เก็บดีเทลเป๊ะ! จีวรลายดอกพิกุล เทรนด์พระสงฆ์ไทยเคยใส่จริงในอดีต


เก็บดีเทลเป๊ะ! จีวรลายดอกพิกุล เทรนด์พระสงฆ์ไทยเคยใส่จริงในอดีต

เชื่อว่าช่วงนี้หลายคนกำลังอินกับละคร "คุณพี่เจ้าขาดิฉันเป็นห่านมิใช่หงส์" กันอยู่ไม่น้อย!! ออกอากาศได้เพียง 2 ตอนแต่กระแสมาแรง เรตติ้งพุ่งกระฉูด

วันนี้เรามีเกล็ดความรู้เล็ก ๆ น้อยๆ มาฝากกันกับฉากพระสงฆ์ห่มจีวรลายดอกพิกุล แท้จริงแล้วหลายคนอาจไม่รู้ว่ามีอยู่จริงในอดีตยุคต้นรัตนโกสินทร์ โดยข้อมูลจาก ศิลปวัฒนธรรม บอกเอาไว้ว่า ครั้งหนึ่ง "พระสงฆ์ไทย" เคยห่มจีวรที่มีลวดลายดอกไม้ หรือ "จีวรลายดอกพิกุล"

ธรรมเนียมดังกล่าวพบมากในพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ในหลักฐานภาพถ่ายร่วมสมัย รวมถึงธรรมเนียมการสร้างพระพุทธรูปครองจีวรลายดอก ซึ่งเป็นลักษณะเด่นประการหนึ่งของศิลปกรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์

อนึ่ง จีวรคือส่วนหนึ่งของ "ผ้ากาสาวพัสตร์" ที่แปลว่าผ้าย้อมด้วยน้ำฝาด (น้ำต้มจากเปลือก-เเก่นไม้) หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ "ผ้าไตร" เป็นผ้าที่พระสงฆ์ใช้นุ่งห่มตามหลักศาสนา ประกอบด้วยผ้า 3 ผืน ได้แก่ "จีวร" (อุตราสงค์) ใช้ห่มด้านนอก "สบง" (อันตรวาสก) นุ่งห่มด้านล่าง และ "สังฆาฏิ" สำหรับนุ่งซ้อนหรือพาดบ่า

 




เก็บดีเทลเป๊ะ! จีวรลายดอกพิกุล เทรนด์พระสงฆ์ไทยเคยใส่จริงในอดีต

การนุ่งห่มผ้าไตรถือเป็นข้อกำหนดที่พระพุทธเจ้าประทานอนุญาตไว้ตั้งแต่พุทธกาล เป็นเอกลักษณ์ของพระสงฆ์ในพุทธศาสนา ซึ่ง "พระสงฆ์ไทย" แต่โบราณก็รับรูปแบบดังกล่าวมาด้วย ดังปรากฏในศิลปกรรมของพระพุทธรูปสมัยทวารวดี ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12-16

การห่มผ้าไตรยังเป็นหลักการสร้างรูปเคารพเนื่องในพุทธศาสนาและการนุ่งห่มของพระสงฆ์ไทยเรื่อยมา แม้รูปแบบการครองผ้าจะแตกต่างกันบ้างในแต่ละนิกาย ยุคสมัย และสกุลช่างทางศิลปะ แต่ปกติแล้ว ผ้าทั้ง 3 ผืน จะเป็นผ้าเรียบ ไม่มีลาย อย่างที่เราเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน

แล้วเหตุใดจึงมีภาพพระสงฆ์ไทยห่ม "จีวรลายดอกพิกุล" ในภาพถ่ายของ จอห์น ทอมสัน (John Thomson, ค.ศ. 1837-1921) ช่างภาพชาวสก็อต ที่เดินทางมาเยือนสยามในสมัยแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ระหว่าง พ.ศ. 2408-2409 (ค.ศ. 1865-1866)

เก็บดีเทลเป๊ะ! จีวรลายดอกพิกุล เทรนด์พระสงฆ์ไทยเคยใส่จริงในอดีต

"จีวรลายดอก" ที่ครั้งหนึ่งพระสงฆ์ไทยเคยนุ่งห่มมาจากไหน ทำไมปัจจุบันเราจึงไม่พบจีวรลักษณะนี้แล้ว?

การห่มจีวรลายดอกพิกุลนั้นเกิดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) เนื่องจากราชสำนักมีธรรมเนียมการถวายผ้าจีวรที่มีลวดลายดอกไม้แด่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ดังปรากฏใน จดหมายเหตุบัญชีผ้าพระกฐินและผ้าไตร จ.ศ. ๑๑๘๗ ว่ากันว่า การถวายจีวรลายดอกอาจมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว โดยพระพุทธเจ้าประทานอนุญาตเฉพาะลายดอกไม้ขนาดเล็ก สีสันไม่ฉูดฉาด หรือไม่เป็นลายแวววาว

"จีวรลายดอก" ที่นิยมถวายให้พระสงฆ์ในสมัยนั้น จะใช้ผ้าราคาสูงนำเข้าจากแคว้นเบงกอล ในอนุทวีปอินเดีย (ปัจจุบันคือ บังกลาเทศ) เป็นผ้าฝ้ายเนื้อบางละเอียด ทอเป็นลายดอกไม้-ดอกพิกุลขนาดเล็กทั้งผืน เรียกว่า "ผ้าย่ำตะหนี่" (Jamdani-ภาษาเปอร์เซีย) หรือย่ำตานี/ย่านตานี นำมาตัดเย็บและย้อมน้ำฝาดตามพระวินัย ก่อนนำถวายพระสงฆ์

สมัยรัชกาลที่ 3 เป็นต้นมา ยังมีความนิยมสร้างพระพุทธรูปและพระพุทธสาวกให้นุ่งห่มจีวรลายดอกด้วย ซึ่งก็เป็นการถอดแบบมาจากการนุ่งห่มของพระสงฆ์สมัยนั้น มีการครองจีวรลายดอกหลายรูปแบบ ทั้งลายดอกพิกุล ลายใบเทศ และลายพุ่มข้าวบิณฑ์

เก็บดีเทลเป๊ะ! จีวรลายดอกพิกุล เทรนด์พระสงฆ์ไทยเคยใส่จริงในอดีต

อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ว่าธรรมเนียมการถวายผ้าแพรมีลายแด่พระพุทธรูป มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 แล้ว เพียงแต่มานิยมแพร่หลายมากขึ้นสมัยรัชกาลที่ 3 จากธรรมเนียมการถวายจีวรลายดอกแก่พระสงฆ์นั่นเอง

การถวายจีวรลายดอกแด่พระสงฆ์ เสื่อมความนิยมลงในสมัยรัชกาลที่ 4 เพื่อลดทอนความหรูหราฟุ่มเฟือย สอดคล้องกับพระราชนิยมในการสร้างพระพุทธรูปที่ได้เปลี่ยนไปในทางเสมือนจริงตามแนวสัจนิยม เมื่อถึงสมัยรัชกาลที่ 5 มีเพียงพระเถระชั้นผู้ใหญ่บางรูปในกรุงเทพฯ เท่านั้น ที่ยังนิยมครองจีวรลายดอกพิกุลอยู่

และท้ายที่สุด "เทรนด์" ดังกล่าวก็หายไป แต่เรายังพบการสร้างพระพุทธรูปหรือพระพุทธสาวกที่ครอง "จีวรลายดอก" ในสกุลช่างราชสำนัก และงานพุทธศิลป์ตามวัดหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์อยู่ ทั้งกลายเป็นอัตลักษณ์หนึ่งของศิลปกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ เพราะไม่พบในงานศิลปกรรมสมัยอื่นของไทย

เก็บดีเทลเป๊ะ! จีวรลายดอกพิกุล เทรนด์พระสงฆ์ไทยเคยใส่จริงในอดีต


เก็บดีเทลเป๊ะ! จีวรลายดอกพิกุล เทรนด์พระสงฆ์ไทยเคยใส่จริงในอดีต


เก็บดีเทลเป๊ะ! จีวรลายดอกพิกุล เทรนด์พระสงฆ์ไทยเคยใส่จริงในอดีต

เครดิตแหล่งข้อมูล : ศิลปวัฒนธรรม


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์