ไม่ต้องสืบหาที่มา!! 10 ผลงานชิ้นเอกของ “วินเซนต์ แวน โกะห์” ศิลปินชีวิตรันทด
หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง ตำนานโลก ไม่ต้องสืบหาที่มา!! 10 ผลงานชิ้นเอกของ “วินเซนต์ แวน โกะห์” ศิลปินชีวิตรันทด
ฟินเซนต์ ฟัน โคค หรือที่พี่ไทยเราเรียกกันติดปากว่า วินเซนต์ แวน โกะห์ จิตรกรชาวดัตช์ที่มีชื่อเสียง และมีอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตก ในระยะเวลาสิปกว่าปี เขามีผลงานกว่า 2,100 ชิ้น! ทั้งภาพวิว ภาพคน มีหมด! แม้กระทั่งภาพตัวเอง วันนี้เราจะพาไปดู 10 ผลงานชิ้นเอก ของแวนโกะห์ จะสวยงามขนาดไหน ลองไปดูกันเลย
10 ผลงานชิ้นเอกของ วินเซนต์ แวน โกะห์
Almond Blossoms (1890)
ช่วงต้นของปี 1890 น้องชายของแวนโกะห์ ธีโอ ได้ให้กำเนิดลูกชาย Vincent Willem van Gogh และแวนโกะห์ได้วาดภาพนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นของขวัญให้กับหลานชายคนนั้น ซึ่งในภายหลังได้กลายมาเป็นคนผลักดันให้สร้างพิพัธภัณฑ์แวนโกะห์ ที่กรุงอัมสเตอร์ดัมขึ้นมานั่นเอง สภาพนี้ได้อิทธิพลจากศิลปะญี่ปุ่น ที่แวนโกะห์ชื่นชอบเป็นอย่างมาก
Wheatfield with Cypresses (1889)
แวนโกะห์ได้วาดรูปนี้ข้นมาถึง 3 เวอร์ชั่น และที่เราเห็นคือ เวอร์ชั่นที่ดีที่สุด ภาพแรกที่เขาวาดวาดขึ้นในปี 1889 และด้วยความที่เขาเป็นคนที่ชื่นชอบธรรมชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะทุ่งหญ้า ทุ่งนา ทำให้เขารู้สึกว่า นี่คือภาพวิวทิวทัศน์ที่ดีที่สุดตั้งแต่เขาวาดรูปมา ปัจจุบันภาพนี้อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทันในเมืองนิวยอร์ก
Bedroom in Arles (1888)
ภาพนี้เป็นที่รู้จักกันในนามของ Bedroom by Vincent แวนโกะห์ได้วาดภาพนี้ขึ้นมาถึง 3 ภาพ และปัจจุบันแต่ละภาพก็อยู่กันคนละที่ คนละเมือง เขาวาดภาพแรกขึ้นมาเมื่อเดือนตุลาคม ปี 1888 หลังจากที่เพิ่งย้ายเข้าไปอยู่ใน Yellow House ในเมือง Arles ประเทศฝรั่งเศส แต่ต่อมาได้เกิดน้ำท่วม ทำให้ภาพที่วาดได้รับความเสียหาย เขาจึงวาดภาพนี้ขึ้นมาเป็นภาพที่สอง ในเดือนกันยายน ปี 1889 และต่อมาก็ได้วาดภาพเล็กขึ้นมาอีกภาพ (ภาพข้างต้น) เพื่อเป็นของขวัญให้แม่กับน้องสาว
The Potato Eaters (1885)
ภาพของครอบครัวชาวนาที่กำลังกินมัน ซึ่งเป็นภาพคุ้นตาของแวนโกะห์ เมื่อเขาได้ย้ายมาอยู่กับครอบครัวชาวนา ในหมู่บ้านชาวดัตช์แห่งหนึ่ง หลังจากที่เขาออกเดินทาง เพื่อวาดภาพด้วยความสิ้นหวังและอ้างว้าง ภาพที่เขาวาดจึงเต็มไปด้วยความหม่นเศร้า ด้วยการใช้สีเข้ม ไม่มีชีวิตชีวา ซึ่งภาพ "คนกินมัน" นี้สะท้อนถึงความยากลำบากของกรรมกรในยุโรปในสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี
Self-Portrait with Bandaged Ear (1889)
รูปวาดตัวเองของแวนโกะห์ถือเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ตลอดชีวิตเขาได้วาดภาพตัวเองมากถึง 30 ภาพ และภาพนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในภาพที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นภาพตัวเองที่เขาวาดหลังจากที่โดนตัดหู แต่สาเหตุยังเป็นที่ถกเถียงกันมาจนถึงทุกวันนี้ บ้างก็ว่าเขาตัดหูตัวเองเพราะเสียสติ แต่อีกฝ่ายก็บอกว่าเป็นฝีมือของ พอล โกแกง ศิลปินอีกคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น เหตุเพราะทะเลาะกันแย่งโสเภณี จากภาพที่เห็นว่าเป็นหูขวาที่หายไป แต่จริงเป็นหูซ้าย แต่เขาส่องกระจกวาดเลยได้ภาพเช่นนี้
Cafe Terrace at Night (1888)
เป็นภาพแรกที่ฉากหลังเป็นภาพของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว และถึงจะเป็นภาพของตอนกลางคืน แต่ก็ไม่มีการใช้สีดำเลยแม้แต่นิดเดียว และที่สำคัญในปัจจุบันคาเฟ่แห่งนี้ยังคงเปิดให้บริการอยู่จนถึงทุวันนี้ โดยใช้ชื่อว่า คาเฟ่แวนโกะห์ (Café Van Gogh)
Portrait of Dr. Gachet (1890)
เป็นภาพของนายแพทย์ชาวฝรั่งเศส ‘กาแช' ที่เมืองโอแวร์ซูว์รวซ ใกล้กรุงปารีส ที่ดูแลแวนโกะห์ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ที่มี ต้นถุงมือจิ้งจอก ซึ่งเป็นพืชที่ใช้รักษาโรคหัวใจบางประเภท อยู่บนโต๊ะข้างหน้า เป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นว่า ผู้ชายคนนี้เป็นแพทย์ แวนโกะห์วาดภาพนี้ขึ้นมาสองภาพ ซึ่งทั้งสองภาพจะมีการใช้สีที่แตกต่างกัน และหลังจากที่แวนโกะห์เสียชีวิตลง ภาพแรก (ภาพข้างต้น) ก็ได้ถูกขายต่อกันไปหลายทอด และในปัจจุบันก็ไม่แน่ใจว่าอยู่ที่ใคร แต่อีกภาพหนึ่งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ออร์แซ ในกรุงปารีส
Irises (1889)
แวนโกะห์เริ่มวาดภาพนี้เป็นภาพแรก หลังจากที่เขาต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในสถานบำบัด เป็นภาพของดอกไม้ในสวนภายในสถานบำบัดที่เขาได้รับอนุญาตให้ออกไปนั่งเล่น เดินเล่นได้ เขาเรียกงานชิ้นนี้ว่าเป็น "สายล่อฟ้าของความเจ็บป่วย" (the lightning conductor for my illness) เพราะเขาเชื่อว่าการวาดภาพไปเรื่อย ๆ อาจจะเป็นวิธีป้องกันอาการคลุ้มคลั่งของเขาได้ ต่อมาในปี 1987 ภาพนี้ถูกขายไปในราคา 53.9 ล้านดอลล่า ซึ่งเป็นภาพที่แพงที่สุดในตอนนั้น ปัจจุบันภาพนี้อยู่ที่พิพิธภัณฑ์เจ. พอล เกตตี ลอสแอนเจลิส
Sunflowers (1888)
ทานตะวัน (Sunflowers) คือชื่อของชุดภาพสีน้ำมันสองชุดที่แวน โกะห์วาดขึ้น ชุดแรกเป็นภาพของดอกทานตะวันที่วางบนพื้น ถูกวาดในปี 1886-1888 ที่ปารีส ส่วนชุดที่สอง เป็นภาพช่อดอกทานตะวันที่มีทั้งดอกตูม บาน และเหี่ยวเฉา เสียบรวมกันในแจกัน ถูกวาดในปี 1888-1889 ที่เมืองอาร์ล ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งภาพข้างต้นเป็นภาพดอกทานตะวันลำดับที่ 5 ที่อยู่ในชุดที่สอง เป็นภาพของดอกทานตะวัน 15 ดอกเสียบอยู่ในแจกัน ปี 1987 ถูกขายให้นักลงทุนชาวญี่ปุ่นในราคาเหยียบ 40 ล้านดอลล่า ทำลายสถิติภาพ Irises
Starry Night (1889)
เรียกได้ว่าเป็นผลงานที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักมากที่สุด และเป็นผลงานที่คนใช้มายืนยันว่า เขาเป็นบ้า มากที่สุด แวนโกะห์ ใช้เวลาเกือบหนึ่งปีเต็มในการเขียนรูปนี้ขึ้นมา เป็นภาพที่เขามองเห็นจากหน้าต่างโรงพยาบาลบ้าที่เขาพักรักษาตัวในเมืองซางต์-เรมี ฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1889 แต่ภายหลังอัลเบิร์ต บอยม์ (Albert Boime) นักประวัติศาสตร์ศิลปะชาวอเมริกัน ได้ออกมายืนยันว่า แวน โกะห์ ไม่ได้บ้า เพราะเขาได้วางแผน และวาดขึ้นมาจากภาพที่เขาเห็นจริง ๆ ไม่ใช่ภาพจากจินตนาการอย่างที่คนบอกกัน เขายังบอกอีกว่า "คนบ้าที่ไหนจะวาดรูปได้สวยงามขนาดนี้"
ที่มา : campus-star
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น