกหลายวัน แต่ไฉน พระเจ้าสายน้ำผึ้ง ไม่ทรงเสด็จออกมารับด้วยพระองค์เอง ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว ถ้าพระองค์ไม่เสด็จออกมารับ ก็จะไม่ไป
เหล่าเสนา อำมาตย์ที่เข้าไปทูลเชิญ ได้นำความมาทูลต่อ พระเจ้าสายน้ำผึ้ง เมื่อพระเจ้าสายน้ำผึ้ง ทรงทราบดังนั้น ก็ทรงเห็นเป็นขบขัน ทรงตรัสหยอกล้อเล่นว่า " มาถึงแล้วไม่ขึ้นมา จะอยู่ที่นั่นก็ตามใจเถิด " พระนางสร้ยดอกหมาก ได้ทราบความดังนั้น ก็สำคัญว่าจริง จึงทรงเศร้าโศรกพระทัยมาก วันต่อมา พระเจ้าสายน้ำผึ้ง ก็เสด็จออกไปรับด้วยพระองค์เอง พระนางก็ตัดพ้อว่า ไม่ไป พระเจ้าสายน้ำผึ้งทรงสัพยอกอีกครั้งว่า ำม่ไปก็อยู่นี่เถิดCr::sarakadee.com