กองกำลังศักดิ์สิทธิ์แห่งธีบส์


กองกำลังศักดิ์สิทธิ์แห่งธีบส์

กองกำลังศักดิ์สิทธิ์(secred band troops) เป็น กองกำลังพิเศษของนครรัฐธีบส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในนครรัฐอิสระของกรีก โบราณ ความกล้าหาญและเข้มแข็งของกองกำลังนี้ เป็นที่เล่าขานในดินแดนกรีกยุคโบราณ ทว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขาไม่เหมือนกองทหารอื่นๆ คือ หน่วยนี้ประกอบด้วยคู่รักที่เป็นชายล้วน

ในอารยธรรมกรีกโบราณ ความรักระหว่างชายกับชายถือเป็นเรื่องปกติ อริสโตเติล นักปราชญ์ที่มีชื่อเสียง กล่าวไว้ว่า รักที่บุรุษมีให้กัน เป็นสิ่งที่สูงส่ง เนื่องจากในยามที่บุรุษมีเสน่หาต่อกัน พวกเขาได้หลอมรวมสติปัญญาอันสูงส่งของทั้งคู่เข้าไว้ด้วยกันด้วย

สาเหตุที่ชาวกรีกเชื่อว่า รักระหว่างชายกับชายเป็นสิ่งสูงส่ง ก็เนื่องด้วยในยุคโบราณ ชาวกรีกให้คุณค่าความเป็นคน สำหรับหญิงและชายไม่เท่าเทียมกัน โดยชาวกรีกถือว่า สตรีนั้นต่ำต้อย ด้อยค่ากว่าบุรุษมากมายนักและความรักของชายกับหญิงมีเพียงเพื่อการสืบทอดเผ่าพันธุ์เป็นสำคัญ แต่จะไม่ถือว่าเป็นความรักอันสูงส่ง เนื่องด้วยทั้งสองไม่มีความเท่าเทียมกัน ดังนั้นความรักที่จะถือว่าสูงส่งได้ ก็มีความรักในบุรุษด้วยกันเท่านั้น

กองกำลังศักดิ์สิทธิ์แห่งธีบส ก่อตั้งโดย กอกิดาส ในปีที่ 378 ก่อน ค.ศ. ประกอบพลหอกยาวซึ่งเป็นด้วยคู่รักชายล้วน 150 คู่ แต่ละคู่ จะเป็นหนุ่มรุ่นพี่ที่รักกับหนุ่มรุ่นน้อง พวกเขาใช้ชีวิตในค่ายด้วยกัน ฝึกรบด้วยกันและยามที่เข้าต่อสู้กับศัตรู ต่างคนก็จะไม่ทอดทิ้งกันและจะไม่แสดงความขลาดหรืออ่อนแอให้คู่รักของตนเห็น ซึ่งด้วยสาเหตุนี้เอง จึงทำให้หน่วยรบนี้กลายเป็นกองทหารที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้น โดยทุกครั้งที่สู้กับศัตรู พวกเขาจะไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว

หน่วยรบนี้ จะอยู่ในแถวฟาแลงซ์ของทหารราบและทำหน้าที่เข้าทำลายขบวนทัพและมุ่งสังหารผู้นำทัพฝ่ายตรงข้าม


ผลงานแรกของกองกำลังศักดิ์สิทธิ์ คือ การร่วมรบกับกองทหารรับจ้างเอเธนส์เพื่อทำสงครามชิงนครธีบส์คืนจากสปาตาร์ที่เข้ามายึดครอง ในปีที่ 378 ก่อน ค.ศ. โดยกองกำลังศักดิ์สิทธิ์ ทำหน้าที่เป็นพลหอกแนวหน้าเข้าปะทะกับข้าศึก ซึ่งในครั้งนั้น กองทัพธีบส์และเอเธนส์ได้รับชัยชนะ แม่ทัพสปาตาร์ถูกสังหารในที่รบ

หนึ่งปีหลังได้นครธีบส์กลับคืน กอกิดาสได้หายตัวไป และเพโลพิดาสขึ้นมาเป็นหัวหน้าหน่วยแทน ต่อมาในปีที่ 375 ก่อน ค.ศ. เพโลพิดาสนำกองกำลังศักดิ์สิทธิ์ 300 นาย พร้อมทหารม้า 200 นาย ปะทะกับทหารสปาตาร์ 1,800 นาย ที่เทกีรา โดยสามารถเอาชนะข้าศึกพร้อมทั้งสังหารแม่ทัพกับรองแม่ทัพสปาตาร์ได้

ต่อมาในปีที่ 371 ก่อน ค.ศ. สปาตาร์ได้ส่งทัพใหญ่ประกอบด้วย ทหารราบ 10,000 นายและทหารม้า 1,200 นายมาโจมตีธีบส์


ฝ่ายธีบส์ส่งทหารม้า 1,500 นาย ทหารราบ 6,000 นาย พร้อมทั้งกองกำลังศักดิ์สิทธิ์ ไปรับมือข้าศึกและเกิดการรบที่เลิคตรา ในภาคกลางของกรีก โดยกองกำลังศักดิ์สิทธิ์ทำหน้าที่เป็นกองหน้าบุกทะลวงแนวรบของสปาตาร์จนเสียกระบวนและถูกกองทัพธีบส์เข้าตีจนแตกพ่าย แม่ทัพสปาตาร์ตายในที่รบ

กองกำลังศักดิ์สิทธิ์แห่งธีบส์

อวสาน กองกำลังศักดิ์สิทธิ์มาถึง เมื่อกองทัพมาซิโดเนียของพระเจ้าฟิลิปยกเข้ารุกรานนครธีบส์ การประจัญบานครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ทุ่งเคโรเนีย ในบีโอเชีย ปีที่ 338 ก่อน คศ. กองทัพพันธมิตรธีบส์ เอเธนส์ต่อสู้กับผู้รุกรานจากแดนเหนืออย่างสุดกำลัง แต่ในขณะที่ทัพพันธมิตรกำลังจะได้เปรียบ ก็ถูกทัพม้ามาสิโดเนียที่นำโดยโอรสของฟิลิปเข้ากระหนาบอีกด้าน จนทัพกรีกแตกขบวนและถูกมาสิโดเนียรุกเข้าบดขยี้ ท้ายที่สุด กองทัพพันธมิตรก็แตกพ่ายและหนีออกจากสมรภูมิ ยกเว้นก็แต่กองกำลังศักดิ์สิทธิ์ของธีบส์เท่านั้น ที่แม้จะถูกกองทัพมาสิโดเนียเข้าล้อมไว้รอบด้าน พวกเขาก็ยังปฏิเสธที่จะยอมจำนน จนสุดท้ายก็พลีชีพหมดทุกคน

ศพของพวกเขาถูกฝังรวมกันในหลุมใหญ่ มีแผ่นศิลาวางทับอยู่ ซึ่งหลังสงครามสงบ ชาวธีบส์ได้สร้างรูปสลักสิงโตหินตั้งอยู่ด้านบน เพื่อระลึกถึงความกล้าหาญของพวกเขา

ว่ากันว่า วีรกรรมของกองกำลังศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ประทับใจโอรสของพระเจ้าฟิลิป นาม อเล็กซานเดอร์ ซึ่งเป็นผู้นำทัพม้าทำลายขบวนทัพพันธมิตรในศึกเคโรเนีย จนนำมาซึ่งอวสานของกองกำลังศักดิ์สิทธิ์ และเป็นผู้ที่ในเวลาต่อมา คือ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชผู้พิชิต

กองกำลังศักดิ์สิทธิ์แห่งธีบส์

เครดิตแหล่งข้อมูล : บันทึกประวัติศาสตร์

กองกำลังศักดิ์สิทธิ์แห่งธีบส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์